ข่าวแวดวงรถยนต์ เมื่อวันที่่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 – ก็ได้เวลาแห่งการสร้างมาตรฐานให้กับตลาดเพื่อทวงคืนผู้นำตลาดรถอเนกประสงค์เอสยูวี มาสด้าประกาศขึ้นแท่นผู้นำในปีนี้ ด้วยการเผยโฉมรถปอร์ตครอสโอเวอร์ New Mazda CX-5 ใหม่ สกายแอคทีฟเอสยูวี หลังประสบความสำเร็จอย่างสูงนับตั้งแต่การนำโมเดลแรกภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟเข้าทำตลาดในประเทศไทย เตรียมกลับมาสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับตลาดเอสยูวีอีกครั้งด้วยมาสด้า CX-5 ใหม่ ที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ที่ล้ำที่สุดของโลกยานยนต์ในปัจจุบัน และถือเป็นโมเดลแรกที่รวมทุกองค์ประกอบจากมาสด้าได้ครบและสมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ รูปลักษณ์การออกแบบอันงามสง่าภายใต้โคโดะ ดีไซน์ ระบบเชื่อมต่อโลกการสื่อสารด้วย MZD CONNECT และระบบความปลอดภัยระดับโลก i-ACTIVSENSE ภายใต้แนวคิด “Achievement in Control ทุกความสำเร็จ…คุณควบคุมได้” เจาะกลุ่มลูกค้าผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จ เป็นผู้นำ และมีแนวทางการดำเนินชีวิตที่ชาญฉลาด วางราคาเริ่มต้นเพียง 1.22 ล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดรถอเนกประสงค์เอสยูวี
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร มาสด้า เซลล์ ประเทศไทย กล่าวว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับมาสด้านั้น มาจากความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างจริงจังในการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดประเทศไทย โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมามาสด้าเปิดตัวรุ่นใหม่มากถึง 5 รุ่น และในปีนี้มาสด้าเตรียมเปิดตัวรถใหม่เข้ามาทำตลาดอีก 7 รุ่น การเปิดตัว CX-5 ในวันนี้เป็นรุ่นที่ 2 ถัดจากการปรับโฉมของ Mazda3 ที่ได้เพิ่มอุปกรณ์การประหยัดน้ำมัน i-Stop และอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต่างๆ มากมาย
สำหรับปี 2558 ที่ผ่านมา มาสด้าสามารถบรรลุยอดขายกว่า 40,000 คัน เติบโตสูงสุดในตลาดถึง 15% ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 5% ในขณะที่ปีนี้ เป้าหมาย คือ ครองส่วนแบ่งทางการตลาดให้ได้ 5.5% ซึ่งเป็นเป้าที่สูงที่สุดที่เคยมีมา ในขณะที่ยอดขายรวมประมาณ 44,000 คัน เพิ่มขึ้น 10% ในขณะที่มกราคมเดือนแรกของปีนี้ยอดขายรถยนต์มาสด้ายังคงร้อนแรง ยอดขายพุ่งสูงถึง 3,491 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 27% ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึง 7% ส่งผลให้วันนี้มาสด้าสามารถจำหน่ายรถยนต์ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทุกรุ่นไปแล้วมากกว่า 52,000 คัน
ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องนี้ถือเป็นอีกบทพิสูจน์ความแข็งแกร่ง มาสด้าเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ คือ นวัตกรรมที่ดีที่สุดของโลกยานยนต์ในปัจจุบัน ที่จะสามารถตอบสนองทุกความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นความแรงของเครื่องยนต์ การประหยัดน้ำมัน เสน่ห์ที่ชวนให้หลงใหลในรูปลักษณ์การออกแบบอันสวยงามของโคโดะ ดีไซน์ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ลงตัวทุกรูปแบบการเชื่อมต่อต่อโลกการสื่อสารที่ทันสมัยด้วยระบบ MZD CONNECT รวมไปถึงระบบความปลอดภัยระดับโลก i-ACTIVESENSE ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ มาสด้าได้นำมาใส่ไว้ในรถอเนกประสงค์เอสยูวี CX-5 ใหม่ จนกลายเป็นรถยนต์เพียงรุ่นเดียวที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มากที่สุดในคลาส ถือเป็นผู้นำและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการถยนต์เมืองไทย
ตลาดรถอเนกประสงค์เอสยูวีในปีที่ผ่านมา เป็นเพียงเซ็กเม้นเดียวที่มียอดขายเพิ่มขึ้นสวนกับกระแสเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง มาสด้าสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการก้าวขึ้นมาครองอับดับ 3 ในเซ็กเมนต์นี้ มาสด้ามองว่าตลาดรถยนต์โดยรวมในปีนี้จะยังคงทรงตัว แต่จะเริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นในครึ่งปีหลัง ในขณะที่ตลาดรถอเนกประสงค์ยังคงเป็นไฮท์ไลท์สำคัญในปีนี้ที่จะนำพาให้ตลาดรถยนต์เติบโตไปได้ ถึงแม้จะเป็นการเติบโตอย่างช้าๆ ก็ตาม เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังคงมีอยู่ประกอบกับความต้องการรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์กับการใช้งานได้อย่างครบครัน พร้อมกับราคาที่เหมาะสมยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตลาดปีนี้ มาสด้าจึงวางกลยุทธ์ส่งรถ ครอสโอเวอร์เอสยูวี ขนาดคอมแพ็คท์ประเดิมสนามด้วยการเปิดตัว New Mazda CX-5 เป็นรุ่นที่สองของปีนี้ ภายใต้แนวคิด “Achievement in Control ทุกความสำเร็จ…คุณควบคุมได้” เพื่อตอบสนองลูกค้าในกลุ่มผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จ มีแนวทางการดำเนินชีวิตที่แตกต่าง เป็นผู้นำ และคาดว่าจะประสบความสำเร็จกับเป้ายอดขายที่วางไว้
มาสด้า CX-5 เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2012 โดยใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดญี่ปุ่นจนได้ครองตำแหน่งรถเอนกประสงค์ขายดีที่สุดในประเทศ นับเป็นรถยนต์รุ่นแรกของมาสด้าในเจนเนอเรชั่นที่ 6 เป็นเสมือนทูตผู้ส่งมอบเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และการออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ ให้แก่ผู้ใช้รถยนต์ทั่วโลก ส่งมอบประสบการณ์การขับขี่แบบที่ลูกค้าไม่เคยได้สัมผัสจากรถคันไหนมาก่อน อีกทั้งการันตีคุณภาพด้วยการคว้ารางวัลมากมาย อาทิ รถยนต์ยอดเยี่ยมของประเทศญี่ปุ่น “Japan Car of The Year” ประจำปี 2555 – 2556, ได้รับคะแนนความปลอดภัยสูงสุดของโครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ-บอดี้ “Top Safety Pick” จากสถาบันเพื่อความปลอดภัยบนถนนหลวงของประเทศสหรัฐอมริกา Insurance Institute for Highway Safety (IIHS)ในปี 2015 และรางวัลทางด้านความปลอดภัยผ่านมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาว จากยุโรป หรือ Euro NCAP
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า การเปิดตัว New Mazda CX-5 ในครั้งนี้จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถอเนกประสงค์ ด้วยรูปลักษณ์ความเป็นสปอร์ต ปกรณ์อำนวยความสะดวก และอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่ไม่เคยมีในรถยนต์ประเภทนี้ อาทิ ความสวยงามภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ ที่ตอบสนองในทุกการขับขี่ได้อย่างแท้จริง ที่มาพร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่ดีที่สุดในคลาส เต็มเปี่ยมด้วยรสนิยมแห่งการคัดสรร ให้ความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความแรงและประหยัดน้ำมัน มีให้ลูกค้าเลือกได้ทั้ง 2 เครื่องยนต์ ประกอบด้วย เครื่องยนต์คลีนดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร ที่มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน AWD และแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่มาสด้าเพิ่มเติมขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร
การเปิดตัวมาสด้า CX-5 ใหม่ ในวันนี้ถือเป็นรุ่นที่หลอมรวมทุกองค์ประกอบเด่นๆ 4 Pillars ซึ่งประกอบ เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ, รูปลักษณ์ที่ถูกออกแบบได้อย่างงดงามโดย โคโดะ ดีไซน์, ลงตัวทุกช่องการติดต่อสื่อสารด้วยระบบ MZD CONNECT อันเป็นดั่งเอกลักษณ์ของสายพันธุ์มาสด้าได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุดในโลก มุ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเออเบิร์นไลฟ์สไตล์วัยทำงานทุกเพศ เปี่ยมด้วยความสามารถในหลากหลายอาชีพเฉพาะทาง เสมือนกับการมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว พร้อมที่จะมุ่งทยานสู่เส้นชัย ค้นหาความแปลกใหม่เพื่อเติมสีสันให้กับชีวิต และความสนุกสนานให้กับชีวิตอย่างมีระดับ ตามแนวคิดใหม่ “Achievement in Control ทุกความสำเร็จ…คุณควบคุมได้” ให้คุณได้ขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จในทุกมิติด้วยคำจำกัดความที่คุณกำหนดเองได้
มาสด้า CX-5 ใหม่ สกายแอคทีฟเอสยูวีที่เปี่ยมด้วยขุมพลัง ควบคุมทุกสิ่งได้ดั่งใจต้องการ แต่ยังคงไว้ซึ่งความประหยัดน้ำมัน พร้อมเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง สำหรับมาสด้า CX-5 ใหม่ มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 เครื่องยนต์ คือ SKYACTIV-D เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซลขนาด 2.2 ลิตร แรงและประหยัดน้ำมันได้ถึง 17.5 กม./ลิตร และ SKYACTIV-G เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินขนาด 2.0 ลิตร แรงและประหยัดน้ำมันได้ถึง 14.5 กม./ลิตร มีให้เลือกถึง 5 สี ประกอบด้วย สีฟ้า บลูรีเฟล็กซ์, สีเงิน อลูมินัมเมทัลลิค, สีดำ เจ็ทแบล็ก, สีเทา เมทิเออ เกรย์ไมก้า และสีขาว อาร์กติก ไวท์ ซึ่งเป็นสีใหม่ล่าสุด
ราคาจำหน่าย
รุ่น SKYACTIV-G 2.0 C ราคา 1,220,000 บาท
รุ่น SKYACTIV-G 2.0 S ราคา 1,330,000 บาท
รุ่น SKYACTIV-D 2.2 XD ราคา 1,530,000 บาท
รุ่น SKYACTIV-D 2.2 XDL (AWD) ราคา 1,690,000 บาท
รูปลักษณ์ภายนอก
รูปลักษณ์ภายนอกที่ใครเห็นต้องเหลียวหลังกลับมามอง ยังคงรูปลักษณ์ที่งดงามของ โคโดะ ดีไซน์ แต่เพิ่มเติมด้วยความสปอร์ตด้วยไฟหน้า Adaptive LED Headlamp ดีไซน์ใหม่ สปอร์ตเรียบหรูอย่างมีรสนิยม ที่มาพร้อมด้วยระบบอัจฉริยะปรับองศาอัตโนมัติอย่างอิสระซ้าย-ขวา ตามสภาพการขับขี่บนถนน และไฟ DAYTIME RUNNING LAMP ให้ความปลอดภัยที่เหนือระดับ เพิ่มความสปอร์อย่างเต็มขั้นด้วยไฟตัดหมอก และไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ พร้อมชุดกระจังหน้าแบบใหม่ให้ลุคพรีเมียมมากยิ่งขึ้น
ด้วยแผงคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และแผงประตู ที่ถูกออกแบบใหม่ เน้นการใช้สีเงินวาว และสีเงินซาตินโครม ให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร สัมผัสกับการใช้ชีวิตบนท้องถนนอย่างมีคลาส และยังมีวัสดุหุ้มพวงมาลัย มาพร้อมกับแผงหน้าปัดใหม่ บ่งบอกถึงคุณภาพ และรสนิยมที่เหนือระดับ การออกแบบภายในเน้นหลักการทำงานตามธรรมชาติสรีระของการเคลื่อนไหวของมนุษย์ จัดวางอุปกรณ์ทุกชิ้น ให้อยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน ทำให้ New Mazda CX-5 เป็นรถเอสยูวีที่โดดเด่นในทุกมุมมอง
ความสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์มาตรฐานของการขับขี่ที่ครบครันมากขึ้น
นอกเหนือจากความงามของรูปลักษณ์ภายใน และภายนอกแล้ว New Mazda CX-5 ยังอัดแน่นด้วยอุปกรณ์เสริมความสะดวกสบายที่เพิ่มจากเดิม ประกอบด้วย ระบบเบรกมือไฟฟ้า ELECTRICAL PARKING BREKE (EPB) ที่ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า ที่จะช่วยให้เกิดความเสถียรภาพของจอดที่ง่ายขึ้น อีกหนึ่งไฮไลท์ฟังก์ชั่นด้วยสวิตช์ DRIVE SELECTION ที่ผู้ขับขี่สามารถปรับเลือกโหมดขับขี่ในโหมดสปอร์ตเพื่อตอบสนองการขับขี่แบบสปอร์ตสุดเร้าใจ เมื่อต้องการเร่งแซง หรือให้อัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นในรอบเครื่องยนต์ที่สูง โดยมีอยู่ในรุ่นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินขนาด 2.0 ลิตร สะดวกสบายด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าพร้อมบันทึกความจำ 2 ตำแหน่ง และเบาะนั่งปรับไฟฟ้าด้านผู้โดยสารด้านหน้าในรุ่น XDL
เทคโนโลยีความปลอดภัยที่เหนือชั้นด้วย i-ACTIVSENSEที่ครบครัน และดีที่สุดของมาสด้าในระดับโลก
สำหรับ New Mazda CX-5 ใหม่ ก้าวล้ำหน้ากว่าใครด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งแบบเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) และความปลอดภัยเชิงปกป้อง (Passive Safety) บนท้องถนนจึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยทุกวินาทีของการขับขี่ ถือเป็นอีกก้าวที่ล้ำสมัยของเอสยูวี ประกอบด้วย
• ALH (Adaptive LED Headlamps) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ
ช่วยปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ แยกกันอย่างอิสระทั้งซ้าย-ขวาให้เหมาะสมกับระยะห่าง และตำแหน่งของรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน และช่วยไม่ให้การทำงานของไฟสูงไปรบกวนรถคันอื่น
• LDWS (Lane Departure Warning System)
ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน โดยจะส่งสัญญาณเตือนเมื่อรถอาจเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ อันเกิดจากความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
• LAS (Lane-keep Assist System)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน จะช่วยคนขับในการควบคุมรถ เมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
• SCBS (Smart City Brake Support)
ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุจากการชนปะทะด้านหน้าเมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ
• SBCS-R (Smart City Brake Support-Reverse)
ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุจากการชนปะทะขณะขับถอยหลังด้วยความเร็วต่ำ
• DAA (Driver Attention Alert)
ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบจะช่วงส่งสัญญาณเตือนหากตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากความเหนื่อยล้าของผู้ขับ
• ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนช่วยให้ผู้ขับปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลนโดยระบบจะส่งสัญญาณเตือนหากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่กำลังแซงขึ้นมาจากทางด้านหลังและอยู่ในจุดที่ผู้ขับอาจมองไม่เห็น
• RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลังระบบจะส่งสัญญาณเตือนขณะขับรถถอยหลัง หากตรวจพบความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุกับรถที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาทางด้านหลัง
คุณสมบัติที่โดดเด่นของ New Mazda CX-5 ใหม่ คือ ความปลอดภัยที่ครอบคลุมทุกเหตุการณ์มากที่สุด ทั้งรูปแบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) และแบบปกป้องเมื่อเกิดอุบัติเหตุ (Passive Safety) โดยมีมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก (WORLD-CLASS SAFETY)
ความปลอดภัยเชิงป้องกันเมื่อเกิดเหตุ (Active Safety) กับระบบเข็มขัดนิรภัย ERA (Emergency Locking Retractor) ระบบเข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ ทั้งในตำแหน่งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร และยังมี Headrest ที่ได้รับการออกแบบให้มีองศา และตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด เพื่อลดโอกาสเกิดการบาดเจ็บ เมื่อเกิดการกระแทกจากด้านหน้ารถ ที่เบาะนั่งด้านหลังออกแบบให้มีองศาที่รองรับน้ำหนักของคนนั่งได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารพุ่งออกจากเบาะไปด้านหน้า โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดจากการชนที่ด้านหน้ารถ และกันชน ฝากระโปรงหน้าถูกออกแบบให้มีโครงสร้างรับแรงกระแทกเพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บของผู้ถูกชนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ความปลอดภัยเชิงปกป้องเมื่อเกิดเหตุ (Passive Safety) ด้วยระบบ ESS (EMERGENCY SIGNAL SYSTEM) สัญญาณไฟกระพริบเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกรถอย่างกระทันในภาวะฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณเตือนรถคันหลังให้ลดความเร็วลง และเมื่อผู้ขับขี่เอาเท้าออกจากแป้นเบรก สัญญาณไฟเตือนฉุกเฉินจะดับลงโดยอัตโนมัติ หากผู้ขับขี่เหยียบเบรกอย่างกะทันหันจนกระทั่งรถหยุดนิ่ง สัญญาณไฟเตือนฉุกเฉินจะยังคงกระพริบเตือนรถคันหลังให้ระวัง และลดความเร็ว
นอกจากนี้ยังมี ABS ทั้ง 4 ล้อ พร้อม EBD ที่ช่วยกระจายแรงเบรก, ถุงลงนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย, DSC (Dynamic Stability Control ช่วยควบคุมเสถียรภาพ และการทรงตัวของรถ, HLA (Hill Launch Assist ช่วยในการออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน และ TCS (Traction Control System ช่วยป้องกันรถเลื่อนไถล จากองค์ประกอบที่กล่าวมาทั้งสิ้น สัมผัสได้ถึงการให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงผู้ร่วมจราจรบนท้องถนน ที่มาสด้าพยามยามคิดค้น และเติมเต็มความปลอดภัยให้ครอบคลุมมากที่สุดด้วยเทคโนโลยีจากมาสด้า
เทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารด้วย MZD CONNECT ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ
ให้ผู้ขับขี่ไม่พลาดการติดต่อสื่อสาร เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์แม้ขณะอยู่ในรถ ระบบความบันเทิงในรถ และการเชื่อมต่อกับโลกโซเชียล ค้นหาข้อมูลได้แม้ในขณะเดินทาง พร้อมทยานสู่ความสำเร็จได้ทุกเวลา ระบบนำทางและเครื่องเล่น DVD ผ่านจอ Touch Screen ขนาด 7” เพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นได้อย่างสะดวกสบาย
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…