นิสสัน Livina รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัด เป็นคำเรียกที่น่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่า
บางท่านก็เรียกว่า Compact SUV ซึ่งเป็นรถแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง
เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์วพร้อมระบบวาล์วหัวฉีดคู่ ผสานกับระบบวาล์แปรผันคู่ Twin C-VTC
แรงม้าอยู่ที่ 114 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดอยู่ที่ 153 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์เป็นแบบ XTRONIX CVT เครื่องยนต์มีพื้นฐานเดียวกับนิสสันซิลฟี่
ความยาวของรถอยู่ที่ 4,310 มม.ความกว้างทั้งหมด 1,735 มม. ความสูงทั้งหมด 1,635 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มม.
เวลาเจอทางที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำหรือน้ำท่วมขังไม่สูงมากนัก ก็จะได้สบายใจได้ว่าสูงพอ
รูปทรงดูเรียบง่ายกึ่งสปอร์ต ไฟหน้าฮาโลเจน ไฟท้ายมัลติรีเฟล็กซ์เตอร์ กระจังหน้าแบบโครเมี่ยม
ที่ปัดน้ำฝนหน้า-หลังแบบตั้งหน่วงเวลาได้
กันชนสีเดียวกับตัวรถทั้งหน้า-หลัง พร้อมการ์ดกันกระแทกสีเงินเมทัลลิก
มีสปอยเลอร์หลังคาและราวหลังคาหากมีสัมภาระเยอะก็บรรทุกเพิ่มได้
มีแผงไล่ฝ้ากระจกหลัง ซึ่งดิฉันคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็นของรถลักษณะแบบนี้ที่เป็นรถแบบท้ายตัด
ซึ่งคราวนี้ผู้หญิงขับรถก็ต้องทำหน้าที่อีกแล้ว โดยช่วงเช้านัดพบกันที่อาคารนันทวรรณที่ถนน ราชดำริ นัดเจอกันแปดโมงเช้าออกจากบ้านประมาณ 6.30 น.ไปถึง เจ็ดโมงเช้า ก็ถือว่าโชคดีไปที่รถไม่ติด แล้วก็ไปกินอาหารเช้าที่บริเวณอาคาร นั้นเพื่อรอเวลานัดหมาย เช้านี้กินข้าวหมูแดงไปประเดิมเป็นคนแรกเลยค่ะ
แล้วก็เตรียมตัวเดินทาง
คราวนี้ไปกันกรุ๊ปเล็กๆ คันของดิฉันไปกัน 3 คน โดยดิฉันนั่งด้านหลังไปก่อน โดยวิ่งกันไปเป็นขบวน ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ- สระบุรี ไปทางแก่งคอย ใช้เส้นทางที่ผ่านทางอุโมงค์ต้นไม้
ที่นั่งด้านหลังเป็นที่นั่งแบบแยกส่วน 60:40 คนที่นั่งด้านหลัง ปรับเอนไม่ได้ ส่วนเก้าอี้ด้านคนขับและผู้โดยสารปรับได้คือเลื่อนหน้าหลังและปรับนอน โดยใช้มือในการปรับไม่ใช่อุปกรณ์ไฟฟ้า
เก้าอี้ที่นั่งเป็นแบบหุ้มด้วยหนังแท้และวัสดุหนังหนังสังเคราะห์ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
นิสสัน LAVINA ใส่ใจมีช่องแอร์สำหรับผู้นั่งหลังด้วย และมีที่วางแก้วน้ำให้สำหรับผู้ที่นั่งด้านหลัง มีช่องเก็บของด้านหลังอยู่ที่เบาะคู่หน้า อย่าใส่เข้าไปเยอะนะคะเดี๋ยวห้อย
วัสดุที่ตกแต่งภายในตัวรถเป็นสีดำ หน้าปัดเป็นมาตรวัดเรืองแสง จอเป็นแบบMulti-information Display แสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ระยะทางที่ขับขี่ น้ำมันที่เหลือ และนาฬิกา
ระบบเครื่องเสียง มีจอแบบTouch Screen ขนาด 6.1 นิ้วพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ Aux-in สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง
ช่วงแรกที่ขับ เป็นทางโทลล์เวย์และถนนทางตรง ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร กินน้ำมันประมาณ18 กิโลเมตรต่อลิตร ความเร็วที่ใช้ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประหยัดทีเดียว
ช่วงที่ 2 ดิฉันเป็นคนขับ ซึ่งจะวิ่งเข้าถนนสายในที่แก่งคอย ซึ่งเป็นถนนซึ่งจะเป็นทางขึ้นเขา ค่อนข้างคดเคี้ยว เป็นถนนที่สวยเพราะมีอุโมงค์ต้นไม้เป็นระยะ เป็นถนนสองเลน วิ่งสวนกันค่อนข้างยากถ้ารถเยอะ วันที่เดินทางไปเป็นวันธรรมดา ถนนค่อนข้างโล่งวิ่งได้สบาย การควบคุมรถเป็นรถที่ควบคุมได้ง่ายพวงมาลัย ไม่เบาจนเกินไป พวงมาลัยเป็นแบบยูรีเทนตกแต่งด้วยสีเงิน พวงมาลัยปรับสูงต่ำได้
กระจกปรับด้วยไฟฟ้ารอบคัน ด้านคนขับมีระบบป้องกันการหนีบ
ในช่วงของการวิ่งขึ้นเขามีช่วงหนึ่งที่ต้องชะลอความเร็วลงเกือบหยุด และเป็นทางชัน ช่วงนี้ต้องเหยียบคันเร่งลงไปลึกมากเพื่อเร่งขึ้นบนทางชัน
เกียร์ CVT ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวล
การเกาะถนนถือว่าดี ด้วยระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง กันสะเทือนหลังเป็นทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง
ความนุ่มนวลถือว่าใช้ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวถนนด้วย บางช่วงก็รู้สึกว่าเหมือนกระด้าง แต่บางช่วงถนนก็รู้สึกว่านุ่มนวล ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับลมยางที่เติมก็มีส่วนด้วยค่ะ ซึ่งเราไม่ได้เช็คลมยางก่อนออกเดินทาง
ขนาดของยางคันที่ขับ เป็น 195/55 R 16 ล้ออัลลอย 16 นิ้ว
ระบบเบรกดีค่ะ หยุดได้ดั่งใจ ระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์เบรก หลังเป็นดรัมเบรก
นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยที่ให้มา ถุงลมคู่หน้า ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบล็อคประตูอัตโนมัติสัมพันธ์กับความเร็ว ระบบกุญแจแบบ Imobilizer
ส่วนการบรรทุกสัมภาระด้านหลังก็บรรทุกได้เยอะ แต่ถ้าไม่พอใจก็พับที่นั่งแถวหลังลง ก็จะเพิ่มเนื้อที่ได้มากขึ้น
ราคาก็เริ่มต้นที่ 672,000 บาท จนถึง 742,000 บาท
ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ชอบเดินทางค่ะ
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ผู้หญิงขับรถ
อีซูซุส่งเครื่อ…