มาสด้าผลิตรถยนต์โรตารี่ไฮโดรเจนไฮบริดเชิงพาณิชย์รายแรกของโลก


มาสด้าผลิตรถยนต์โรตารี่ไฮโดรเจนไฮบริดเชิงพาณิชย์รายแรกของโลก
รถยนต์มาสด้า พรีมาซี ไฮโดรเจน อาร์อี ไฮบริด ล็อตแรกจดทะเบียนแล้วในประเทศญี่ปุ่น

ฮิโรชิม่า ญี่ปุ่น – มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่นเริ่มการผลิตเพื่อการพาณิชย์สำหรับรถยนต์มาสด้า พรีมาซี ไฮโดรเจน อาร์อี ไฮบริด ซึ่งเป็นรถยนต์ไฮโดรเจนระบบไฮบริด ที่มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือกว่าเดิมด้วยการเพิ่มระบบไฮบริดเข้าไป มาสด้านับเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของโลกที่เริ่มผลิตรถยนต์ที่ใช้ไฮโดรเจนระบบไฮบริดในเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง โดยรถยนต์ล็อตแรกจะถูกส่งมอบให้กับหน่วยงานราชการและบริษัทที่ทำธุรกิจด้านพลังงานของญี่ปุ่นภายในปี 2552 นี้

มาสด้า พรีมาซี ไฮโดรเจน อาร์อี ไฮบริด ผลิตขึ้นโดยใช้เครื่องยนต์โรตารี่ไฮโดรเจนรุ่นที่สองของมาสด้าสำหรับรถยนต์เชิงพาณิชย์ โดยรถยนต์เชิงพาณิชย์รุ่นแรกที่ใช้เครื่องยนต์ระบบนี้คือ มาสด้า อาร์เอ็กซ์-8 ไฮโดรเจน อาร์อี โดยข้อกำหนดทางเทคนิคของเครื่องยนต์พรีมาซี ไฮโดรเจน อาร์อี ไฮบริดได้รับอนุมัติจากกระทรวงการขนส่งทางบกของญี่ปุ่นในวันที่ 5 มีนาคม 2552 และรถยนต์ไฮโดรเจนไฮบริดล็อตแรกของมาสด้าได้รับอนุมัติหมายเลขทะเบียนรถยนต์แล้วจากสำนักงานขนส่งประจำเขตชูโกกุ สาขาฮิโรชิม่า ในวันที่ 25 มีนาคม 2552

รถยนต์มาสด้าพรีมาซี ไฮโดรเจน อาร์อี ไฮบริด ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดแบบอนุกรม ซึ่งผสมผสานคุณสมบัติของเครื่องยนต์โรตารี่ไฮโดรเจนของมาสด้าเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังของเครื่องยนต์จะถูกแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อให้พลังงานแก่มอเตอร์ในการขับเคลื่อนรถยนต์ ระบบไฮบริดใหม่ที่ใช้ในพรีมาซี ไฮโดรเจน อาร์อี ไฮบริด นี้สามารถเพิ่มระยะทางการวิ่งจากการใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเป็น 200 กม. ซึ่งสูงกว่าระบบที่ใช้ในอาร์เอ็กซ์-8 ไฮโดรเจน อาร์อี ถึงหนึ่งเท่าตัว และสามารถเพิ่มกำลังสูงสุดของรถได้สูงกว่าเดิม 40% เป็น 110 กิโลวัตต์ นอกจากนั้น รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรุ่นใหม่ล่าสุดของมาสด้ารุ่นนี้ ยังใช้เทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเครื่องยนต์ระบบรองรับเชื้อเพลิงสองชนิดลิขสิทธิ์เฉพาะของมาสด้าซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งไฮโดรเจนและน้ำมันเบนซิน และส่วนประกอบต่าง ๆ ภายในตัวรถผลิตจากวัสดุไบโอเทคซึ่งมาจากโรงงานของมาสด้าเอง

ภายใต้แนวคิด “ซูม-ซูม อย่างยั่งยืน” (Sustainable Zoom-Zoom) มาสด้ามุ่งมั่นที่จะผสมผสานระหว่างความสนุกสนานเร้าใจในการขับขี่ ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยอย่างกลมกลืน โดยอาศัยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีตามแนวคิดซูม-ซูม ในการพัฒนายานยนต์ที่มาพร้อม “รูปลักษณ์ที่ชวนให้ขับขี่ ขับสนุก และรู้สึกอยากขับอีกเรื่อย ๆ”


ข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับมาสด้า พรีมาซี ไฮโดรเจน อาร์อี ไฮบริด

รุ่น……………………………………..มาสด้า พรีมาซี
ความยาวทั้งหมด……………………..4,565 มม.
ความกว้างทั้งหมด…………………….1,745 มม.
ความสูงทั้งหมด……………………….1,620 มม.
เครื่องยนต์…………………………….โรตารี่ไฮโดรเจนของมาสด้า รองรับเชื้อเพลิงสองชนิด
มอเตอร์…………………………………แบบใช้กำลังกระแสไฟฟ้าสลับที่มีอัตราเร็ว
กำลังส่งสูงสุด…………………………..110 กิโลวัตต์
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า……………………..แบบใช้กำลังกระแสไฟฟ้าสลับที่มีอัตราเร็ว
แบตเตอรี่………………………………..ลิเธียมอิออน
จำนวนที่นั่ง………………………………5 ที่นั่ง
เชื้อเพลิง…………………………………ไฮโดรเจน และน้ำมันเบนซิน
ถังไฮโดรเจน……………………………..ทนความดันได้สูงสุด 35 MPa

พัฒนาการด้านยานยนต์ไฮโดรเจนของมาสด้า
2534 พัฒนารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์โรตารี่ไฮโดรเจนได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ในรุ่น HR-X
2535 ทดสอบวิ่งรถกอล์ฟที่ติดตั้งเซลล์เชื้อเพลิง
2536 พัฒนารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์โรตารี่ไฮโดรเจนรุ่นที่สอง ในรุ่นเอชอาร์-เอ็กซ์2
พัฒนารถยนต์สำหรับทดสอบเอ็มเอ็กซ์-5 ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์โรตารี่ไฮโดรเจน
2538 ทดสอบวิ่งรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์โรตารี่ไฮโดรเจนรุ่น Capella Cargo บนถนนสาธารณะเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น
2540 พัฒนารถยนต์ Demio FC-EV
2544 พัฒนารถยนต์ Premacy FC-EV พร้อมทดสอบวิ่งบนถนนสาธารณะในญี่ปุ่น
2546 ประกาศแผนพัฒนาเครื่องยนต์โรตารี่ไฮโดรเจนสำหรับรถอาร์เอ็กซ์-8 ไฮโดรเจน
2547 ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการขนส่งทางบกของญี่ปุ่นให้ทำการทดสอบรถอาร์เอ็กซ์-8 ไฮโดรเจน อาร์อีบนถนนสาธารณะ
2549 เริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์สำหรับรถรุ่นอาร์เอ็กซ์-8 ไฮโดรเจน อาร์อี ในญี่ปุ่น (นับถึงปัจจุบันได้ส่งมอบไปทั้งหมด 8 รุ่นแล้ว)
2550 ลงนามข้อตกลงผลิตเครื่องยนต์โรตารี่อาร์เอ็กซ์-8 ไฮโดรเจน อาร์อี ให้แก่โครงการ Hynor ของนอร์เวย์
2551 เริ่มการทดสอบวิ่งรถอาร์เอ็กซ์-8 ไฮโดรเจน อาร์อีบนถนนสาธารณะในนอร์เวย์
2552 เริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์สำหรับรถรุ่นพรีมาซี ไฮโดรเจน อาร์อี ไฮบริด ในญี่ปุ่น

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์โรตารี่ไฮโดรเจนของมาสด้าได้ที่ http://www.mazda.com/mazdaspirit/env/

# # # # #

Facebook Comments