เช้าวันที่ 4 ของการเดินทาง วันนี้เราจะเดินทางจากทะเลสาบไปคาลไปยังเมือง Taishet กับระยะทาง 700 กิโลเมตร
การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นจาก มองโกเลีย -ไซบีเรีย-รัสเซีย ระยะทางทั้งสิ้นกว่า 6,500 กิโลเมตร (5-19 ตุลาคม 2559)
กลุ่มที่ 1ประมาณ 3,200 กิโลเมตร ด้วยมาสด้า CX-3 และ CX-5 เครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซีซี จากเมืองไทย
เมื่อคืนเรามาถึงที่พักที่ริมทะเลสาปไบคาลเป็นเวลาค่ำแล้วประมาณ 3 ทุ่ม ก็เลยมองไม่เห็นว่าที่พักอยู่ใกล้ทะเลสาบ เมืองนี้ชื่อริซ จังก้า
อาหารเช้านี้ก็จะเป็นสลัดขนมปังและก็มีเครป ซึ่งอร่อยมาก เดินออกจากห้องพักด้วยความหนาวอุณหภูมิ -5 องศา และมีลมพัด หนาวมาก ทางเดินยังมีหิมะให้เห็นอยู่
เช้านี้ดิฉันก็เป็นคนขับค่ะ กับมาสด้าSkyactive CX-5 คันเดิมต้องเปิดฮีทเตอร์เหมือนเดิม ปรับที่นั่งให้เข้าที่ที่นั่งเป็นแบบปรับไฟฟ้า ส่วนด้านผู้โดยสารด้านหน้าปรับมือ โดยขับจากที่พักเพื่อลงไปยังทะเลสาบ ช่วง 8 โมงเช้าร้านค้ายังไม่เปิด เราก็ขับรถและไปจอดรถที่ถนนเลียบทะเลสาบเพื่อเก็บบรรยากาศริมทะเลสาบมาฝากท่านผู้อ่านกันค่ะ
มีClip ทะเลสาบไบคาล
ทะเลสาบไบคาล ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของไซบีเรีย ประเทศรัสเซียเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ลึกที่สุดในโลก จุดที่ลึกที่สุดมีความลึกกว่า 1,640 เมตร มีความยาว 650 กิโลเมตร กว้างโดยเฉลี่ย 50 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 23,000 ตารางกิโลเมตร ได้ลงทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเมื่อ ปี พ.ศ 2539
มีหาดทรายและร้านที่ทำเป็นเพิงที่นั่งริมชายหาด ทะเลสาบของจริงสวยมาก เป็นธรรมชาติมากๆ ดูลึกลับอย่างบอกไม่ถูก พื้นจะเป็นทรายแบบหยาบปนหินก้อนเล็กๆ
ทะเลสาบแห่งนี้ ในช่วงที่หนาวจัด น้ำก็จะกลายเป็นน้ำแข็งค่ะ ซึ่งรถก็สามารถไปวิ่งบนนั้นได้ ก็อยากจะลองเหมือนกันนะคะ
พวกเราฟินกับธรรมชาติที่นี่มาก เพราะเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตจริงๆ
และเราก็ออกเดินทางกันต่อไปซึ่งวันนี้เราจะต้องเดินทางไปอีกประมาณ 700 กิโลเมตร วันนี้เนวิเกเตอร์ของดิฉันเป็นสาวสวยชื่อหนูแหม่มจากมติชน ส่วนสาวสวยอีกคนชื่อแหม่มจากรายการทีวีซึ่งวันนี้นั่งอยู่แถวหลัง หนูแหม่มใช้วิทยุสื่อสารและคอยดูเส้นทางให้เมื่อต้องเร่งแซงซึ่งเราก็มี คุณซาร่า ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของทางมาสด้าก็นั่งมาด้วยค่ะ
จากขบวนที่ไปด้วยกันทั้งสิ้น 10 คัน บางครั้งก็แซงรถคนท้องถิ่นคันช้าที่อยู่หน้าเราไปไม่หมด เพราะมีรถวิ่งสวนมา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรถเทรลเลอร์ค่อนข้างเยอะ
ถนน ที่ออกจากทะเลสาบไบคาลก็เป็นถนนสองเลน เส้นทางจะเป็นแบบที่ราบสูง เป็นเนินสูงต่ำค่อนข้างเยอะ Cx-5 กำลังเหลือๆ และเราขับย้อนกลับไปที่เมือง Irkutsh สองข้างทางเต็มไปด้วยหิมะ
รถนำคันแรก00คุณอ้นจากทรานส์เอเซีย คอยบอกเส้นทางทุกระยะ และคุณกิตติ นิลถนอมซึ่งเป็นคันที่ 9 รถปิดท้าย คอยดูแลรถที่อยู่ท้ายขบวน
และเนวิเกเตอร์ประจำรถก็จะคอยบอกทางให้คันที่ต่อจากคันดิฉันด้วย ซึ่งจะมีอีก 3 คัน เพราะดิฉันเป็นคันที่7 เนวิเกเตอร์ มีความสำคัญ ควบคู่ไปกับการตัดสินใจของคนขับด้วยเพราะรถเราพวงมาลัยขวา แต่เราต้องขับแซงซ้าย แต่ CX-5 ก็ยังได้เปรียบเรื่องความสูง มองเห็นขัดเจนในมุมสูง
เมื่อเข้าเมืองก็ใช้ความเร็วไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เห็นคนข้ามถนนต้องรีบจอดรถเลย
เมื่อออกนอกเมืองสองข้างทางเป็นต้นสนที่เปลี่ยนสีไปแล้ว และเป็นทุ่งโล่งๆ บางครั้งก็เป็นทุ่งปลูกข้าวบาร์เลย์ แต่ที่นี่เราไม่เจอม้าและวัวข้ามถนน ไม่เหมือนฝั่งมองโกเลีย
ทางด่วนเก็บตังค์ก็ไม่มีค่ะ เป็นทางหลวงธรรมดานี่แหละ
บางช่วงก็เจอถนนที่ขรุขระมาก
ป้ายที่นี้แทบจะไม่มีภาษาอังกฤษเลยเหมือนทุกเมืองที่ผ่านมา เมืองที่เราผ่านจะค่อนข้างทันสมัยหน่อย เป็นตึกแต่ไม่สูงมากนัก รถประจำทางในเมืองก็จะเป็นรถรางฟ้า
เมื่อออกกนอกเมืองก็เป็นทุ่งหญ้าโล่งสลับกับทิวสนที่เปลี่ยนสี วันนี้ขับรถต้องทำความเร็วกันพอควรกับระยะทางอีกยาว
และเป็นวันเสาร์ด้วยซึ่งเป็นวันหยุดเราจะเห็นรถบนท้องถนนค่อนข้างเยอะ ซึ่งก็เหมือนบ้านเราอะนะที่ไปเที่ยววันหยุด
สองข้างทางก็เป็นทุ่งโล่งเช่นเดิม บ้านเรือนนอกเมืองจะอยู่ริมถนนเป็นหย่อมๆ ลักษณะเป็นบ้านไม้
และเราก็แวะเติมน้ำมัน ซึ่งคราวนี้มีหนึ่งสาวจากมติชนอยากเปลี่ยนไปนั่งคันอื่นบ้าง สลับกับคันของคุณอุทัย ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์มาสด้า คันของเรา CX-5 ก็เลยได้หนุ่มมาเป็นบอดี้การ์ดให้ตั้งแต่นั้นเลย
แล้วเราก็ถึงจุดพักรถที่ 1 เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน อาหารกลางวันมื้อนี้เป็นหมูทอดกับข้าว หมูทอดไม่ได้เป็นแบบบ้านเรานะคะ และก็มีเครปจิ้มกับนมข้น อันนี้อร่อยค่ะทานไปหลายชิ้น
ทานอาหารเสร็จเปลี่ยนคนขับ ดิฉันไปนั่งแถวหลัง ซึ่งต้องยอมรับว่าที่นั่งแถวหลังนั่งได้สบายทีเดียว แม้ในช่วงที่ถนนกระเทือนมากๆ เพราะบางช่วงถนนไม่ดีเลย แต่เมื่อลงจากรถไม่มีอาการเมื่อยเลยหรือปวดหลังเลยค่ะ
และการเดินทางของเราก็ยังต้องเปิดฮีทเตอร์ตลอดเวลา เพราะพอขับไปสักพัก ฝ้าก็จะขึ้นเต็มรถ เพราะอากาศข้างนอกเย็นกว่าในรถ เราก็ต้องเปิดไล่ฝ้าเป็นระยะๆ และวันนี้เราก็ต้องรีบเร่งในการขับรถเพื่อจะได้ถึงที่พักไม่ดึกนัก
ถนนบางช่วงก็มีการซ่อมแซมซึ่งจะมีป้ายบอกเตือนล่วงหน้า
ซึ่งที่พักคืนนี้ ก็เป็นตึกสูงหลายชั้นเหมือนกันนะ แต่ดิฉันได้พักชั้น 3 ซึ่งก็ไม่มีลิฟท์ก็ต้องยกระเป๋าขึ้นไปได้เจ้าหน้าที่จากทรานส์เอเซียคุณฟลุ๊คช่วยยกขึ้นไปให้ ขาลงก็ลากลงมาเอง
อีซูซุส่งเครื่อ…