ผู้หญิงไปทดลองขับ Honda Accord Hybrid ใหม่ ประสาผู้หญิงขับรถ: ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา


ก่อนที่จะไปขับHonda Accord Hybridใหม่คันนี้ เราก็มารู้จักรถคันนี้กันก่อนนะคะ ประสาผู้หญิงขับรถ รถคันนี้ได้รับการพัฒนาจากแอคคอร์ด เจนเนอเรชั่นที่ 9 ด้วยระบบไฮบริดแบบ Full Hybrid

เครื่องยนต์ 4 สูบ16 วาล์ว แบบ Akinson Cycle Over Head Camshaft (DOHC) i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร

ให้กำลังสูงสุดที่ 143 แรงม้า แรงบิดที่ 165 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ต้ว ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 169 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงถึง 307 นิวตัน-เมตร เกียร์ E-CVT พร้อมแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน มีความจุไฟฟ้า 1.3 กิโลวัตต์ เครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 199 แรงม้า


ไปขับรถคราวนี้มีรถให้ทดสอบ 2 รุ่นคือ Honda Accord Hybrid TECH ซึ่งเป็นตัวท็อป กับตัวธรรมดา
ซึ่งครั้งนี้ดิฉันได้ขับตัวธรรมดาทั้งไปและกลับ รายละเอียดทั้งหมดที่พูดในนี้จะเป็นของแอคคอร์ดไฮบริดตัวธรรมดา

รูปร่างของรถแอคคอร์ดไฮบริดภายนอกที่แตกต่างจากตัว แอคคอร์ดตัวเบนซินก็คือ ไฟหน้าแบบ โปรเจคเตอร์ ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่กลางวันเป็น LED ตกแต่งด้วยกรอบสีฟ้า ไฟท้ายแบบ LED และกระจังหน้าตกแต่งด้วยเลนส์สี Clear Blue ล้ออัลลอยสีใหม่ทั้งหมดขนาด 17 นิ้ว

ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือหน้าจอที่จะเห็นการทำงานของระบบไฮบริด


ภายในของแอคคอร์ดไฮบริดตัวธรรมดา คันที่ขับเป็นสีขาว ภายในก็เลยตกแต่งด้วยสีดำ แต่ถ้าภายนอกของตัวรถเป็นสีเข้มภายในก็จะตกแต่งด้วยสีเบจ

เริ่มออกเดินทางจากฮอนด้าบางชันโดยดิฉันเป็นคนขับคนแรก โดยเดินทางไปด้วยกัน 3 สาว ใช้เส้นทางจากศูนย์อบรมฮอนด้าบางชันไปยังปราณบุรีสิ้นสุดที่โรงแรมเชอราตันปราณบุรี ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร

เมื่อขึ้นบนรถก็ปรับที่นั่งให้เรียบร้อยเก้าอี้เป็นระบบไฟฟ้า เบาะเป็นหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ เบาะนั่งด้านคนขับปรับด้วยไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มีระบบบันทึกเบาะนั่งผู้โดยสาร มีระบบปรับดันหลังด้านคนขับ ส่วนด้านคนนั่งปรับได้ 5 ทิศทาง เบาะนั่งได้สบายทีเดียว

กระจกข้างปรับไฟฟ้า


พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มรับวางสายโทรศัพท์ พร้อมปุ่มควบคุมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control

ที่สตาร์ทรถก็เป็นแบบกดปุ่มลงไป ส่วนเบรกมืออยู่ที่เท้าด้านซ้าย โดยกดเท้าลงไปแล้วปล่อย


หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด7.5 นิ้ว ไม่มีระบบนำทางเนวิเกเตอร์

เครื่องเสียงเป็นวิทยุ-ซีดี MP3แบบ 1 แผ่น หน้าจอแบบสัมผัส ช่องเชื่อมต่อ HDMI ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง
ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth ซึ่งนับว่าสะดวกนะคะ ถ้ารถใช้คนเดียวยิ่งดี ในช่วงนี้ที่มีการเข้มงวดเรื่องการใช้โทรศัพท์ในระหว่างขับรถ รับสายได้เลย แต่ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วยก็ปิดซะ

แอร์เป็นแบบอัตโนมัติแยกซ้ายขวา มีแอร์ด้านหลังสำหรับผู้โดยสารด้านหลังด้วย


ก่อนจะขับต่อไปก็มาพูดถึงการทำงานของระบบ Hybrid ของฮอนด้าแอคคอร์ดคันนี้กันก่อน

เมื่อขณะรถหยุดนิ่ง เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน แต่ระบบแอร์ยังคงทำงานอยู่โดยรับพลังงานจากแบตเตอรี่ ถ้าระดับไฟฟ้าในแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ เครื่องยนต์ก็จะกลับมาทำงาน ผู้โดยสารเย็นสบายค่ะ

โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode )
มอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และในขณะลดความเร็วจะเปลี่ยนพลังงานที่เกิดจากการลดความเร็วให้กลับเป็นพลังงานไฟฟ้า และชาร์จไฟกลับไปยังแบตเตอรี่ ซึ่งระบบนี้จะให้ความเงียบแบบรถไฟฟ้า เหมาะกับการขับขี่ในเมือง เมื่อตอนออกตัว หรือชะลอที่จะจอด

โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด ( Hybrid Drive Mode ) เป็นระบบขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ผสานการทำงานในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ได้อัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ และในขณะลดความเร็ว เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและชาร์จไฟกลับไป เป็นระบบที่เหมาะกับการขับขี่ในขณะเร่งความเร็ว

โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) พลังขับเคลื่อนจะมาจากเครื่องยนต์ โดยชุดล็อคอัพคลัทช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปล้อโดยตรง เหมาะกับการขับขี่ที่ความเร็วสูงคงที่

นั่นคือการทำงานของระบบไฮบริดของรถคันนี้ และระบบนี้จะทำงานสอดคล้องกันโดยอัตโนมัติจากลักษณะการขับรถของเรา หรือว่าแสนรู้นั่นเอง


เมื่อออกเดินทางจากฮอนด้าบางชันจุดหมายปลายทางที่ปราณบุรี โดยมุ่งหน้าไปทางด้านพระราม 2 ซึ่งการจราจรหนาแน่นมากในช่วงเช้า ก็ได้เห็นการทำงานของระบบไฮบริดของรถคันนี้ โดยจะมีไฟ EV ขึ้นให้เห็นอยู่ตลอดเวลาและเมื่อลดความเร็วลงก็จะเห็นที่หน้าจอก็จะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าและชาร์จไฟกลับไปยังแบตเตอรรีซึ่งเราก็รู้สึกถึงความนุ่มนวลและความเงียบ

การดูหน้าจอก็เป็นเรื่องสนุก แต่ก็ต้องระวังรถคันหน้าเหมือนกันนะ ห้ามละสายตานานแม้ว่าอยากรู้นะว่าตอนนี้ทำงานแบบไหน

อัตรเร่งแซงของรถคันนี้ดีทีเดียว เมื่อเหยียบคันเร่งลงไปความเร็วก็มาอย่างต่อเนื่อง ระบบไฮบริดจะทำงานของเค้าเองโดยอัตโนมัติ ทุกอย่างเป็นไปอย่างนุ่มนวลราบรื่น

และถ้าเราต้องการใช้ EV โหมดก็สามารถใช้ได้ในความเร็วที่เหมาะสม แต่ในการขับคราวนี้ไม่ได้ลองใช้ โหมดนี้ โดยปล่อยให้ระบบทำงานไปเอง


ช่วงที่ใช้ความเร็วสูง พวงมาลัยควบคุมง่าย ถึงจะเบาหน่อนแต่ยิ่งขับก็ยิ่งให้ความหนักแน่น

ภายในรถค่อนข้างเงียบเพราะฮอนด้าแอคคอร์ดมีการติดตั้งระบบควบคุมเสียงเข้าห้องโดยสาร แต่ก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่เราขับอยู่และรับรู้ถึงเสียงและกำลังเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอเกิดความเร้าใจในการขับ

ช่วงล่างนุ่มนวล ไม่กระด้าง ให้ความรู้สึกเป็นสปอร์ต ช่วงล่างหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทซึ่งออกแบบใหม่หมดเพื่อให้นุ่มนวลและเงียบในการขับขี่และเข้าโค้ง หลังเป็นแบบมัลติลิงค์ค์พร้อมเหล็กกันโคลง


เวลาขับขี่เมื่อเปิดไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน จะมีภาพของเลนด้านซ้าย ปรากฎให้เห็นบนหน้าจอ แต่ถ้าเปลี่ยนเลนด้านขวาจะไม่มีภาพขึ้น ก็เป็นระบบที่ช่วยให้ปลอดภัยดี

ระบบเบรกมั่นใจได้ เบรกได้ดั่งใจ มีอยู่ช่วงหนึ่งตอนที่จะลงทางด่วนพระราม 2 ดิฉันก็ได้เปิดไฟขอทางเพื่อเปลี่ยนเลน อีกคันไม่รู้มาจากไหนรีบแทรกมาทันที ทำให้ต้องเหยียบเบรกอย่างแรง ไม่งั้นโดนเขาจิ้ม หรือไปจิ้มเขาแน่ๆเลย

การขับขี่ไม่ได้แตกต่างจากแอคคอร์ดตัวธรรมดา อัตราเร่งแซงดี ความเร็วมาอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้เลยว่าเป็นการทำงานของระบบไฮบริด ถ้าไม่ดูการทำงานที่หน้าจอ


คราวนี้มีโอกาสได้เป็นผู้โดยสารด้านหลังบ้าง ซึ่งก็กว้างขวางค่ะ ด้านหลังมีช่องแอร์ให้ด้วย ถ้าหนาวก็หมุนปิดหน้าต่างแอร์

กระจกด้านข้างผู้โดยสารด้านหลัง มีม่านกันแดด เปิดปิดได้ด้วย แต่เป็นแบบใช้มือไม่ใช้ไฟฟ้า
ที่นั่งด้านหลังถือว่านั่งได้สบาย ไม่รู้สึกว่ากระเทือน


ส่วนระบบความปลอดภัยของรถคันนี้เยอะทีเดียว เช่นถุงลมคู่หน้า ถุงลมด้านข้างคู่หน้า ม่านถุงลมด้านข้าง
กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ระบบควบคุมการบังคับเลี้ยวและระบบเสริมแรงเบรก
ระบบช่วยการออกตัวอยู่บนทางลาดชัน ระบบป้องกันล้อล็อค ระบบกระจายแรงเบรก
ระบบล็อคอัตโนมัติ ระบบกุญแจ Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย

กระจกหน้าต่างด้านข้างคู่หน้าลดการเกาะตัวของหยดน้ำ กระจกมองข้างลดการเกาะตัวของหยดน้ำ อันนี้ชอบค่ะ เพราะเวลาฝนตกจะได้มองชัดขึ้น ช่วยได้มากเวลาฝนตกแล้วถอยเข้าที่จอดรถที่แคบๆ ไม่ต้องลดกระจกลง


มีอุปกรณ์อุดความรั่วซึมของยางให้มาด้วย

ยางที่ใช้ขนาด 225/50/R 17

น้ำมันที่ใช้คือ แก๊ส โซฮอล์ E10 และ E 20 ไม่สามารถใช้ E 85 เหมือนตัวที่ใช้น้ำมันธรรมดา

ถังน้ำมันจุ 60 ลิตร


ทางฮอนด้าให้ความมั่นใจผู้ใช้รถแอคคอร์ดไฮบริดโดย รับประกัน 5 ปีแรกทั้งระบบแบบไม่จำกัดระยะทาง ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุมแบตเตอรี่ไฮบริดและระบบสายไฟไฮบริด
และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดเพิ่มเป็น 10 ปี

Accord Hybrid คันนี้ จากการเดินทางในครั้งนี้ ความเร็วที่ใช้อยู่ที่ 120- 140 ในบางช่วง กินน้ำมันอยู่ที่ 15.8 กิโลเมตรต่อลิตร

ส่วนราคาคันที่ขับ รุ่น Hybridธรรมดา ราคา 1,659,000 บาท และ รุ่น Hybrid TECH ราคา 1,899,000 บาท

สนใจตัวไหนละคะ

ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ผู้หญิงขับรถ

Facebook Comments