ฟอร์ด ส่ง ฟอร์ด จีที ใหม่ คืนสังเวียนการแข่งรถ เลอ ม็องส์ 2016 ฉลองวาระครบรอบชัยชนะ 50 ปี

ฟอร์ด ประกาศคืนสังเวียนการแข่งรถมาราธอน 24 ชั่วโมง ณ สนาม เลอ ม็องส์ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามแข่งที่คนรู้จักมากที่สุดในโลกด้านการแข่งสมรรถนะ ด้วยรถแข่งฟอร์ด จีที ใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาจากรถซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูง ซึ่งฟอร์ดวางแผนจะจัดจำหน่ายในปีหน้า โดยรถแข่ง ฟอร์ด จีที จะลงแข่งในประเภท จีที เอนดูรานซ์ โปร (GT-Endurance Pro)

FordGT_LeMansRaceCar_11

รถแข่งรุ่นใหม่ ได้รับการพัฒนาและใช้นวัตกรรมแบบเดียวกับรถ ฟอร์ด จีที ซุปเปอร์คาร์ ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ฟอร์ดจะเปิดตัวรถ จีที ที่จะได้รับการผลิตจริงและรถแข่ง จีที ที่ใช้ในการแข่งขัน ในปี 2016 เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ที่รถแข่ง ฟอร์ด จีที เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1, 2 และ 3 ในการแข่งขัน เลอ ม็องส์ 24 ชั่วโมง (24 Hours of Le Mans) ในปี 1966

 

รถแข่ง ฟอร์ด จีที ใหม่ จะเข้าร่วมการแข่งขันสำคัญตลอดปี 2016 กับทีมของ เวิลด์ เอนดูรานซ์ แชมเปี้ยนชิพ และทิวดอร์ ยูไนเต็ด สปอร์ตส์คาร์ แชมเปี้ยนชิพ (World Endurance Championship and TUDOR United SportsCar Championship) โดยจะเปิดตัวลงสนามแรกในการแข่งขัน โรเล็กซ์ 24 ที่เมือง เดย์โทนา มลรัฐฟลอริดา ในเดือนมกราคมปีหน้า ทั้งนี้ ชิพ กานาสซี เรซซิ่ง ร่วมกับเฟลิกซ์ ซาแบทส์ จะเป็นผู้จัดการทีมแข่งของฟอร์ด โดยทั้ง 2 ทีมของเวิลด์ เอนดูรานซ์ แชมเปี้ยนชิพและทิวดอร์ ยูไนเต็ด สปอร์ตส์คาร์ แชมเปี้ยนชิพ จะลงแข่งในประเภท โฟร์-คาร์ ณ สนามแข่งเลอ ม็องส์ โดยชื่อของนักแข่งจะได้รับการประกาศในภายหลัง

FordGT_LeMansRaceCar_01

ตลาดรถสมรรถนะสูงเป็นตลาดรถที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยฟอร์ดมองเห็นว่าลูกค้าต้องการรถที่ประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ เพรียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีชั้นนำและสามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น โดยรถสมรรถนะสูงของฟอร์ดประกอบไปด้วย ฟอร์ด จีที, ฟอร์ด โฟกัส อาร์เอส, ฟอร์ด เอฟ-150 แร็พเตอร์, เชลบี้ จีที 350 และเชลบี้ จีที 350อาร์, ฟอร์ด โฟกัส เอสที และฟอร์ด เฟียสต้า เอสที

FordGT003

รถแข่ง ฟอร์ด จีที เป็นยานยนต์ที่ผสานนวัตกรรมชั้นยอด ที่ไม่ใช่เพียงแค่เหมาะกับการแข่งรถในประเภทจีที เอนดูรานซ์ โปร เท่านั้น แต่ยังเปี่ยมด้วยนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์เพื่อใช้พัฒนารถรุ่นต่างๆ ของฟอร์ด ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ซึ่งช่วยลดแรงเสียดทานพร้อมกับเพิ่มแรงกดและเสถียรภาพในการขับขี่ การใช้วัสดุมวลเบาคาร์บอนไฟเบอร์ที่ทำให้โครงสร้างรถยนต์มีความแข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบา รวมถึงการติดตั้งเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ ที่เปี่ยมด้วยพลังและประสิทธิภาพชั้นยอด

Facebook Comments