มาสด้าโตสูงสุด กวาดยอดขายรวมปี`53 ทะลุ 35,000 คัน ปี`54 ยันเดินหน้าเต็มพิกัดเปิดรถใหม่ทุกไตรมาส


กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 12 มกราคม 2554 – บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยตัวเลขยอดขายรถยนต์มาสด้าประจำปี 2553 ที่ผ่านมา โดยยังคงเป็นรถยนต์จากญี่ปุ่นที่เติบโตสูงสุด ด้วยยอดขายทะลุเป้าหมายเกิน 35,000 คัน และยังทำลายทุกสถิติของมาสด้าลงอย่างราบคาบ ปีใหม่นี้ส่งรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตรุ่นใหม่และรุ่นพิเศษออกสู่ตลาดทุกไตรมาส พร้อมผลักดันเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ SKYACTIV ให้ลูกค้าชาวไทย และเตรียมเดินหน้ารุกตลาดปี 2554 ด้วยกิจกรรมการตลาดและการขายที่เข้มข้นตลอดทั้งปี สร้างความมั่นใจลูกค้าด้วยเครือข่ายโชว์รูม-ศูนย์บริการที่ครอบคลุมถึง 130 แห่งภายในสิ้นปี หวังมัดใจลูกค้าชาวไทยทั่วทั้งประเทศ ตั้งเป้ายอดขายสำหรับปีนี้ 38,000 คัน เติบโตสุดสุดถึง 10 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าตลาดรถยนต์รวมปีนี้ได้เห็นยอด 840,000 คัน
มร. โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของมาสด้าในปี พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา ได้สร้างสถิติใหม่ให้เกิดขึ้นหลายอย่างด้วยกัน และถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับมาสด้า ประเทศไทย อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยในปีนี้มาสด้าประสบความสำเร็จอย่างงดงามเกินความคาดหมาย ด้วยความเชื่อมั่นอย่างสูงจากลูกค้ามาสด้าจึงมียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้นสูงถึง 35,147 คัน สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งมาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นมากถึง 165 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับยอดขาย 13,241 คัน ในปี 2552 ที่ผ่านมา นับว่ามีอัตราการเติบโตของยอดขายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น
สำหรับยอดขายแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 ที่ยังคงความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ได้สร้างยอดขายที่น่าประทับใจอีกครั้งจำนวน 5,798 คัน มีอัตราการเติบโตสูงถึง 21 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วยสปอร์ตปิกอัพมาสด้า บีที-50 ทำยอดขายสูงสุดจำนวน 6,712 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรถในกลุ่มพรีเมี่ยมสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 จำนวน 41 คัน และสปอร์ตครอสโอเวอร์สุดหรู 7 ที่นั่ง มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 ได้ยอดขายทั้งสิ้น 59 คัน และที่กำลังร้อนแรงที่สุด โดยยังคงได้รับความนิยมสูงสุดอยู่ในขณะนี้คือ รถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 ใหม่ มียอดจำหน่ายรวมถึง 22,537 คัน โดยแบ่งเป็นรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู 11,139 คัน และรุ่นซีดาน 4 ประตู จำนวน 11,398 คัน ส่วนยอดจองยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้มาสด้าได้เร่งส่งมอบให้กับลูกค้าเพื่อสามารถรับรถได้ทันใจไม่ต้องรอ
มร. โชอิชิ ยูกิ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่ดีของมาสด้า ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน และเราเชื่อมั่นในโอกาสที่จะสามารถก้าวเติบโตยิ่งๆ ขึ้นไปในตลาดนี้ บริษัทแม่ให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ และตั้งเป้าหมายที่จะได้ส่วนแบ่งตลาดไม่ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ในอนาคตอันใกล้นี้ สำหรับใน

ปี 2554 นี้ มาสด้าได้เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่พร้อมทั้งรุ่นพิเศษออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีและในทุกๆ ไตรมาส โดยเฉพาะตลาดรถยนต์นั่ง มาสด้าเตรียมเปิดตัวมาสด้า3 โฉมใหม่ในไตรมาสแรกของปีนี้ และยังมีอีกหลายรุ่นที่จ่อคิวเปิดตัวสร้างความคึกคักตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ยังมีแผนการที่ชัดเจน และเทคโนโลยีเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกในอนาคต ในขณะที่บริษัทรถยนต์หลายแห่งเน้นการใช้เชื้อเพลิงทางเลือก และเทคโนโลยีไฮบริด แต่สำหรับมาสด้ายังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐานในปัจจุบันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่ เครื่องยนต์ ชุดส่งกำลัง แชสซีส์ ช่วงล่าง เป็นต้น ก่อนจะประยุกต์ใช้เทคโนโลยีไฮบริด และเทคโนโลยีรถระบบไฟฟ้าซึ่งมีมูลค่าค่อนข้างสูง ขณะนี้ มาสด้ากำลังมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ตอบสนองความต้องการในจุดนี้ ที่เรียกว่า เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ SKYACTIV ที่สามารถพัฒนาให้มีประสิทธิภาพให้สูงขึ้นทั้งด้านของพละกำลังของเครื่องยนต์ รวมทั้งการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้นถึง 30% และให้ค่าไอเสียที่ต่ำมากอันส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะวันนี้มาสด้าสามารถพัฒนาให้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ ที่กำลังจะติดตั้งเป็นครั้งแรกในมาสด้า เดมิโอ หรือมาสด้า2 ประเทศญี่ปุ่น โดยสามารถสร้างสถิติประหยัดเชื้อเพลิงได้สูงที่สุดถึง 30 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าเรายังสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีเหล่านี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ระบบไฟฟ้า


สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับปีที่ผ่านมานั้นถือเป็นปีทองและเป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับมาสด้า ในการสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงลูกค้ามากที่สุดและเราได้ทำกิจกรรมการตลาดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มอย่างชัดเจน ด้วยการชูกลยุทธ์ด้านการตลาดที่แตกต่างจากเข้าอื่น จนทำให้ยอดขายรถยนต์มาสด้าทำลายทุกสถิติที่เคยเกิดขึ้น และสำหรับปีนี้ยังเป็นปีที่มาสด้าจะได้เฉลิมฉลองในโอกาสที่มาสด้าได้ดำเนินธุรกิจอยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาว นานถึงเกือบ 60 ปี ซึ่งมาสด้าได้เตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปีทั้งด้านการขายสำหรับลูกค้าใหม่และบริการหลังการขายแก่ลูกค้าปัจจุบันเพื่อตอบแทนลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในรถยนต์มาสด้ามาโดยตลอดนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการตลาด, แคมเปญโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ที่ออกแบบให้แสดงบุคลิกที่เข้ากับแบรนด์และเน้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซูม-ซูม เป็นหลัก
ทางด้านสุรีทิพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า จากตัวเลขยอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของมาสด้า เป็นบทพิสูจน์ถึงทิศทางการทำตลาดของมาสด้าในประเทศไทยที่เดินมาถูกทาง โดยมาสด้าได้ชูกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างจากเจ้าอื่นและเจาะลึกถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมถึงกำหนดยุทธศาสตร์ในระยะยาว เพื่อสร้างความยั่งยืนและการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการสร้างการรับรู้ในเรื่องของคุณภาพและสมรรถนะของรถผ่านการสื่อสารการตลาดครบวงจรมาโดยตลอด โดยเฉพาะการใช้สื่อรูปแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม สะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการเข้าถึงซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก รวมทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ การทำโปรโมชันที่สร้างสรรค์ โดยมีขั้นตอนที่ง่ายไม่ซับซ้อน จะทำให้กลุ่มเป้าหมายอยากเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อสร้างความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์

ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมายอดขายรถยนต์มาสด้าเติบโตสูงสุดในประวัติศาสตร์การขายรถของมาสด้า นอกจากการแนะนำรถยนต์ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าแล้ว การให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย การขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายจากเดิมที่มีอยู่ 105 แห่ง เพิ่มเป็น 120 แห่งในปีที่ผ่านมา และปีนี้คาดจะเพิ่มเป็น 130 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ มาสด้ายังให้ความสำคัญกับการอบรมพนักงานขาย ที่ปรึกษาการขาย ช่างเทคนิค รวมถึงการรับบุคลากรเพิ่มเติมเพื่อรองรับการบริการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้นแล้วอีกสิ่งที่มาสด้าให้ความสำคัญมาโดยตลอดคือ คุณภาพของการบริการที่มาสด้าต้องเป็นเลิศและเป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ
ยอดขายรถยนต์มาสด้าเฉพาะเดือนธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้นสูงถึง 4,030 คัน สูงสุดในประวัติศาสตร์การขายรถของมาสด้าในประเทศไทย โดยมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 36% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดขายอยู่ที่ 2,960 คัน โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า2 ที่ยังคงความร้อนแรงมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัว โดยมียอดขายจำนวนทั้งสิ้นสูงถึง 2,322 คัน ตามมาด้วยรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 ที่มาพร้อมช่วงล่างอัจฉริยะ DE-S มีจำนวนทั้งสิ้น 1,030 คัน สูงสุดในรอบ 3 ปี และตามมาด้วยรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า3 มีจำนวนทั้งสิ้น 669 ซึ่งเป็นยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเป็นต้นมา


ดังนั้น ลูกค้ามาสด้าทุกท่านไม่ควรพลาดโอกาสการในการเป็นเจ้าของยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ตจากมาสด้า ที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ที่เร้าใจ แบบ ซูม-ซูม ด้วยสมรรถนะเป็นเยี่ยม ให้ความมั่นใจในความปลอดภัย อบอุ่นใจตลอดการเดินทาง พร้อมทดลองขับก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของ และรับข้อเสนอสุดพิเศษจากมาสด้าได้แล้ววันนี้ โดยศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของข้อเสนอได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั้ง 120 แห่งทั่วประเทศ
รถยนต์ของมาสด้าเป็นที่คุ้นเคยในเมืองไทยมานานกว่า 60 ปี และยังคงดำเนินบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย มาสด้ามุ่งมั่นในการนำอารมณ์สนุกสนานวัยเด็กกลับมาสู่ทุกท่านอีกครั้ง ด้วยการผลิตรถยนต์ภายใต้แนวคิด “ซูม-ซูม” อันเปี่ยมไปด้วยคุณลักษณะแห่งความ “ท้าทาย” “สร้างสรรค์” และ “ร่าเริง” เพื่อให้ทุกการขับขี่ของคุณไม่ใช่เพียงการเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง นอกเหนือจากยนตรกรรมอันทรงเอกลักษณ์แล้ว เรายังทุ่มเทอย่างหนักในการพัฒนาการบริการหลังการขายเพื่อให้ลูกค้าของมาสด้าทุกท่านได้รับความพึงพอใจ เพราะเรายึดมั่นว่า รอยยิ้มของท่านคือความภาคภูมิใจของเรา
เชิญสัมผัสและทดลองขับรถสปอร์ตมาสด้า2 ใหม่ รถยนต์นั่งสปอร์ตซีดานมาสด้า3 รถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 สปอร์ตปิคอัพพลังแรง และรถสปอร์ตโรดสเตอร์มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของมาสด้า 120 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มาสด้า สปีดไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2661-9880 หรือต่างจังหวัดโทรฟรี ได้ที่หมายเลข 1-800-226-408
###################################

PREMSAK@CARONLINE.NET

Facebook Comments