ปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้

Brand: OTHER Model: Other
Year: 1995 Miles: 100001 – More
From: Thonpatr Chaiyasut

volvo : 960 (2.4)

เรื่องที่1 เวลาวิ่งด้วยความเร็ว 120ขึ้นไป(เฉพาะเวลามีการ kick down หรือเหยียบคันเร่งสุดแบบไปเรื่อยๆ) แลมด้าจะขึ้นทันทีและแอร์จะหายไปเป่าที่เท้าแทน แต่ถ้าเหยียบคันเร่งแบบธรรมดาวิ่งด้วยความเร็วที่ 120 จะไม่เป็นไรและแลมด้าก็ไม่ขึ้นด้วย ลองทดสอบด้วยการkick down ที่เกียร์ 2,3 ความเร็ว40-70แลมด้าก็ไม่ขึ้น ไม่ทราบว่าอู่วัฒนาสามารถแก้ไขได้หรือไม่
เรื่องที่2 คุณอาซื้ออะไหล่วอลโว่ที่ไหนครับผมจะได้มีทางเลือกได้หลายทาง
เรื่องที่3 อัตราการกินน้ำมันยังอยู่ที่ประมาณ4-5 โล/ลิตรคิดว่ามีสาเหตุจากจุดไหนอีก เพราะลองดูกระทู้เก่าที่เกี่ยวกับการกินน้ำมันของรถอื่นๆลองมาแก้ไขกับตัวเองก็ยังไม่ดีขึ้น
ขอบพระคุณ คุณอามากครับ

แลมด้าขึ้นโค้ด 212 และได้ไปเปลี่ยนออกซิเจนเซ็นเซอร์มาแล้วทางช่างคิดว่าเป็นต้นเหตุของแลมด้าขึ้น ก่อนหน้านี้พึ่งเปลี่ยนแคทาลิติกไป(ส่วนตัวผมคิดว่าอาจไม่ใช่ออกซิเจนเซ็นเซอร์เสีย แต่เห็นคุณอาเคยบอกว่าถ้าจะให้ดีควรเปลี่ยนทุก 25000 ใช่ไหมครับ)
ไปเปลียนมาจากอู่ที่คุณอาเคยแนะนำนะครับผมไม่ขอเอยชื่อนะครับเพราะไม่รู้ว่าจะเป็นผลดีหรือผลเสียกับทางอู่เวลาผู้อื่นเข้ามาอ่านแต่ในส่วนตัวชอบที่ทางอู่มีอัธยาศัยที่ดีและมีความชำนาญแต่เมื่อเข้าไปหลายครั้งแล้วไม่สามารถแก้ปัญหาให้ผมได้ก็เลยต้องหาจากทางอื่นด้วย (รถผมเข้าไปซ่อมบ่อยมากเกือบทุกอาทิตย์)


อู่วัฒนา มีเครื่องมือเช็กได้ละเอียดกว่าอู่หลายอู่ ตอนนี้ มีทั้งเครื่องเช็กตัวจับสัญญาณ ที่ผมเอาไปให้เขาลองอยู่ น่าจะตรวจสอบได้ว่า ตัวอะไรเสียจริงหรือไม่จริง เพราะจากตัว Scanner อาจจะไม่แน่นอนเท่าตัวที่ผมให้เขาทดสอบใช้งานอยู่ครับ
แอร์อาจจะหยุดทำงานได้ เมื่อเร่งสุด เป็นการตัดเพื่อความปลอดภัยของคอมเพรสเซอร์แอร์เอง แต่ไม่น่าจะทำงานแค่เป่าลงเท้า และไฟที่ขึ้นนั้น ไม่แน่เสมอไปว่า จะเป็นเพราะออกซิเจนเซนเซอร์ไม่ทำงาน ต้องใช้ Scanner กับตัวเครื่องเช็ก Sensor ตรวจสอบซ้ำกันอีกทีครับ
ผมซื้ออะไหล่วอลโว่ ที่ศูนย์บริการ และตามร้านอะไหล่ทั่วไป ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นที่ใด
ก็ต้องเช็กทุกส่วนของรถ และเครื่องยนต์ ดูว่า สาเหตุที่กินน้ำมันมาก มาจากอะไร รวมทั้งการขับขี่ของคุณด้วย
รถผม 960 ขนาด 3.0 ลิตร 24 วาล์ว กินน้ำมันรวมเฉลี่ยแล้ว 8.5 กิโลเมตรต่อลิตร วิ่งทางด่วน ในเมือง และนอกเมืองครับ ไม่ต่ำกว่า 8 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ของผม สแตนดาร์ทหมดนะครับ ทั้งยางและเครื่อง กับระบบส่งกำลัง
ออกซิเจนเซนเซอร์ ไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนทุก 25000 กิโลเมตร แต่เป็นเพียงคำแนะนำจากผู้ผลิตเท่านั้น ผมเอง ก็เพิ่งเปลี่ยนไปเมื่อรถครบแสนกิโลเมตร เกินกว่าด้วยซ้ำ และเห็นผลดีทางด้านประหยัดเชื้อเพลิง ไม่ต้องเชื่อผมหรอกครับ รับฟังไว้เท่านั้นก็พอแล้ว-ธเนศร์

Facebook Comments