กรุงเทพฯ ประเทศไทย 24 มิถุนายน 2553 – วันนี้ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 15,000 ล้านบาท (หรือ 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งใหม่ที่พร้อมไปด้วยเทคโนโลยีชั้นยอด ในจังหวัดระยอง ประเทศไทย โดยมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2555
โรงงานแห่งนี้จะเริ่มผลิตรถยนต์ฟอร์ด โฟกัส รุ่นใหม่ ในปี 2555 เพื่อป้อนตลาดในประเทศไทยรวมถึงการส่งไปจำหน่ายยังตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ ด้วยการเป็นโรงงานที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้ฟอร์ดมีศักยภาพในการผลิตรถยนต์ได้หลากหลายรุ่นในอนาคต
“การประกาศลงทุนเพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญในการขยายการดำเนินธุรกิจเชิงรุกของเราอย่างต่อเนื่องในเอเชียแปซิฟิก เพื่อตอบสนองต่อความต้องการสินค้าคุณภาพระดับโลกของฟอร์ดในภูมิภาคที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วแห่งนี้” มร. อลัน มูลัลลี ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว
“เรามีความมุ่งมั่นในระดับโลกที่จะผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์ฟอร์ด ให้มีความหลากหลายและครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยรถยนต์ของเราจะต้องเป็นเลิศ ทั้งในด้านคุณภาพ การประหยัดน้ำมัน ความปลอดภัย และเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ลูกค้าของเราให้ความสำคัญและต้องการ”
สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่จะมีกำลังการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 150,000 คันต่อปี โดยจะใช้ระบบการผลิตระบบอัตโนมัติอันทันสมัย และปฏิบัติงานภายใต้ระบบและกระบวนการผลิตรถยนต์ระดับโลกของฟอร์ด
โดยการผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่จะเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกสูงสุดถึงร้อยละ 85
“การลงทุนในครั้งนี้เป็นการยืนยันถึงพันธสัญญาในระยะยาวของเราที่มีต่อประเทศไทย และบทบาทที่สำคัญ ในฐานะศูนย์กลางการผลิต และการส่งออกระดับโลกของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี” มร. โจ ฮินริคส์ ประธานฟอร์ด ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา กล่าว “การตัดสินใจสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ของฟอร์ดในครั้งนี้ เป็นผลมาจากความพร้อมของอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย ระบบโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐานด้านการส่งออกที่มีมาตรฐานในระดับโลก”
ทั้งนี้ รถยนต์ฟอร์ด โฟกัสรุ่นใหม่ จะถูกผลิตโดยใช้โครงสร้างตัวถังใหม่ของรถยนต์ขนาดกลาง หรือ “ซี-คาร์” ของฟอร์ด ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายรวมทั่วโลกมากกว่าปีละสองล้านคัน โดยปัจจุบันตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และคาดกันว่าภายในปี 2556 จะมีสัดส่วนราวร้อยละ 28 ของยอดขายรถยนต์นั่งโดยรวมทั้งหมด
โรงงานประกอบรถยนต์แห่งใหม่ขนาด 750,000 ตารางเมตร จะเป็นโรงงานแบบครบวงจร เพื่อการประกอบตัวถัง การพ่นสี การเก็บรายละเอียดและการประกอบรถยนต์ขั้นสุดท้าย โดยใช้กระบวนการผลิตตามรูปแบบระดับโลกซึ่งเป็นแนวคิดเพื่อความยั่งยืน ตลอดจนกระบวนการ และระบบการผลิตที่มีความรับผิดชอบ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“สำหรับฟอร์ดแล้ว การดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมนั้น เป็นมากกว่าความมุ่งมั่นของเราในการเป็นผู้นำด้านการประหยัดพลังงาน โดยเราประสบความสำเร็จอย่างสูงในการประยุกต์ใช้เทคนิคด้านการใช้พลังงานต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ในโรงงานผลิต และสำนักงานของเราทั่วโลก” ซู ซิซกี รองประธานกลุ่มด้านความยั่งยืน สิ่งแวดล้อม และวิศวกรรมความปลอดภัย ของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว
“โรงงานแห่งใหม่ในประเทศไทยนี้จะปฏิบัติตามนโยบายของฟอร์ดทั่วโลกอย่างเคร่งครัด ซึ่งการปฏิบัติการ ผลิตภัณฑ์ และบริการของเรา บรรลุการทำหน้าที่ในการปกป้องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม” ซิซกี กล่าว
ด้านโรงพ่นสีของโรงงานแห่งใหม่นี้ จะใช้กระบวนการพ่นสีแบบ 3-Wet technology ที่พ่นสีซ้อนทับกัน 3 ชั้น แล้วจึงอบสีแห้งเพียงครั้งเดียว โดยถือเป็นวิธีที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพของการพ่นสี ความละเอียด และความทนทานของสี ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีคุณภาพระดับโลกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังช่วยลดปริมาณการปล่อยสาร อินทรีย์ไอระเหย และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งของเสียต่างๆ จากการผลิตลงได้อย่างมาก นอกจากนั้น ยังมีโรงบำบัดน้ำเสียอยู่ภายในโรงงาน และระบบควบคุมแสงสว่างที่ประหยัดพลังงาน โดยใช้แสงธรรมชาติ ระบบระบายอากาศด้วยลมธรรมชาติ รวมทั้งใช้วัตถุดิบที่ผลิตในประเทศไทย และสามารถนำกลับมาใช้อีกได้
ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจต่อประเทศไทย
ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี มีแผนจัดซื้อชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ ซึ่งมูลค่าสูงสุดถึงปี 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (26,000 ล้านบาท) จากเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทย
“ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกของประเทศไทยทำให้ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี สามารถนำปัจจัยต่างๆ ที่มีมาต่อยอดให้ธุรกิจให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไปได้อีก โดยใช้แรงงานที่มีความชำนาญในประเทศ และความเชี่ยวชาญด้านการตลาด ตลอดจนรากฐานการดำเนินธุรกิจเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเราได้วางรากฐานในประเทศไทย” มร. ฮินริคส์ กล่าวเสริม
พร้อมกันนี้ ฟอร์ดยังเปิดเผยว่าโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่นี้จะสามารถจ้างงานใหม่ได้สูงสุดถึง 11,000 ตำแหน่ง โดยจะเป็นตำแหน่งงานที่ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี จ้างโดยตรงสูงสุดถึง 2,200 ตำแหน่ง และเป็นการจ้างงานผ่านทางเครือข่ายซัพพลายเออร์ และดีลเลอร์อีกถึง 8,800 ตำแหน่ง เมื่อโรงงานมีกำลังการผลิตสูงถึง 150,000 คันต่อปี
# # #
ข้อมูลเกี่ยวกับฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี
ฟอร์ด มอเตอร์คัมปะนี เป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเดียร์บอร์น มลรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผลิตและจำหน่ายรถยนต์ใน 6 ทวีปทั่วโลก มีพนักงานประมาณ 176,000 คน และมีโรงงานประมาณ 80 แห่งทั่วโลก บริษัทฯ มีรถยนต์แบรนด์ชั้นนำที่เป็นที่รู้จักมากมาย ได้แก่ ฟอร์ด ลินคอล์น เมอร์คิวรี (ซึ่งบริษัทฯได้ประกาศว่าจะเสร็จสิ้นการผลิตในช่วงไตรมาสที่ 4 ในปี พ.ศ. 2553) และวอลโว่ (จนกว่าการเจรจาซื้อขายจะสิ้นสุด) นอกจากนี้ ยังให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ผ่านบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ เครดิต สามารถเรียกดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของฟอร์ด ได้ที่ www.ford.com
#####################
PREMSAK@CARONLINE.NET
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…