ป้ายทะเบียนรถไฟฟ้า โดย ลุงอ็อด
แม้ว่ารถไฟฟ้า จะได้ประโยชน์ในแง่สิ่งแวดล้อม แต่ก็อาจเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตราย ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ อาจเป็นอันตรายสำหรับผู้เข้าช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าพนักงาน หรือผู้ทำงานเกี่ยวกับสาธารณภัย ที่อาจถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูงของตัวรถ ดูด ได้โดยง่าย หากผลีผลามเข้าไปแตะต้องกับตัวรถที่เกิดอุบัติเหตุ
รัฐโรดไอแลนด์ ซึ่งเป็นรัฐที่เล็กที่สุดในสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศ ในเขตนิวอิงแลนด์ ได้วางแผนที่จะออกแผ่นป้ายทะเบียนพิเศษ เพื่อแสดงให้ทราบว่า รถยนต์คันนั้นๆ เป็นรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์ไฮบริด โดยหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น รายงานข่าวว่า ผู้ว่าการรัฐ ลินคอน ชัฟฟี Governor Lincoln Chaffee ลงนามในข้อบังคับนี้ เมื่อเดือนก่อน โดยในแผ่นป้ายทะเบียน จะระบุข้อความ “รถไฟฟ้า/รถไฮบริด” เพิ่มเติมในแผ่นป้าย
แผ่นป้ายทะเบียนแบบพิเศษนี้ จะมอบแก่เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์ไฮบริด ที่นำรถมาจดทะเบียนครั้งแรก โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่คิดค่าป้ายสำหรับเจ้าของรถในปัจจุบัน ที่ต้องการเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนให้ถูกต้อง แผ่นป้ายละ 645 บาท ส่วนเจ้าของที่ต้องการให้ระบุป้ายทะเบียนเป็นแบบเดิม ตัวเลขเดิม คิดราคา แผ่นป้ายละ 915 บาท โดยเจ้าพนักงานหวังว่า จะช่วยให้ผู้ที่จะเข้าช่วยเหลือรถที่เกิดอุบัติเหตุ ได้สังเกตแผ่นป้ายทะเบียน ก่อนจะตัดสินใจสัมผัสตัวรถ อันอาจเกิดอันตรายจากไฟดูด จากรถที่เกิดอุบัติเหตุได้
ข้อมูลด้านกระแสไฟแรงสูงของรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถไฮบริด นี้ เป็นที่ทราบกันดีทางด้านผู้ผลิต ตั้งแต่รถยนต์ไฮบริด เริ่มออกสู่ตลาดเมื่อช่วงปี 2542 เพราะรถยนต์ทั้งสองชนิด จำเป็นต้องใช้กระแสไฟแรงสูง ในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าในตัวรถ และผลิตโดยใช้สายไฟสีส้มสด เพื่อแสดงว่าเป็นสายไฟแรงสูง โดยติดตั้งระบบตัดกระแสไฟ กรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการชน และในรถบางรุ่น จะมีระบบสวิทช์ตัดกระแสไฟฟ้าแยกต่างหากด้วย
ก่อนหน้าที่ ค่ายเจเนอรัล มอเตอร์ จะส่งรถไฟฟ้า โวลต์ ออกสู่ตลาด ก็มีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัย ให้รู้ว่า สายไฟสีส้มสด เป็นสายไฟแรงสูง และจุดที่ติดตั้งสวิทช์ตัดกระแสไฟเช่นกัน รวมทั้งระบุข้อความในคู่มือประจำรถ ถึงวิธีการที่จะเข้าไปในห้องโดยสาร ไม่ให้สัมผัสกับอุปกรณ์ไฟฟ้า และสายไฟแรงสูง โดยปลอดภัย กรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยผู้ผลิตรถไฟฟ้าค่ายอื่นๆ ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกัน
สำหรับรถที่ประสบอุบัติเหตุอย่างหนัก อาจทำให้ผู้ที่จะเข้าช่วยเหลือ ไม่สามารถแยกออกได้เลย ว่ารถคันนี้เป็นรถไฮบริด หรือรถไฟฟ้า แต่การระบุประเภทรถเอาไว้บนป้ายทะเบียน น่าจะช่วยให้ผู้ที่เข้าช่วยเหลือ รู้ว่าจะต้องพบกับรถประเภทไหน ย่อมเป็นเรื่องที่ดี สำหรับการเข้าช่วยเหลือรถที่ประสบอุบัติเหตุโดยเร็ว