Brand: HONDA Model: Civic
Year: 2001 Miles: 80001-100000
From: อนันต์ชัย เ
น้ำมันเบรก เมื่อ 3/21/2010 7:01:04 PM
ถามธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
รถ Honda Civic
ปี 2001 ระยะใช้งาน 5001-20000 กิโลเมตร
ผมได้นำรถไปซ่อมเบรก เนื่องจากลูกสูบเบรกค้าง ทางอู่ได้ทำการซ่อมให้เรียบร้อย แต่ได้ถามเรื่องน้ำมันเบรกว่าจะเปลี่ยนแบบไหน ระหว่าง Dot 4 หรือ Dot 6 ผมไม่แน่ใจ ได้ถามช่างกลับไปว่าปกติเค้าใช้กับแบบไหน ช่างก็ไม่แน่ใจ แต่ได้แนะนำว่า ถ้าเป็น Dot 6 การเบรกจะนุ่มกว่า ผมก็เปลี่ยนตามช่างแนะนำ เพราะว่าแพงกว่าไม่มาก ในภายหลังผมเจ้าหน้าที่ของศูนย์ Honda ว่าใช้น้ำมันเบรกแบบไหน ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าใช้ แบบ Dot 3 แต่ถ้าใช้ Dot 4 ก็ได้ ผมแจ้งไปว่าใช้ Dot 6 ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าจะทำให้ผมซีลหรือยางต่าง ๆ ในระบบเบรกแข็ง ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ แล้วทั้ง 2 แบบแตกต่างกันอย่างไร ขอบคุณครับ
อนันต์ชัย
จริงครับ เปลี่ยนมาใช้แบบ DOT 3 หรือ DOT 4 ดีที่สุด เพราะ DOT 5 และ 6 นี่ รถแข่งเขาใช้กันเป็นส่วนมาก และอุปกรณ์แข่งขัน สร้างด้วยวัสดุต่างกับรถบ้านครับ หาเรื่องให้เบรกรั่วแล้วละมัง ช่างของคุณนี่-ธเนศร์
คุณธเนศร์ ครับ ผมไปทำที่อู่กิจเจริญชัย ดาวคะนอง ครับ ที่เป็นอู่แนะนำ ถ้าเป็นแบบนั้น ผมควรเปลี่ยนทันที หรือรอรอบการเปลี่ยนน้ำมันเบรกถัดไปดีครับ
อนันต์ชัย
เปลี่ยนทันทีครับ รอไปทำไมให้ลูกยางพังก่อนละครับ
แต่ผมว่า ถ้าเป็นอู่กิจเจริญชัย ที่เชี่ยวชาญเรื่องเบรกมากนั้น เขาไม่เอาน้ำมันเบรก DOT อย่างนั้นใส่ให้คุณหรอกครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะถามเขาดูอีกครั้ง ในเวลาออกอากาศที่ FM 89.5 เวลาห้าทุ่มถึงเที่ยงคืนนะครับ
ถามให้แล้วนะครับ ปรากฏว่า คุณเองนั่นแหละที่ฟังไม่ถนัด ช่างเขาถามเองเลยว่า จะใช้น้ำมันเบรก DOT 3 หรือ DOT 4.6 เพราะเขามีอยู่เท่านี้ ไม่มีใครเขาแนะนำ DOT 6 ให้หรอกครับ
และช่างเขารู้ดีว่า DOT 4.6 เป็นน้ำมันเบรกที่ทนความร้อนได้ดีกว่า DOT 4 ธรรมดา แต่ก็จะใช้แทนกันได้ และฮอนด้า เป็นรถที่เสาะหาน้ำมันเบรก DOT 4.6 กันมาก แต่หาไม่ค่อยได้ เผอิญเขามี และก็แนะนำให้ใช้กันอยู่ ไม่ใช่ DOT 6 อย่างที่คุณบอกว่าได้ยินช่างถามอย่างนั้น และแนะนำโง่โง่อย่างที่คุณบอกเล่ามา
แสดงว่า ช่างของพวกผม ไม่โง่ใช่ไหมครับ ลองนึกดูดีดีนะครับ-ธเนศร์
คุณธเนศร์ ครับ
ผมว่าผมฟังชัดเจนนะครับ ระหว่าง 4 หรือ 6 กับ 4.6 มันก็ต่างกันอยู่หนึ่งพยางค์กับ 3 พยางค์ ผมยังมีการย้อมถามไปถามมาเรื่องความเหมาะสมในการใช้เบอร์น้ำมันเบรกด้วยซ้ำ และผมจำด้วยว่าทางร้านเค้าไม่มีดอท 3 นะครับ มีแต่ดอท 4, 5 และ 6 ฝากคุณธเนศร์อย่าฟังความข้างเดียวนะครับ แล้วคุณธเนคร์คิดหรือครับว่าเค้าจะจำได้ว่าพูดอะไรบ้าง ส่วนผมเจอเหตุการณ์ ก็เลยมาเขียนถามเลยด้วยซ้ำ แต่ไม่เป็นไรนะคับ ทางร้านเค้าก็ซ่อมระบบเบรกได้ดีไม่มีปัญหาอย่างอื่น และผมไปเปลี่ยนนำมันเบรกเรียบร้อยแล้ว ยังไงผมก็ยังเข้ามาอ่านข้อมูลในเว็บของคุณธเนศร์อยู่ครับ ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์เป็นอย่างดี
ขอบคุณครับ
อนันต์ชัย
จากหนังสือ Automotive Lubricants Technology ของ Castrol นำ้มันเบรก คุณสมบัติที่ดีนำ้มันเบรก
1.จุดเดือด (Boiling) 2.ไม่ทำปฏิกิริยาต่อซีลยาง (Rubber Swelling) 3.ไม่กัดกร่อนโลหะ (Corrosion)
4.ช่วยหล่อลื่น (Lubrication) 5.สามารถปนกันได้ (compatbility) จุดเดือดของนำ้มันเบรก มาตรฐานดังนี้
1. มาตรฐาน SAE J 1703 มีจุดเดือดของนำ้มันเบรกก่อนการใช้งาน 205 ํC
2.มาตรฐาน US FMVSS 116
*DOT 3 มีจุดเดือดของนำ้มันเบรกก่อนการใช้งาน 205 ํC หลังการใช้งาน 140 ํC
*DOT 4 มีจุดเดือดของนำ้มันเบรกก่อนการใช้งาน 230 ํC หลังการใช้งาน 155 ํC
*DOT 5 มีจุดเดือดของนำ้มันเบรกก่อนการใช้งาน 260 ํC หลังการใช้งาน 180 ํC
ISO 4925 มีจุดเดือดของนำ้มันเบรกก่อนการใช้งาน 205 ํC หลังการใช้งาน 140 ํC
การเปลี่นยถ่าย บ.นำ้มันเปลี่ยนถ่ายทุก 20,000 กม.หรือ2ปี บ.รถเปลี่ยนถ่าย 40,000 กม.หรือ4ปี