มาสด้าขึ้นไลน์ผลิตรถอีโคคาร์เฟส2 รายแรก


เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557, มาสด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับโรงงานผลิตรถยนต์มาสด้า ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) ส่งความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศไทย ด้วยเงินลงทุนหนึ่งหมื่นสองพันล้านบาท เพื่อเริ่มสายการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มาพร้อมเทคโนโลยีสกายแอคทีฟเต็มคัน และเครื่องยนต์คลีนดีเซล พร้อมทั้งเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์ใหม่ โดยสามารถเริ่มสายการผลิตในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2558 ส่งเสริมประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์มาสด้าที่ใหญ่สุดในอาเซียน พร้อมส่งออกรถยนต์คุณภาพเยี่ยมจากฝีมือคนไทยไปยังตลาดโลก


โดยได้รับเกียรติอย่างสูงจาก ผู้แทนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช เป็นประธานพิธีเปิดงานฯ อย่างเป็นทางการ ร่วมด้วย ฯพณฯ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย มร. ซิเกะคะสุ ซะโต รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงจาก บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย, มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดสายการผลิตรถยนต์นั่งมาสด้า2 อย่างเป็นทางการ ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง


นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวว่า “รัฐบาลทุกสมัยได้มีการวางทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ชัดเจน และต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีการพัฒนาสอดคล้องกับทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่มุ่งพัฒนาไปสู่ “Sustainable Mobility” โดยอาศัยกลไกของโครงสร้างภาษีและการส่งเสริมการลงทุน เริ่มต้นจากการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ โดยเปลี่ยนหลักเกณฑ์การให้สิทธิลดหย่อนอัตราภาษีสรรพสามิต จากรถยนต์ที่มีขนาด “ซี.ซี.ต่ำ แรงม้าน้อย” มาเป็นรถยนต์ที่มีคุณสมบัติ “สะอาด ประหยัด ปลอดภัย” แล้วต่อมา กระทรวงอุตสาหกรรมได้เปิดให้มี
การส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ 2 ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสในการลงทุนให้กับผู้ประกอบการ 5 รายเดิมในการขยายกำลังการผลิตอีโคคาร์ รวมทั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการทุกรายในการผลิตอีโคคาร์ รุ่นที่ 2 ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าอีโคคาร์รุ่นแรก ทั้งในด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่ นโยบายส่งเสริมการลงทุนอีโคคาร์ ระยะที่ 2 มีผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมถึง 10 ราย (ซึ่งรวมถึง บริษัท มาสด้าฯ ด้วย) นับเป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทยเป็นอย่างดี รวมทั้ง เน้นย้ำให้เห็นถึงความสำเร็จของการดำเนินนโยบายของภาครัฐในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่ง เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลกที่ครบวงจร”


รถยนต์ “Mazda2” เป็นอีโคคาร์ที่มีลักษณะเด่น 2 ประการ คือ 1) เป็นรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ดีเซลคันแรกที่จะใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย โดยเป็นทิศทางที่สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ซึ่งพบว่า เครื่องยนต์ดีเซลเทคโนโลยีชั้นสูง (Advanced Diesel) มีแนวโน้มจะเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์เบนซินมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ 2) เป็นรถยนต์นั่งคันแรกที่มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) โดยมีระบบห้ามล้อแบบป้องกันการล็อก (ABS) ซึ่งได้ติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ESC) ตามข้อกำหนดทางเทคนิค UN Reg.13H

“Mazda2” เป็นอีโคคาร์ รุ่นที่ 2 ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าอีโคคาร์รุ่นแรก และรถยนต์นั่งแบบ B ในทุกด้าน ทั้งในด้านการประหยัดพลังงานที่เหนือกว่า (มีอัตราการใช้พลังงาน 4.3 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 23 กิโลเมตรต่อลิตร) ด้านการปล่อยมลพิษที่น้อยลง (มาตรฐานมลพิษระดับ ยูโร 5 โดยมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 100 กรัมต่อกิโลเมตร) และด้านความปลอดภัยระดับสากลที่สูงกว่า โดยเป็นมาตรฐานความปลอดภัยในระดับเดียวกับที่บังคับใช้ในสหภาพยุโรป ได้แก่ คุณสมบัติการป้องกันอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้าและการชนด้านข้าง รวมทั้ง คุณสมบัติด้านความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) ดังที่กล่าวมาแล้ว สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า รถยนต์ “Mazda2” เป็นรถยนต์คุณภาพสูงที่สามารถรองรับความต้องการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคลของผู้บริโภคในสังคมยุคใหม่ได้อย่างครบถ้วน


มร. ยูจิ นากามิเน่ ผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ผมและทีมงานมาสด้าทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในวันนี้ ที่รถยนต์มาสด้า2 ใหม่ ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการและเป็นรายแรกของโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ Eco Car ระยะที่ 2 ด้วยการผ่านข้อกำหนดอันเข้มงวดที่สุดในโลก รวมถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำกว่า 100 กรัม/กิโลเมตร ผมขอถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูง ทั้งทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ (BOI) กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ที่ได้ให้วิสัยทัศน์และมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี การได้รับอนุมัติโครงการในครั้งนี้จะช่วยให้มาสด้าสามารถนำเสนอรถยนต์นั่งขนาดกะทัดรัดที่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติต่างๆ มากมายแก่ลูกค้าชาวไทยในอัตราภาษีที่ดีขึ้นได้ การผลิตรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ ในประเทศไทยจะช่วยยกระดับมาตรฐานทางเทคนิคของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วยการร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ภายในประเทศ นอกจากนี้ เนื่องจากรถมาสด้า2 นั้นเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ดังนั้นการผลิตรถยนต์มาสด้า2 ใหม่ เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและเพื่อการส่งออกนี้จึงจะมีส่วนสำคัญในการสร้างความเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างมีนัยสำคัญ”


รถยนต์มาสด้า2 ใหม่ รุ่นนี้เพิ่งทำการเปิดตัวแนะนำในประเทศญี่ปุ่น สามารถคว้ารางวัล Japan Car of the Year ของประเทศญี่ปุ่น นับเป็นรถยนต์มาสด้ารุ่นที่ 5 แล้วที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ต่อจาก Mazda CX-5 เมื่อปี พ.ศ. 2555 ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้กำลังจะทำการเปิดตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกของโลกในงานมหกรรมยานยนต์ช่วงปลายเดือนนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า มาสด้ามีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่ารถยนต์รุ่นนี้จะสามารถเอาชนะใจลูกค้าชาวไทยและทำให้ลูกค้าหันมาเห็นคุณค่าของความสนุกสนานในการขับขี่ได้อีกครั้ง”

มร. ยูจิ นากามิเน่ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “มาสด้ามีความตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นความเชื่อมั่นของมาสด้าที่มีต่อประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา โดยเฉพาะในเดือนมกราคมปีหน้า มาสด้าจะเริ่มสายการผลิตระบบเกียร์อัตโนมัติที่โรงงานผลิตเกียร์อันทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของมาสด้า โดยจะผลิตระบบเกียร์อัตโนมัติให้กับทั้งเอเอทีและโรงงานอื่นๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ มาสด้ายังได้เพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์นั่งที่โรงงานเอเอทีจาก 50,000 คันต่อปี เป็น 120,000 คันต่อปี นอกจากนี้มาสด้ากำลังดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์แห่งใหม่ในบริเวณเดียวกับโรงงานผลิตระบบเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งโรงงานผลิตเครื่องยนต์แห่งใหม่นี้จะเริ่มสายการผลิตได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2558 นอกจากนี้มาสด้ายังมุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานในสไตล์ของมาสด้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะเข้ามาเติมเต็มชีวิตของลูกค้าชาวไทย ด้วยการเป็นแบรนด์ที่สามารถสร้างสายสัมพันธ์พิเศษให้กับลูกค้า และไม่มีรถยนต์แบรนด์อื่นใดเข้ามาทดแทนได้”


Bangkok, Thailand, 6 November 2014 – Mazda Motor Corporation in collaboration with the AutoAlliance (Thailand) has newly confirmed its strong commitment for the Thai automotive industry by announcing the start of local production of the all new Mazda2 for the Thai Eco Car Phase 2 program, construction of the new engine plant for the production start at the 4th quarter of 2015.

Today Mazda Motor Corporation and Mazda Sales (Thailand) Co. Ltd. jointly staged the official production start of the all new Mazda2, the first eligible model for the Eco Car Phase 2, at the AutoAlliance Thailand (AAT) located at the Eastern Seaboard Industrial Estate in Rayong. The event was presided over by Prime Minister Representative, Mr. Chakramon Phasukavanich, the Industry Minister. Also present were Japanese Ambassador to Thailand Mr. Shigekazu Sato, honorable guests from both government and public sectors, as well as high-ranking executives from AutoAlliance Thailand, Mazda Motor Corporation and Mazda Sales (Thailand).


Mr. Chakramon Phasukavanich, H.E. Minister of Industry, Thailand Government said, “Every Thai government has set up a clear and continuous development scheme for the Thai automobile industry towards ‘Sustainable Mobility’. This is carried out through the use of tax structures and investment promotions, starting from the Cabinet approval on the excise duty tax restructuring — from ‘low displacement and horsepower’ to ‘clean, efficient and safe’.

The Ministry of Industry later introduced the Eco Car Phase 2 scheme, allowing the original five manufacturers to expand production of the Eco Car, as well as others to participate in producing a second Eco Car model that is more outstanding than the first, whether in terms of fuel economy, environmental friendliness and safety. A total of 10 auto manufacturers (including Mazda) have applied for the Eco Car Phase 2 scheme and this confirms the confidence that investors have on Thailand. It also reflects the success of the Thai government’s policy in developing the Thai automobile industry into a global automobile, engine and auto parts production hub.”
Mazda’s investment in the Eco Car scheme is valued at Bt12.6 billion (Bt9.7 billion for assembly plant and Bt2.9 billion for engine plant). The new facility will produce high-quality passenger cars that come with are eco-friendly technology, high efficiency and global standard safety levels. Apart from supplying the domestic market, the new model will also be exported to the global market including the United Kingdom, New Zealand and the Asean region. The Eco Car plant in Thailand is one of Mazda’s three “New Small Car” production centers in the world. Apart from Thailand, the other two production hubs are Japan and Mexico.

The Mazda2 is the second Eco Car model that is more outstanding than models from the first Eco Car project as well as other B-segment vehicles in every way. It boasts superior fuel economy (4.3 liters/100km or 23km/liter), lower emissions (Euro 5 standard 100g/km) and high safety levels, matching those enforced in the European Union. This includes frontal and side impacts as well as high levels of active safety. These are the qualities that help make the all-new Mazda2 a high-quality product that effectively caters to the requirements of present day automobile consumers.


Mr. Yuji Nakamine, Director and Senior Managing Executive Officer of Mazda Motor Corporation, said, “We are so happy and honored that the all-new Mazda2 has been officially approved as the first model for the phase two of the Eco Car Program by meeting the world’s strictest criteria including CO2 emission levels of around 100 gram per kilometer. Taking this opportunity, I would like to express my respect to the BOI, the Ministry of Industry and other related agencies for their foresight and effort towards the program. Thanks to this approval, we are able to offer the world’s most value-packed compact car to our Thai customers at a more advantageous tax rate. The local production of the all new Mazda2 will elevate the technical standards of the Thai automotive industry through collaboration with a lot of local parts suppliers. In addition, since the Mazda2 is a highly competitive model globally, it will make a big contribution to the growth of Thai automobile industry as an export model.

The model was introduced in Japan, and it has been named this year’s Car of the Year Japan. This is the fifth Mazda to win this honorable award, the last being the CX-5 in 2012. The model will be first displayed for the Thai public at the Thailand International Motor Expo at the end of this month, and its official sales start from early next year. We are confident that this model will capture the hearts of many Thai customers and help them rediscover the pleasures of the automobile.”


Mr. Nakamine added “Mazda is on track to making our commitment to Thailand stronger than ever before. In January next year, we will start producing transmissions at a state-of-the-art MPMT factory for AAT and overseas factories. Also, here at AAT, Mazda’s maximum production capacity for passenger vehicles has increased from 50,000 units to 120,000 units. Furthermore, we are constructing a new engine plant next to the MPMT transmission plant. It will start operations during the fourth quarter of 2015. Mazda will continue to introduce attractive products full of Mazda’s unique driving pleasure. And, our sincere hope is to enrich the lives of our Thai customers as an irreplaceable brand, connected to them by a special bond.”

Facebook Comments