• ฟอร์ดรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ กำไรสุทธิ 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5.08 หมื่นล้านบาท) หรือ 43 เซนต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 690 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.06 หมื่นล้านบาท) เทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว
• ฟอร์ดประกาศแผนปฏิบัติการเพิ่มเติมเพื่อช่วยลดหนี้จากธุรกิจยานยนต์ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับงบดุลของบริษัท รวมทั้งจ่ายคืนวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนมูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5.97 หมื่นล้านบาท) และวางแผนที่จะจ่ายเงินสด 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.07 แสนล้านบาท) คืนให้แก่กองทุนประกันสุขภาพผู้เกษียณวัย (เวบ้า ทรัสต์) พร้อมเสนอแปลงสภาพตราสารหนี้ชนิดแปลงสภาพได้ 2 รายการ
• ฟอร์ดคาดว่าเงินสดจากธุรกิจยานยนต์ของบริษัทจะมีมูลค่าเทียบเท่ากับหนี้ของธุรกิจดังกล่าวภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งนับว่าเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า เพิ่มขึ้นราว 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถึง 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.39 – 2.69 แสนล้านบาท) เทียบกับสิ้นปีที่แล้ว
• ฟอร์ดปิดไตรมาส 3 ด้วยวงเงินสดหรือเทียบเท่าจากธุรกิจยานยนต์ที่ 2.38 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7.11 แสนล้านบาท) และมีสภาพคล่องรวม 2.94 หมื่นล้าน (ประมาณ 8.78 แสนล้านบาท) กระแสเงินสดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจยานยนต์เป็นบวกที่ 900 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.69 หมื่นล้านบาท)
• รายรับรวมในไตรมาส 3 ของฟอร์ดอยู่ที่ 2.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8.67 แสนล้านบาท) ลดลง 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.88 หมื่นล้านบาท) เทียบกับไตรมาส 3 ของปีพ.ศ. 2552 แต่หากไม่นับรายได้ของวอลโว่ในพ.ศ. 2552 รายได้รวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5.08 หมื่นล้านบาท)
• การดำเนินธุรกิจยานยนต์ของฟอร์ดมีกำไรก่อนหักภาษีในไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.88 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 953 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.85 หมื่นล้านบาท) เทียบกับไตรมาส 3 ของปีพ.ศ. 2552
• ฟอร์ดในทวีปอเมริกาเหนือมีกำไรก่อนหักภาษีในไตรมาส 3 ที่ 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.78 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.88 หมื่นล้านบาท) เทียบกับไตรมาส 3 ของปีพ.ศ. 2552
• ฟอร์ด เครดิต มีกำไรก่อนหักภาษีในไตรมาส 3 ที่ 766 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.29 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 89 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.66 พันล้านบาท) เทียบกับไตรมาส 3 ของปีพ.ศ. 2552 และยังจ่ายเงินปันผล 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.99 ล้านบาท) แก่ฟอร์ดในไตรมาสดังกล่าวอีกด้วย
• ฟอร์ดจะมีผลกำไรโดยรวมที่แข็งแกร่งในปีพ.ศ. 2553 ด้วยกระแสเงินสดเป็นบวกในธุรกิจยานยนต์ และจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีพ.ศ. 2554
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…