ผมทำได้ครับ!!
เริ่มจากได้รับการติดต่อจากทางทีมงานมิตซูบิชิ. “พี่โจ้พอจะว่างไปขับประหยัดน้ำมันกับทางมิตซูบิชิได้รึเปล่าครับในช่วงก่อนสงกรานต์” ถามไถ่รายละเอียดต่างๆว่าอะไรยังไงบ้างและจริงจังกันแค่ไหน
บอกเลยทางมิตซูบิชินั้นจริงจังมากแค่รายชื่อผู้ร่วมทริปนั้นผมก็หวั่นๆละระดับต้นๆของวงการในการขับประหยัดน้ำมันเลย
ก่อนเริ่มเดินทางทริปนี้ ผมมีเวลาในการเตรียมตัวไม่มากนักมีภารกิจต่างๆมากมายแทบไม่มีเวลากระดิกตัวเลย ต้องเดินทางไปงานปักกิ่งออโต้โชว์ที่จีนแบบยาวๆ กลับมาก็มีภาระกิจอีกแทบจะไปมีเวลาได้พักแบบเต็มๆ
แม้ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในการขับประหยัดน้ำมัน แต่หากย้อนกลับทำให้นึกได้ว่า ครั้งแรกกับการขับประหยัดน้ำมันนั้นผมก็เริ่มจากทริปของมิตซูบิชิไทรทันตัวแรกที่มีการขับประหยัดทั่วไทยและมีการบรรทุกข้าวสารน้ำหนักถึง1ตันไว้ท้ายรถด้วย
ครั้งนั้นเป็นการขับจากหาดใหญ่ไปถึงด่านสะเดาแล้วกลับมาที่ กรุงเทพฯ ด้วยความด้อยประสบการณ์จึงยังทำได้ไม่ดีพอ
หลังจากนั้นเริ่มเข้าสู่ยุครุ่งเรืองของการแข่งขันการประหยัดน้ำมันทำให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และเทคนิคต่างๆเรื่อยมามีชนะบ้างแพ้บ้างเป็นธรรมดา
พอถึงวันเดินทางก็ยังมีความกังวลหลายอย่างว่าจะทำตัวเลขออกได้ดีรึเปล่า ด้วยสภาพร่างกายที่ยังไม่เต็มร้อยและพักผ่อนน้อยด้วยและเส้นทางนี้แทบจะไม่เคยวิ่งเลยบวกกับมีการขับรถข้ามประเทศอีกด้วย
ครั้งนี้ได้รถเป็นเกียร์ธรรมดาอีกและเป็นรุ่นที่ยังไม่เคยขับอีกต่างหาก
สำหรับทริปนี้บัดดี้เปลี่ยนไปจากเดิมแต่ไม่ใช่ปัญหาแม้จะไม่เคยขับประหยัดด้วยกันแต่เคยร่วมทริปเดียวกับขับรถในประเทศและต่างประเทศด้วยกันแบบยาวๆมาแล้ว
ตรวจเช็ครถให้เรียบร้อยมีการเติมน้ำมันให้ถึงเกลียวล่างของคอถังแล้วปิดฝาปิดสติกเกอร์แล้วกรรมการเซ็นกำกับ ล้อก็เช่นกันมีการพันซีลเอาไว้ห้ามเติมลมเพิ่ม ส่วนระบบปรับอากาศนั้นมีการตั้งล็อคไว้แล้วซีลไว้เช่นกัน
เราออกจากจุดปล่อยตัวกันตอนประมาณแปดโมงกว่าโดยไม้แรกให้บัดดี้ Witoon Kultawatchai เป็นคนขับก่อนเพราะผมนั้นต้องคำนวณระยะทางและเวลาเพื่อที่จะเข้าจุดเช็คเวลาให้ทันไม่งั้นจะ DNF
ส่วนไม้สองนั้นผมรับหน้าที่ในการขับยาวๆข้ามประเทศ จากด่านในเขตชายแดนผ่านพิธีการต่างๆซึ่งใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเสร็จ แล้วเราก็เดินทางกันต่อ
เส้นทางที่ไม่คุ้นเคยกับการขับพวงมาลัยขวาในประเทศที่ใช้พวงมาลัยซ้ายนั้นลำบากอยู่พอสมควรต้องให้เพื่อนร่วมเดินทางคอยบอกในบางจังหวะ
การจราจรช่วงออกจากด่านนั้นจอแจที่เดียว แถมมีการทำทางอีกด้วย กว่าการจราจรจะคล่องตัวก็ใช้เวลาพอสมควร แต่ก็เจออุปสรรคอีกคือถนนเป็นแบบสองเลนสวนทางกันเล่นเอาเหนื่อยเลย
ส่วนเทคนิคในการขับที่ผมบอกบ่อยๆนั้นคือเราต้องพยายามเลี้ยงคันเร่งให้ได้นิ่งที่สุดและพยายามอย่าใช้เบรคหรือใช้ให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น พยายามรักษาความเร็วไว้ให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ประเมินเส้นทางระหว่างทางว่ามีอะไรบ้างเช่นทางแยก สัญญาณไฟต่างๆ พวกนี้ก็สามารถช่วยให้เราประหยัดน้ำมันได้เช่นเดียวกัน
จนขับมาถึงจุดหมายของการขับประหยัดน้ำมันในครั้งนี้คือปั้ม ปตท.ในเมืองเสียมเรียบเพื่อเติมน้ำมันกลับไปความรู้สึกต่างๆที่กังวลของผมนั้นหมดไป เพราะผลสรุปอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 24.71กม./ลิตร กับรถ Mitsubishi Triton Single Cab 2.4 Active MT ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีที่สุดของทริปนี้
ก่อนจบบทความนี้ของฝากสเปคและราคาของ Mitsubishi Triton Single Cab 2.4 Active MTไว้เล็กน้อยครับ รุ่น2.4 Active 2WD ราคา 599,000 บาท 150 แรงม้า เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ Hyper Power ความจุ 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก ประกอบด้วย ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ฮาโลเจน, ไฟท้ายแบบมาตรฐาน, กระจังหน้าสีดำพร้อมสัญลักษณ์ MITSUBISHI, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า, ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา, ขอเกี่ยวขอบกระบะด้านนอตัวถัง, ยางกันโคลนที่ซุ้มล้อหน้า-หลัง, แผ่นกันกระแทกด้านล่าง และล้อกระทะขนาด 15 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารเบาะนั่งหุ้มวัสดุไวนิล, พวงมาลัยและหัวเกียร์ทำจากวัสดุยูรีเทน, พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, กระจกหน้าต่างไฟฟ้าขึ้น-ลงอัตโนมัติฝั่งผู้ขับขี่, ระบบปรับอากาศแบบมาตรฐาน, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth, ลำโพง 2 ตำแหน่ง, ช่องจ่ายไฟ USB-A 1 ตำแหน่ง และ USB-C Fast Charge 1 ตำแหน่ง เป็นต้น
ด้านระบบความปลอดภัยถูกติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual SRS Airbag, ถุงลมนิรภัยหัวเข่าด้านคนขับ, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC, ระบบควบคุมการลื่นไถล TCL, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก, ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS, ระบบเบรก ABS/EBD/BA และจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX พร้อมที่เกี่ยวเบาะนั่งด้านผู้โดยสารด้านหน้า
ตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว Solid White, สีเงิน Blade Silver, สีเทา Graphite Gray และสีดำ Jet Black Mica
ท้ายสุดขอขอบคุณทางมิตซูบิชิมอเตอร์ที่ให้เกียรติเชิญมาร่วมทริปขับประหยัดในครั้งนี้ด้วยครับ
#ปฏิวัติทุกขีดจำกัดกับความประหยัดเกินคาด
#########################
premsak@caronline.net