สวัสดีปีใหม่ครับ ท่านผู้อ่านที่รัก
เราเริ่มต้นปีกัน ด้วยการคุยกันถึงการพิจารณาหารถยนต์คันใหม่ ที่ไม่ใช่จะยุยงส่งเสริมให้ท่านเปลืองเงินทองที่หายากหรอกครับ แต่เป็นเพียงหลักการ ในการเลือกหารถยนต์คันใหม่ และอันที่จริง ก็ไม่ใช่ในปีนี้ หากแต่เป็นทุกเมื่อ เพียงแต่ผมเห็นแค่ว่า เอามาเสนอไว้เป็นเรื่องประเดิม สำหรับพุทธศักราช สองพันห้าร้อยสี่สิบเก้า เสียเลยน่าจะเหมาะ ก็เท่านั้นเองละนะครับ
เริ่มกันที่คำถาม ที่คุณควรจะถามตัวคุณเองก่อนเลยสักสี่ห้าคำถามครับ
ถาม : ควรจะเก็บรถยนต์คันเดิมของเราเอาไว้ก่อน หรือจะซื้อคันใหม่ดีนะนี่?
ตอบ : ถ้าตัวถังรถยนต์คันเดิม ยังอยู่ในสภาพดี และรถก็เหมาะกับความต้องการของคุณดีอยู่แล้วละก็ ผมเสนอแนะว่า คุณควรจะเอารถไปหาช่างยนต์ที่คุณวางใจ ให้เขาดูสภาพรถ และตรวจสอบว่า หากจะปรับปรุงให้ อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี คือพูดง่ายง่ายว่า ปรับเครื่องยนต์กลไกและระบบต่างต่างของรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดี พร้อมสำหรับการใช้งานของคุณนั้น จะต้องเสียค่าใช้จ่ายสักเท่าไร
คุณอาจจะพบว่า แม้รถยนต์ของคุณ จะต้องการเครื่องยนต์ใหม่ เกียร์ลูกใหม่ ยางใหม่ ช็อกแอบซอบเบอร์ใหม่ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ก็อาจจะยังเป็นค่าใช้จ่ายน้อยกว่าภาษีรถยนต์ใหม่แต่ละปี ภาษีมูลค่าเพิ่มของรถยนต์คันใหม่ และค่าใช้จ่ายอื่นอื่นเช่นค่าดอกเบี้ย ค่าประกันภัยประเภทหนึ่งของรถยนต์คันใหม่ ที่คุณจะต้องเสียเต็มราคา แล้วพิจารณาความคุ้มค่าตรงนี้ก่อนก็ได้นะครับ
ถาม : คุณต้องการซื้อรถยนต์ใช้แล้ว หรือซื้อรถยนต์ใหม่เอี่ยม?
ตอบ : รถยนต์อายุสอง หรือสามปี จะมีราคาถูกกว่ารถยนต์ใหม่เอี่ยมมากทีเดียว และยังมีสภาพใกล้เคียงกับรถยนต์ใหม่ ทุกวันนี้ รูปทรงรถยนต์ใหม่จะเปลี่ยนกันทุกสี่ถึงหกปี ดังนั้น นอกเสียจากว่า คุณจะเป็นคนคลั่งไคล้รถยนต์ใหม่เอามาก คุณก็อาจจะดูไม่ออกหรอกว่า รถที่อายุห่างกันสามปีนั้น ต่างกันตรงไหน
แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง คุณอาจจะต้องไปซื้อเอารถที่ทำความปวดเศียรเวียนเกล้าให้เจ้าของเดิม มาเป็นความปวดหัวของคุณก็เป็นได้อีกเช่นกัน สำหรับเรื่องนี้ ผมอยากให้คุณหาช่างยนต์ที่ไว้ใจได้อีกนั่นแหละครับ ไปเป็นเพื่อนคุณในตอนดูรถ ว่ารถคันที่คุณสนใจนั้น เคยมีปัญหาทางด้านอุบัติเหตุใหญ่มาก่อนหรือไม่ และมีสภาพทางกลไกใช้งานได้ดีหรือไม่ประการใด
อย่างไรก็ตาม หากเลือกรถได้ดี ทั้งสภาพเครื่องยนต์ และตัวถังแล้ว การเลือกรถยนต์ใช้แล้วที่มีอายุ 3 ถึง 4 ปี มาให้ใช้ได้อีกสัก 5 ปีนั้น อาจจะประหยัดเงินให้คุณได้ถึงครึ่งหนึ่งของการเลือกซื้อรถใหม่เอี่ยม ก็เป็นได้ครับ
ถาม : รถที่มีระยะใช้งานสูงละ เป็นอย่างไร?
ตอบ : รถยนต์ใช้แล้วจำนวนมาก ยังสภาพดีอยู่ ทั้งที่มีระยะบันทึกการใช้งานสูงเกือบ หรือกว่า 100,000 กิโลเมตร แต่อย่างไรก็ตาม รถคันดังกล่าว ยังควรจะได้รับการตรวจสภาพเครื่องยนต์และกลไกส่วนอื่นอื่นอย่างถี่ถ้วน โดยช่างยนต์ที่คุณไว้ใจได้ ว่าเก่ง และชำนาญงานการซ่อมรถยนต์ โดยเฉพาะ เป็นช่างที่ซื่อสัตย์ต่ออาชีพช่างของเขาเสียก่อนด้วย
รถยนต์หลายคัน หลายรุ่น ยังมีชีวิตเหลือสำหรับการใช้งานของคุณอีกมาก เพียงแค่ว่า โอกาสนี้ ไม่ได้มีขึ้นง่ายง่ายและกับทุกท่าน ดังนั้น ต้องระวังให้ดีเอาไว้ก่อนครับ
ถาม : จะซื้อรถใช้แล้วจากใคร จากผู้ใช้เป็นการส่วนตัว จากเต็นท์ขายรถมือสอง หรือจากบริษัทเลยทีเดียว?
ตอบ : ตอนนี้ มีบริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์ จัดบริการซื้อขายรถยนต์ใช้แล้วขึ้นมาบ้าง หลายแห่งก็นำรถไปปรับแต่งสภาพก่อนวางจำหน่าย การปรับแต่ง อาจจะถี่ถ้วนพิถีพิถันหรืออาจจะลวกลวก ก็มีกันได้ทั้งนั้น ต้องระวังเช่นกัน
การซื้อรถจากผู้ใช้โดยตรง ส่วนมากจะได้ราคาประหยัดกว่าซื้อจากเต็นท์ขายรถยนต์ใช้แล้ว และเต็นท์ขายรถยนต์ใช้แล้ว ก็จะขายรถในราคาต่ำกว่ารถจากบริษัทขายรถยนต์ที่เปิดขายรถใช้แล้ว
เพียงแต่ว่า การซื้อรถจากผู้ใช้ หรือแม้กระทั่งจากเต็นท์บริการซื้อขายรถยนต์นั้น ทันทีที่คุณจ่ายเงิน คุณก็กลายเป็นเจ้าของรถคันนั้น ความปวดหัวทั้งหลายแหล่หากรถคันนั้นนั้นจะสร้างให้ ก็จะมาเป็นของคุณทันควัน
ดังนั้น คุณจึงจะต้องเลือกรถใช้แล้วโดยให้ช่างยนต์ที่ดี และคุณไว้ใจได้ ตรวจสภาพเสียก่อน อีกทั้งยังต้องตรวจเอกสารให้ถูกต้องอย่างพิถีพิถันอีกนะครับ
ถาม : ควรซื้อรถจากบริการเลหลังรถยนต์ ที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่?
ตอบ : คุณอาจจะได้รถยนต์ราคาถูก ถูกเอามากมากเมื่อเทียบกับการซื้อจากสามแหล่งที่ผมว่าไว้ในคำถามที่แล้วมา แต่ผมว่านะครับ ปล่อยให้การซื้อขายรถจากบริษัทเลหลังเป็นของผู้ชำนาญการน่าจะดีที่สุด ด้วยว่า การซื้อรถแบบเลหลังนั้น คุณมีเวลาน้อยมากในการเลือกรถ และดูรถที่ถูกใจให้ถูกต้อง ตรงนี้ผมหมายถึงการตรวจสภาพรถยนต์คันหนึ่งคันใดเอาเสียด้วยซ้ำ อีกอย่างหนึ่ง รถเลหลังนั้น ส่วนมากไม่ปล่อยให้คุณมีโอกาสทดลองขับรถคันนั้นแม้แต่น้อย รถจะขายในสภาพ และไม่มีการรับรองคุณภาพ
เลือกเอาดีกว่า ว่าคุณจะเลือกซื้อรถเอาไปใช้ หรือเอาไปซ่อมใหญ่ แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน
ถาม : จะรู้ได้อย่างไร ว่าคุณจะได้ข้อตกลงที่ดี ทั้งรถ ทั้งราคา?
ตอบ : มีอยู่ทางหนึ่ง น่าจะเป็นทางเดียวด้วยซ้ำ ที่จะให้ทราบว่า คุณได้ข้อตกลงที่ดี ราคาที่เหมาะสมหรือไม่ นั่นก็คือคุณจะต้องมีข้อมูลพร้อมสำหรับรถยนต์คันนั้น
ปัจจุบัน คุณสามารถตรวจสอบราคารถยนต์แต่ละคันได้จากคอลัมน์ในหนังสือรถยนต์ใช้แล้ว มีราคากลาง อันเป็นราคาที่เต็นท์มักจะใช้ในการรับซื้อรถคุณ ส่วนราคาขายนั้น ก็จะเป็นราคาที่ประกาศขายกันในนั้นนั่นแหละครับ ราคากลาง อาจจะต้องต่ำกว่าที่เขากำหนดไว้บ้าง แต่ไม่ควรจะมากนัก นี่ก็เป็นข้อมูลอย่างหนึ่ง
ส่วนสภาพความพร้อมทางกลไกของรถแต่ละคัน คุณควรจะใช้ช่างยนต์ที่ไว้ใจได้เท่านั้นแหละครับ
แล้วก็เรื่องของการซื้อด้วยเงินผ่อน ที่มีเรื่องดอกเบี้ยที่จะต้องคิดกันให้หนัก ด้วยว่า รถใช้แล้วอายุมากเท่าไร ดอกเบี้ยก็จะสูงตามขึ้นไปเท่านั้น และดอกเบี้ยในการซื้อขายรถยนต์ด้วยเงินผ่อนนั้น เขาคิดกันแบบตั้งแต่เงินต้นยังเต็มตัว เอาอัตราดอกเบี้ยมาคูณกับเวลาและเงินต้น แล้วรวมจำนวนดอกเบี้ยเข้าไปกับเงินต้น จากนั้น จึงหารจำนวนทั้งหมดด้วยเดือนที่จะผ่อน ออกมาเป็นเงินผ่อนแต่ละเดือน ที่แม้ไม่มาก แต่ทุกเดือน ก็จะต้องรวมทั้งดอกเบี้ย กับภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าไปอีก
นี่เอง ที่ผมบอกว่า คุณจะต้องคิดดูให้ดี กับการซื้อรถใหม่ และปรับสภาพรถยนต์คันเดิมของคุณ ว่าอย่างไหน ที่คุณรับได้ และเห็นว่า คุ้มค่ากว่ากัน
อีกอย่าง ก็คือเอกสารทะเบียนรถยนต์ ใบโอน การโอนและรับโอนของคุณ ที่จะทำให้คุณได้เป็นผู้ครอบครองเต็มตัวตามกฎหมาย
หวังว่า ปีใหม่นี้ ข้อมูลนี้ จะได้รับการนำไปใช้ หากว่า คุณนึกถึงรถยนต์คันใหม่นะครับ
——————————————————–