Categories: ข่าว

มาสด้าโตสวนกระแส 26% ยอดขายทะลุ 21,000 คัน

บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ด้วยปริมาณยอดขายรถยนต์มาสด้าทุกรุ่นสูงถึง 21,000 คัน เติบโตกว่า 25.7% เกินความคาดหมาย ขยับขึ้นครองอันดับ 3 ตลาดรถเก๋งอย่างถาวร จากการที่ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในการสร้างแบรนด์ รวมทั้งคุณภาพของรถยนต์มาสด้าที่วางจำหน่ายในตลาดภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เตรียมส่งรถยนต์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดลงตลาดในครึ่งปีหลังอีก 3 รุ่น มั่นใจยอดขายทั้งปีทะลุ 42,000 คันแน่นนอน


นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดรถยนต์โดยรวมของประเทศไทยได้รับผลพวงจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดย 6 เดือนแรก ยอดขายเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นคัน เนื่องจากได้รับผลกระทบทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ในครึ่งปีแรกยอดขายโดยรวมของอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ 370,000 คัน ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าสถานการณ์จะมีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้น คาดว่ายอดขายรถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 410,000 คัน มาสด้ายังเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในปี 2559 จะทะลุถึง 780,000 คัน ด้วยปัจจัยด้านบวกและการส่งสัญญาณที่ดี จะส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไปถึงเป้าหมาย มีปัจจัยหลักสำคัญดังต่อไปนี้


• การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นตามการใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนเป็นหลัก ส่วนหนึ่งเพราะกำลังซื้อของครัวเรือนเกษตรเริ่มปรับดีขึ้นจากราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้นและปัญหาภัยแล้งที่คลี่คลาย กำลังซื้อโดยรวมของครัวเรือนที่ค่อยๆ ปรับดีขึ้น
• การใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์เริ่มปรับดีขึ้นดังจะเห็นได้จากยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากแผ่วลงในช่วงก่อนหน้า สอดคล้องกับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่การขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขายและอีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดของมาสด้าและคู่แข่ง
• ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่องและเป็นแรงส่งที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยจำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวร้อยละ 7.6 จากระยะเดียวกันปีก่อน
• รถยนต์คันแรกใกล้ครบกำหนดระยะ 5 ปีในการถือครอง จึงเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมองหารถยนต์ใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น
• เทรนด์ลูกค้าเปลี่ยน: ลูกค้ามองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุมภายในคันเดียว และมีความทันสมัย ให้ความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ ครบครันด้วยเทคโนโลยีมากขึ้น
ทั้งนี้จากผลการวิจัยของมาสด้าพบว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากอดีต โดยมีความต้องการใช้รถยนต์ที่สามารถตอบสนองที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างลากหลายและครบครันภายในคันเดียว มีการค้นหาเปรียบเทียบข้อมูล ไตร่ตรองมากขึ้น หรือมีความพิถีพิถันในการเลือกซื้อรถยนต์มากขึ้น ให้ความสนใจในรายละเอียดของรถมากขึ้น ในส่วนของเป้าการขายมาสด้ายังยืนยันว่าปีนี้จะทุละ 42,000 อย่างแน่นอน เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 โดยเฉพาะการเปิดตัวรถยนต์ร่นใหม่เข้าสู่ตลาด พร้อมๆ กับการเน้นนโยบายหลังการขายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เน้นการดูแลเอาใจใส่ลูกค้ามาเป็นอันดับ 1 เพื่อส่งเสริมแบรนด์ให้แข็งแกร่งและทำให้มาสด้า กลายเป็นแบรนด์ที่ลูกค้ารัก
สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2559 ที่ผ่านมานั้น มาสด้ายังคงความสำเร็จไว้ได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับยอดขายของมาสด้าในปี 2558 แล้ว โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายเติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 ในขณะที่ตลาดหดตัวลง ประมาณการจากยอดจำหน่ายของตลาดรวมทุกยี่ห้ออยู่ที่ 370,000 คัน เป็นยอดขายของมาสด้าที่ทะลุเป้าถึง 21,160 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 5.7% สูงสุดนับตั้งแต่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ที่สำคัญมาสด้าเป็นค่ายเดียวที่ยอดขายพุ่งขึ้นได้สูงสุดในตลาดถึง 25.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่ผ่านมา ที่มียอดขายอยู่ที่ 16,837 คัน โดยยอดขายในครึ่งปีแรกแบ่งออกเป็น
• รถยนต์นั่ง จำนวน 13,500 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 จำนวน 10,986 คัน
• รถอเนกประสงค์ จำนวน 4,512 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 160% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 จำนวน 1,734 คัน
กระแสความแรงอย่างต่อเนื่องของมาสด้าหลังจากมีรถยนต์หลากหลายรุ่นใหม่ภายใต้ 6th Generation Products ส่งผลให้มาสด้าโดยรวมครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 5.7% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์รถยนต์นั่งที่มาสด้าสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 13% กลายเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง และในตลาดรถอเนกประสงค์นั้น มาสด้าสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 8.0% (รวม PPV) และครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 18.6% ในกลุ่มรถอเนกประสงค์ที่ไม่รวม PPV
นอกจากนี้ยอดขายรถยนต์มาสด้าเองยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและค่อนข้างสวนกระแสกับค่ายรถอื่นๆ เนื่องจากปัจจัยภายนอกที่น่าจะมีส่วนเอื้อต่อยอดขายรถโดยรวมของมาสด้า อาทิ เทคโนโลยีสกายแอคทีฟและโคโดะดีไซน์ รวมทั้งการได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีจนเกิดกระแสแนะนำแบบปากต่อปาก อีกทั้งมาสด้าเองก็มีการเสริมทัพด้วยรถยนต์รุ่นใหม่และแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของลูกค้าและดึงดูดลูกค้าสู่แบรนด์อยู่ตลอดเวลา
อีกหนึ่งปัจจัยแห่งความความสำเร็จ คือ การเปิดตัวแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาดประเทศไทยมากถึง 5 รุ่นเมื่อปีที่ผ่านมา รวมทั้งการปรับโฉมและเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆ อีก 4 รุ่นในช่วงครึ่งปีแรก รวมทั้งการสื่อสารแบรนด์อย่างชัดเจน มาสด้าก้าวข้ามทุกขีดจำกัดของการขับขี่ ทำให้เกิดเป็นความแปลกใหม่ และแตกต่าง ฉีกหนีจากกฎเกณฑ์แบบเดิมๆ ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับที่ดีอย่างคาดไม่ถึง สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของรถยนต์แต่ละเซกเมนต์ได้อย่างแท้จริง โดยรถยนต์ที่ช่วยสร้างความแรงของยอดขายมาสด้าโดยรวมในครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา ประกอบไปด้วย
1. รถยนต์นั่งมาสด้า2 รุ่นปี 2016 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1500 ซีซี และสกายแอคทีฟเบนซิน 1300 ซีซี ซึ่งมีให้เลือกทั้งรุ่นแฮตช์แบค และรุ่นซีดาน มีการเพิ่มรุ่นเข้ามาโดยการเพิ่มไฟหน้า LED และกล้องมองหลัง รวมทั้งการเพิ่ม Day Time Running Lamp ประกอบกับโครงสร้างราคาภาษีสรรพสามิตใหม่ที่เอื้อให้รถยนต์ที่สามารถประหยัดน้ำมันได้จริงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทำให้รถมาสด้า2 มีการปรับราคาลดลงตามสัดส่วนที่ของอัตราภาษีฯใหม่ ทำให้เป็นเจ้าของได้ง่ายมากขึ้น ส่งผลให้มาสด้า2 กลายเป็นรถยนต์ที่ให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา และยังคงครองใจลูกค้าอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นรถยนต์รุ่นที่มียอดขายสูงสุดของมาสด้า
2. New Mazda CX-5 โฉมใหม่ ที่อัดแน่นไปด้วย 4 Key Pillars ของมาสด้า ทั้งโคโดะ ดีไซน์ และเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ระบบความปลอดภัย i-Activsense และการเชื่อมต่อโลกการสื่อสาร MZD connect ที่สมบูรณ์แบบที่สุด มีมาให้เลือกทั้งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซลขนาด 2200 ซีซี ในรุ่น 2WD และ AWD และสกายแอคทีฟเบนซินขนาด 2000 ซีซี เพิ่มความสปอร์ตหรูหรามีระดับด้วยไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ สร้างสีสันให้กับตลาดนี้ SUV และสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง
3. การปรับเพิ่มอุปกรณ์ในรถยนต์นั่งมาสด้า3 ด้วยการใส่อุปกรณ์ i-Stop เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
4. การเริ่มส่งมอบรถสปอร์ตโรดสเตอร์ระดับตำนานอย่าง มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา เป็นการสิ้นสุดการรอคอยสำหรับแฟนๆ ผู้หลงใหลรถยนต์แห่งตำนานคันนี้ และเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับในครึ่งปีหลังนี้ มาสด้ายังคงเน้นการเพิ่มเทคโนโลยีในผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมสมรรถนะในการขับขี่และการประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ตอบสนองการใช้งานและมาตรฐานที่เข้มงวดมากขึ้นในอนาคต สำหรับแผนเพิ่มยอดขายในปีนี้นั้น มาสด้ามุ่งหวังที่จะเน้นสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นหลักเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและคุณค่าให้กับแบรนด์ ควบคู่ไปกับการออกแคมเปญกระตุ้นยอดขาย จากผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า มาสด้านั้นเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีอัตตราการเติบโตสูงสุด ซึ่งการเติบโตของมาสด้านี้เป็นผลมาจากการมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์และเน้นความเป็นพรีเมียมแบรนด์ที่มาสด้าได้บุกเบิกเมื่อปี 2558 และในครึ่งปีหลังของ พ.ศ. 2559 นี้ มาสด้าก็ยังคงมั่นใจว่าจะยังเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถบรรลุเป้าหมายยอดขาย 42,000 คัน ในปีนี้ได้อย่างแน่นอน พร้อมส่วนแบ่งการตลาด 5.4% โดยเรายังคงมีเป้าหมายที่จะรักษาอันดับ 3 ในกลุ่มรถยนต์นั่ง
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า นอกเหนือจาก 4 Pillars หลักของมาสด้าที่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องแล้ว ในครึ่งปีหลังนี้ มาสด้าเตรียมนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดประเสไทย พร้อมทั้งยังมุ่งเน้นที่จะเสริมสร้างคุณค่าต่างๆ ของรถยนต์มาสด้าที่ส่งมอบต่อลูกค้าไปตลอดการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นคุณค่าด้านประโยชน์ใช้สอย ด้านอารมณ์และความสุข เพื่อเสริมสร้างคุณค่าความเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า และตอบสนองคนรุ่นใหม่และกลุ่มคนที่มีแนวคิดที่ไม่ได้ต้องการเพียงแค่รถยนต์ แต่ต้องการรถยนต์ที่สะท้อนบุคลิกของตัวเอง และสร้างสีสันกับไลฟ์สไตล์ของพวกเขาด้วยรูปลักษณ์ที่โดนใจและสมรรถนะที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ นอกเหนือจากความสมบูรณ์แบบของการใช้งาน ส่วนในแง่ของคุณภาพผลิตภัณฑ์มาสด้ามุ่งมั่นที่จะยกระดับผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ภายใต้สายการผลิตที่มีแพลตฟอร์มเดียวกันทั่วโลกและอยู่ภายใต้มาตรฐานการผลิตเดียวกันเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพรถยนต์มาสด้าเฉกเช่นเดียวกับลูกค้ามาสด้าทั่วโลก


นอกจากจะประสบความสำเร็จด้านยอดขายแล้ว ในปีนี้มาสด้าย้ำเน้นในเรื่องของการบริการหลังการขายเป็นนโยบายหลักสำคัญ กลยุทธ์การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าในการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า การพัฒนาบุคลากรในฝ่ายขายและฝ่ายบริการ โดยมุ่งเน้นในการดูแลลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งในส่วนของการดูแลลูกค้านั้น ณ ปัจจุบันจากผลสำรวจความพึงพอใจลูกค้าด้านบริการหลังการขาย มาสด้าก็ทำได้ดีขึ้นกว่าปี 2557 ในด้านผู้ให้คำแนะนำในการบริการและสถานที่รับบริการ ซึ่งนับเป็นสัญญาณอันดีในการแสดงถึงความทุ่มเทของมาสด้าในการดูแลลูกค้าหลังการขาย ในด้านคุณค่าของการเป็นเจ้าของรถ หรือ Cost of Ownership มาสด้ามีการพัฒนาปรับปรุงด้านนี้อย่างต่อเนื่อง อันจะเห็นได้จากผลสำรวจ JD Power ในปี 2558 ที่มาสด้าได้รับการจัดลำดับเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในด้านรถยนต์นั่งในการให้บริการด้านการขาย (SSI) จากผลการสำรวจฯ
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินทางของมาสด้าด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มความสามารถมาจนถึงวันนี้ มาสด้าจะไม่ใช่เพียงแค่แบรนด์ที่ลูกค้าเลือก แต่จะแบรนด์ที่ลูกค้ารัก และแนะนำให้กับคนที่ลูกค้ารักต่อไปอีกด้วย และจะขยายใหญ่จนกลายเป็น ”สังคมคนรักมาสด้า” ขนาดใหญ่ สำหรับฐานลูกค้าปัจจุบันของมาสด้าก็เป็นสิ่งที่ทางแบรนด์ให้ความสำคัญมาตลอด เรามีการจัดกิจกรรมกับทางลูกค้าและชมรมคนรักมาสด้าต่างๆ ทุกปีเพื่อให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมและสืบทอดสายสัมพันธ์อันแสนพิเศษระหว่างแบรนด์และลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น Mazda Motorsport Day และ Jinba-Ittai Academy เพื่อส่งเสริมความรักและความผูกพันต่อแบรนด์มาสด้า จนลูกค้ากลายมาเป็น brand ambassador เป็นกระบอกเสียงสำคัญให้กับแบรนด์ และยังจะมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายในปีนี้เพื่อส่งเสริมสายสัมพันธ์อันดีต่อลูกค้าหลังจากที่ประสบความสำเร็จกับการเจาะกลุ่มลูกค้าสำหรับรถยนต์นั่งในทุกรุ่นในปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดเป็นภาวะลูกค้าเก่าเป็นผู้สร้างลูกค้าใหม่ในที่สุดกลายเป็นครอบครัวมาสด้าอย่างเหนียวแน่น ซึ่งสามารถถ่ายทอดจากความประทับใจที่เกิดขึ้นจริงจากรุ่นสู่รุ่น
ความสำเร็จที่ผ่านมา และความมุ่งมั่นสู่เส้นทางในอนาคต ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ ความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สู่ตลาดประเทศไทย ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้คือการขับเคลื่อนของมาสด้าที่จะเกิดขึ้นภายในครึ่งปีหลังของปี พ.ศ. 2559 นี้ เพื่อต่อยอดความสำเร็จ และมุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจตลอดไป

Bangkok – Thailand, 12 July 2016 – Mazda Sales (Thailand) Co., Ltd recently revealed its unprecedented market success of the company’s business operations in the first half of 2016; Mazda posted new vehicle sales of 21,000 units of its entire model range, a 25.7% growth rate which exceeded expectations – and more importantly catapulted Mazda to the 3rd-best selling brand in the assembler car segment of the Thai automobile market.

Mazda’s overwhelming success was attributed to customer confidence in the automaker’s unique brand-building strategies which highlights world-class quality of Mazda with the underlying concept of Skyactiv technology. Mazda will introduce new models and its advanced technology in the latter half of 2016 comprising of 3 models to spearhead its annual sales target of over 42,000 units.

Hidesuke Takesue, President of Mazda Sales (Thailand) Co., Ltd, said, “The current overall vehicle market in Thailand is feeling the effects of the economic downtrend since the end of 2015. The first 6 months averaged vehicle sales of about 60,000 units due a barrage of internal and external factors. The first half of 2016 saw total vehicle sales of about 370,000 units, while the latter half is expected to be brighter with a volume of 410,000 units.”

Mr. Hidesuke added, “Mazda is confident that the industry will absorb demand of over 780,000 units by year’s end owing to positive factors which will drive the total vehicle market to reach the forecasted target. ”The factors contributing to the domestic market’s annual sales target of 780,000 units are as follows:

  • Private sector consumption and spending of consumer durables increased due to an improvement of household purchasing power from higher agricultural product prices and alleviation of drought problems. Overall consumer spending power of households are gradually improving.
  • Spending of consumer durables in the automobile and motorcycle segments are showing signs of improvement based on increased sales in May and June when compared to the same period last year. After a brief downtrend which coincided with an expansion of automobile leasing during the same period when compared with last year. A key factor that fueled the aforementioned growth came from aggressive sales promotion campaigns that stimulated vehicle sales; in addition to the various new vehicle model launches by Mazda and its competition.
  • The tourism sector expanded 7.6 % over last year which served as the primary stimulus of the local economy of Thailand.
  • The 1st Car policy is entering its 5th year of car ownership, thus creating the opportunity for consumers to consider new alternatives which meet their purchase requirements.
  • Changing customer trends: consumers are looking for a vehicle product that meets their integrated and discerning requirements in function – the vehicle product has to be modern, deliver a sense of pride in ownership experience with more enhanced technology levels.

That said, research results by Mazda revealed that consumer behavior is experiencing a paradigm shift – demand for an automobile capable of delivering a complete range of multi-purpose functions that focus on discerning customer requirements. Customers research product data, conduct comparisons and carefully though-out purchase decisions; or are extra careful in their decision making, while pay interest in the technical details of the vehicle.

Mazda is still adamant in its ability to achieve annual sales volume of over 42,000 units. The local economy is showing signs of improvement starting from the start of the 2nd quarter via new model introductions to the market; in conjunction with more aggressive and effective Aftersales policies which emphasize personalized service for customers as the top priority aimed at strengthening the Mazda brand and transforming Mazda as the automobile brand which customers love.

In the first half of 2016, Mazda will continue its momentum of success when compared to 2015, especially in the first 6 months of this year, new vehicle sales has increased when compared with the same period last year. Mazda’s market share of 5.7% is unprecedented and its highest (since Mazda started its business operations in Thailand), more importantly Mazda’s sales growth of 25.7% is the market’s highest when compared with the same period last year. As the total vehicle market of 370,000 units is contracting, Mazda has achieved sales of 21,160 units for 5.7% market share, when compared to last year’s total of 16,837 units. Mazda vehicle sales in the 1st half of this year is divided into the following category segments:

  • Passenger cars 13,500 units, up 23% when compared to last year’s total of 10,986 units.
  • Sport Utility Vehicles 4,512 units, up 160% when compared to last year’s total of 1,734 units.

The continuous strong sales momentum of Mazda after a barrage of new product launches under the 6th Generation Products, resulting in Mazda achieving 5.7% market share. Mazda captured 13% market share in the passenger car segment, enabling it to clinch the 3rd spot in automobile rankings in passenger car sales. As for SUV sakes, Mazda posted 8.0% market share (including PPV), while achieving 18.6% market share in the SUV segment (excluding PPV).

 

Moreover, Mazda vehicle sales is still showing positive growth signs and market resilience when compared to other automakers. The aforementioned sales success of Mazda is a result stemming from external factors – Mazda’s Skyactiv technology, KODO design concept and the overwhelming customer response leading to word-of-mouth phenomenon.

 

In addition, Mazda has enhanced its product lineup with new models and attractive sales campaigns aimed at stimulating customer interest – while attracting customers to the Mazda brand at all times. Another success factor is the launching of 5 new Mazda products last year, including model changes, and addition of accessories in 4 models during the first half of 2016; including the effective brand communication of Mazda’s ability to surpass the existing limits of drivability resulting in a new unique era and differentiation from the conventional – which was greeted with positive response that exceeded expectations. All of the above met the requirements of every vehicle segment in the truest sense. Mazda vehicle products that spearheaded the brand’s success in the first half of 2016 consisted of the following:

  1. The 2016 Mazda2 passenger car features the Skyactiv Clean Diesel engine with a 1500 cc displacement and the Skyactiv petrol 1300 cc which is offered in hatchback and sedan variants; additional models feature new LED headlights and rear view camera, and the Day Time Running Lamp technology which includes the new Excise tax price structure for automobiles capable of achieving fuel efficiency and are environment-friendly.
  2. The Mazda2 has lowered its price tag based on the new Excise tax which enables for affordable ownership. The Mazda2 now features excellent value, value-for-money and earned its way into the hearts of the customer by becoming the best-selling Mazda model.
  3. The New Mazda CX-5 is packed with Mazda’s 4 Key Pillars, the KODO design concept, Skyactiv technology, I-Activesense safety system, and the connection to the world of communication with the ultimate MZD connect system.
  4. Mazda offers the Skyactiv Clean Diesel 2200 cc engine in the 2WD and AWD versions; the Skyactiv petrol 2000 cc with enhanced premium sporty features with the newly designed LED front lamps which adds movement to the SUV segment and higher sales volume on a continuous basis.
  5. The addition of a higher equipment level for the Mazda3 passenger car consists of the i-Stop feature which contributes to improved fuel efficiency.
  6. Customer deliveries of the legendary Mazda MX-5 Roadster in January marked the end of the long anticipated wait for enthusiasts who have had a fascination for this iconic roadster which has helped brand image for the Mazda brand.

 

Mr. Hidesuke said, “The latter half of 2016 will see Mazda emphasize the incorporation of technology in its products to enhance driving performance and fuel efficiency to meet the discerning functional needs of customers and stringent standards. As for Mazda’s plan to increase sales volume this year, Mazda will emphasize stronger image and value for the brand. This will be combined with sales promotion campaigns to stimulate sales.”

 

He added, “Based on Mazda’s first half year performance in 2016, it is clear that Mazda is an automaker with the highest growth rate resulting from successful measures designed to strengthen the brand and focused effort to position itself as a premium brand which Mazda initiated in 2015,” Mr Hidesuke then commented, “And in the latter half of 2016, Mazda is still confident of its ability to grow its business continuously by achieving annual sales of 42,000 units by year’s end with 5.4% market share and the 3rd best-selling brand in the passenger car segment.”

 

Thee Permpongpanth, Marketing Director, said that apart from the 4 Pillars of Mazda which is developing continuously, “The latter half of 2016 for Mazda will see the introduction of new technology to Thailand and an emphasis on creating various values of the Mazda car being delivered to customers. Such values consists of functionality of emotions and happiness to create value for the Mazda ownership experience…meeting the needs of the younger generation who want more than a car but demand a product that reflects their individual personality and the creation of a unique lifestyle along with a fun-filled motoring performance,”

 

Mr. Thee added that apart from the perfection of engineering functionality, the product quality of Mazda strives to raise its world class quality standard to be one and the same all over the world. Through Mazda’s production line which uses a single platform all over the world, and a single global production standard which caters to building customer confidence in Mazda’s quality for customers all over the world.”

 

Apart from the unprecedented sales success of Mazda this year, Mazda will place top priority on its Aftersales service operations, customer service strategy aimed at creating the best customer ownership experience of a Mazda car, development of human resources in sales and service with an emphasis on servicing customers. At the current moment, survey results indicates that Mazda has improved its Customer Satisfaction Index in Aftersales service when compared to 2014 ratings in the area of technical service advisors and service reception centers. This is a positive sign which reflects the devotion and determination of Mazda towards taking care of the Aftersales service needs of the customer, especially in the area of Cost of ownership. Mazda has continuously improved its operations as seen in the 2015 JD POWER survey which Mazda ranked 1st in the Passenger car category for SSI or Sales Satisfaction Index.

 

Mr Thee Permpongpanth added that Mazda’s journey was driven by sheer determination till today, “Mazda is not merely a brand chosen by the customer but a brand that they love and will recommend to the ones they love until it expands to a larger community that loves Mazda. The current customer base of Mazda has always been an integral part of the brand itself. We organize customer activities and Mazda Lovers Club every year…our objective is to encourage customer participation and inherit the special relationships between the brand and customer on a continuous basis.”

 

Examples of aforementioned activities are the Mazda Motorsport Day and the Jinba-Ittai Academ, both aimed at promoting love and special bond with the Mazda brand until the customer becomes a Brand Ambassador. The Mazda Brand Ambassador is an important voice, while other activities to be held this year will promote good relations with customers – after Mazda achieved success in penetrating customer groups of every passenger car segment this past year.

 

The following resulted in current customers creating new customers which eventually grew into a tight-knit family that shared good customer experiences from generation to generation.

 

The past success and determination to reach the designated goal in the future, armed with a steadfast mission objective, total confidence in the economy of Thailand, development of new advanced technology transfer to the local market economy of Thailand – all of this is what will drive Mazda to unchartered territories in the latter half of 2016 – to bring upon even more success to a brand that is determined to earn the confidence and trust from now till eternity

Facebook Comments
Thunyaluk Seniwongs

Recent Posts