มาสด้ามาแรง ทำสถิติเติบโตสูงสุดระดับโลกสองปีติดต่อกัน

บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยความสำเร็จผลการดำเนินธุรกิจประจำปีงบประมาณ 2561 ยอดขายพุ่งกระฉูดสร้างสถิติใหม่ทะลุเกิน 70,000 คัน เพิ่มขึ้น 25% เติบโตสูงสุดอันดับหนึ่งของมาสด้าทั่วโลกสองปีติดต่อกัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 6.6% รั้งอันดับสองของโลก ปริมาณยอดขายสร้างสถิติใหม่ขยับขึ้นครองอันดับ 6 ประเทศที่มียอดขายมากที่สุด ประกาศชัดปีนี้เตรียมเสริมทัพความแข็งแกร่งด้วยการส่งรถยนต์รุ่นใหม่ลงทำตลาดมากถึง 6 รุ่น พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 75,000 คัน

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า จากความสำเร็จด้านการดำเนินธุรกิจของมาสด้าในปีนี้ ระหว่างปีปฏิทินหรือ Calendar Year และปีงบประมาณหรือ Fiscal Year มียอดขายใกล้เคียงกันมาก สำหรับปีงบประมาณ FY2018 มียอดขายสูงถึง 70,468 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 25% จากปีงบประมาณ FY2017 อยู่ที่ 56,379 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 6.6% สูงสุดเป็นอันดับสองรองจากออสเตรเลีย วันนี้ มาสด้า ประเทศไทย ถูกจับตามองจากตลาดทั่วโลกเนื่องจากอัตราการเติบโตสูงที่สุดในโลกสองปีติดต่อกัน ที่สำคัญปริมาณยอดขายที่ทะลุเกิน 70,000 คัน นั้น ยังส่งผลให้ มาสด้า ประเทศไทย ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 6 ของมาสด้าทั่วโลก ส่วนปีนี้ FY2019 มาสด้าตั้งเป้าไว้ที่ 75,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10%

ในขณะที่รถยนต์นั่งมาสด้า2 ยังคงเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนหลัก และได้รับความนิยมจากลูกค้ามากที่สุด มียอดขายสูงถึง 48,119 คัน เพิ่มขึ้น 36% ขึ้นครองเบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก 11 เดือน ติดต่อกัน ในขณะที่รถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 โปร เริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหลังจากที่ปล่อยรุ่นพิเศษ มาสด้า บีที-50 โปร ธันเดอร์ ออกสู่ตลาด ด้วยยอดขายสูงถึง 7,500 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 29% รวมทั้งรถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า CX-5 มียอดขายสะสมสูงถึง 6,834 คัน เพิ่มขึ้น 7% ตามมาด้วยรถเก๋งคอมแพคคาร์มาสด้า3 ก็ร้อนแรงไม่แพ้กันมียอดขายสูงถึง 4,852 คัน ส่วนฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ มาสด้า CX-3 ที่แม้จะเจอกับคู่แข่งรอบด้านแต่ก็สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 3,132 คัน และสุดท้ายคือรถสปอร์ตเปิดประทุนหลังคาไฟฟ้าที่เปิด-ปิดเร็วที่สุดในโลก ที่ได้รับยกย่องให้เป็นรถสปอร์ตที่ขับสนุกที่สุด และเป็นแบรนด์ไอคอนระดับตำนาน มาสด้า MX-5 มียอดขายถึง 31 คัน
สรุปยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าประจำปีงบประมาณ 2561 เทียบกับปีงบประมาณ 2560

ข้อมูลการขายรถ	เมษายน 2561 – มีนาคม 2562	เมษายน 2560 – มีนาคม 2561	% เปลี่ยนแปลง
MAZDA2	48,119	35,440	+ 36
MAZDA3	4,852	4,945	– 2
MAZDA CX-3	3,132	3,755	– 17
MAZDA CX-5	6,834	6,411	+ 7
MAZDA BT-50 PRO	7,500	5,798	+ 29
MAZDA MX-5	31	30	+ 3
ยอดรวม	70,468	56,379	+ 25

สำหรับยอดขายมาสด้าไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม – มีนาคม 2562) มียอดจำหน่ายรวม 16,579 คัน ยังคงรักษาระดับยอดขายใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 6.3% โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่งมาสด้า2 มีจำนวนมากที่สุด 12,460 คัน ตามมาด้วยรถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 1,652 คัน รถอเนกประสงค์เอสยูวี มาสด้า CX-5 จำนวน 1,021 คัน รถยนต์นั่งมาสด้า3 จำนวน 887 คัน รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์มาสด้า CX-3 จำนวน 509 คัน และรถสปอร์ตเปิดประทุนมาสด้า MX-5 จำนวน 5 คัน
“ปัจจัยหลักสำคัญที่จะกระตุ้นให้ตลาดรถยนต์ในปี 2562 เกิดความคึกคักเนื่องมาจากระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยเริ่มมีการขยายตัว และปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี ผมย้ำอยู่เสมอว่าทุกคนต้องช่วยกันผลักดันให้คนในประเทศเกิดความเชื่อมั่นให้ได้ว่า เราทุกคนต้องเดินหน้าไปด้วยกัน แม้จะเห็นผลช้า แต่ทุกคนต้องช่วยกัน วันนี้เริ่มจะเห็นแล้วว่าเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ตลาดหุ้นกลับมาคึกคัก แนวโน้มการส่งออกเริ่มฟื้นตัว ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา เพราะประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจมากที่สุดในโลกของนักเดินทาง ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้น กำลังซื้อมีมากขึ้น ธุรกิจหลายอย่างเริ่มขยับตัวมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ทั้งรถไฟความเร็วสูง และรถไฟรางคู่กำลังใกล้บรรลุผลสำเร็จ หรือแม้แต่การเปิดระเบียงเศรษฐกิจใหม่ เพื่อให้เราก้าวไปสู่ศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการเชื่อมโยงการขนส่งระดับภูมิภาค” นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติม

จากการประเมินสถานการณ์อุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศไทย ตลาดรถยนต์ปีนี้น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะหลายๆ ค่ายเริ่มออกตัวล้อฟรีกันตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะมาสด้านั้นย้ำชัดเจนว่าปีนี้เป็นปีที่จะทำการเปิดตัวรถรุ่นใหม่มากที่สุด นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ ออกมาการันตีว่า “ปีนี้ถือเป็นปีที่มาสด้ากำลังก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ มาสด้าเริ่มวางแผนการสื่อสารไปยังลูกค้าเกี่ยวกับรถยนต์ในเจนเนอเรชั่นที่ 7 หรือ G7 ซึ่งจะทำการเปิดตัวในครึ่งปีหลัง พร้อมๆ กับรุ่นอื่นที่จะทยอยเปิดตัวในปีนี้ รวมแล้วทั้งหมด 6 รุ่น ครอบคลุมในทุกเซกเม้นต์ โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ๆ”

 

การเติบโตของค่ายมาสด้าเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง หลังจากที่เดินหน้าปรับเปลี่ยนทั้งการขายและการบริการ ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า จนส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสองสามปีที่ผ่านมาแทบจะไม่มีรถยนต์รุ่นใหม่ส่งเข้าตลาด แต่จากการสร้างประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานของลูกค้า จนเกิดการบอกต่อสู่คนรอบข้าง ทำให้รถมาสด้าทุกรุ่นเดินหน้ากอบโกยยอดขายไปได้อย่างสวยงาม แน่นอนว่าปีนี้ถือเป็นปีทองที่มาสด้าจะเก็บเกี่ยวยอดขายให้บรรลุตามเป้าที่ตั้งไว้ 75,000 คัน หลายคนอาจมองว่าน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับจำนวนรุ่นที่จะส่งลงตลาด นับจากนี้เป็นต้นไปมาสด้าจะเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้มั่นคงแข็งแกร่งต่อไป

Mazda Sales break 70,000-units mark highest growth

For Mazda worldwide for second consecutive year

Bangkok, Thailand, April 10, 2019 – Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd., has announced record-breaking performance for the 2018 fiscal year with total sales of over 70,000 units, equivalent to a growth of 25 per cent which is the highest for Mazda worldwide for the second straight year. Mazda now has a market share of 6.6 per cent in Thailand, which is the second-highest for the brand in the world, and is the sixth-largest market for Mazda globally. The company plans to launch 6 new models in Thailand this year, and plans to sell as much as 75,000 vehicles.

Mr. Chanchai Trakarnudomsuk, President of Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd., said, “Mazda has been highly successful this year, with similar calendar year and fiscal year sales. For FY2018, Mazda sales were 70,468 units, surging by 25 per cent compared to FY2017 when we sold 56,379 vehicles for a 6.6-per cent market share, which is second only to the Australian market. Today Mazda Thailand is being closely followed by others due to the highest growth rate for Mazda worldwide for the second year in a row. In addition, sales broke the 70,000-unit mark, allowing Mazda Thailand to move up to sixth position in the Mazda global sales ranking. This year our sales target is 75,000 units, a growth of approximately 5-10 per cent.”

The Mazda2 subcompact remains the most popular Mazda model in the country with sales of 48,119 units, an increase of 36 per cent, and securing the top small car spot for the 11 month in a row. Meanwhile, the Mazda BT-50 PRO is regaining popularity after the introduction of the special BT-50 PRO THUNDER model, with sales of 7,500 units, growing by 29 per cent. The all-new Mazda CX-5 was equally popular, registering sales of 6,834 units, up 7 per cent, followed by the Mazda3 compact car with sales of 4,852 units. The Mazda CX-3 crossover, despite facing fierce market competition, registered sales of 3,132 units while 31 units of the iconic Mazda MX-5 roadster were sold.

Mazda sales FY2018 vs FY2017

Model	April 2018 – March 2019	April 2017 – March 2018	% Change
MAZDA2	48,119	35,440	+ 36
MAZDA3	4,852	4,945	– 2
MAZDA CX-3	3,132	3,755	– 17
MAZDA CX-5	6,834	6,411	+ 7
MAZDA BT-50 PRO	7,500	5,798	+ 29
MAZDA MX-5	31	30	+ 3
Total	70,468	56,379	+ 25

As for Mazda sales during Q1 of this year (Jan-Mar 2019), the company sold 16,579 vehicles, which is the same level as the same period last year, for a 6.3-per cent market share. Mazda2 sales reached 12,460 units followed by the Mazda BT-50 PRO with 1,652 units, all-new Mazda CX-5 with 1,021 units, Mazda3 with 887 units, Mazda CX-3 with 509 units, and 5 units of the MX-5.

“Important factors that will help stimulate the automobile market in 2019 stems from the Thai economy that is expanding and improving since the start of the year,” Mr. Chanchai said. “I have always stressed that everyone must help to make the people in the country have confidence that we will move forward together. Although the results may be slow, everyone needs to lend a hand. Today we have seen that the economy has improved, the stock market is becoming active again, exports are recovering and tourism is back. Thailand is still an interesting destination for travelers from all over the world, while our agricultural products are fetching better prices. There is more purchasing power in the country. Many businesses are starting to move ahead, particularly the mega investment projects by the government such as the high-speed railway system or even the launching of the economic corridor project, which is aimed at making Thailand a regional economic, trade and investment center, as well as serving as the center for regional transportation.”

Mr. Chanchai noted that the Thai automobile market will be highly interesting this year. “Many companies are taking on an aggressive role from the start of the year, and Mazda will be launching a large number of new models this year too.”

Mr. Thee Permpongpanth, Vice President for Marketing and Government Affair added, “This is the year that Mazda will go through a very important change. We have started planning communications to customers involved with the 7^th-generation model (or G7) which will be officially introduced during the second half of the year, along with other models, totaling 6 models that come with the latest technology covering every segment.”

The exceptional growth of Mazda is to be closely watched, after the company went ahead in improving the quality of its sales and service in order to create customer confidence, and resulting in higher sales figures despite not having many new models during the past 2 years. However, customer satisfaction has led to word of mouth, and this has enabled Mazda sales to grow dramatically.

“Of course this is the golden year for Mazda in achieving our sales target of 75,000 units,” Mr. Thee said. “Many might think that this target is not much compared to the number of models we offer, but let’s wait and see whether we can achieve our targets or do better.”

Mazda is also preparing to stimulate the Thai auto market further during the last quarter of this year. For more information click www.mazda.co.th and Mazda Thailand official Facebook/YouTube/Instagram/LINE accounts