ฟอร์ด นับเป็นค่ายรถยนต์ค่ายแรก นอกเครือของกลุ่มโฟล์คสวาเก้น ที่จะใช้โครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้า Modular Electric Toolkit (MEB) เพื่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อ ฟอร์ด โดยคาดว่า จะผลิตมากกว่า 600,000 คัน สำหรับตลาดยุโรป ในอีก 6 ปีข้างหน้า
ค่ายโฟล์คสวาเก้น ลงทุนไปราว 7 พันล้านเหรียญ ราว 210 พันล้านบาท ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้า นับแต่ปี 2569 โดยวางแผนจะทำการผลิตราว 15 ล้านคัน ในทศวรรษหน้า ขณะที่ ฟอร์ด ลงทุนไปแล้ว 11.5 พันล้านเหรียญ 345 พันล้านบาท ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า โดยคาดว่าจะสามารถป้อนผู้บริโภคในตลาดยุโรป และผ่านค่ามาตรฐานไอเสียอย่างสบาย
ซีอีโอ โฟล์คสวาเก้น อร.เฮอร์เบิร์ต ไดเอส Dr Herbert Diess กล่าวว่า “ในอนาคต ทั้งผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม จะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้า พื้นฐาน ผู้นำในอุตสาหกรรมด้านนี้ และเราไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาต่อไป เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้บริโภคมากที่สุด”
“โครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ที่ปลอดมลภาวะของเรา สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ได้ทุกยี่ห้อ อันจะช่วยให้ได้พลังงานสูงสุด และเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้”
ค่ายรถยนต์ทั้งสอง ยังได้ประกาศการลงทุนร่วมในด้านยานยนต์ไร้คนขับ กับค่ายเทคโนโลยี อาร์โก เอไอ Argo AI โดยแต่ละฝ่ายจะลงทุนค่ายละ 7 พันล้านเหรียญ ราว 210 พันล้านบาท เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ สำหรับในอนาคต
ขณะเดียวกัน ทั้งฟอร์ด และ โฟล์คสวาเก้น ต่างยืนยันความร่วมมือในการผลิตรถกระบะขนาดกลาง สำหรับผู้บริโภค ในปี 2565 และจะตามมาด้วยรถตู้เพื่อการพาณิชย์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…