นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) ประกาศวิสัยทัศน์สอดคล้องกับแผนระยะกลางระดับโลกของนิสสันในชื่อ M.O.V.E 2022 ซึ่งเปิดตัวในปี พ.ศ. 2560
ภายใต้แผนงานเพื่อการเติบโตดังกล่าว นิสสัน คาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ปรับปรุงอันดับของนิสสันในด้านความพึงพอใจของลูกค้า และทำให้การผนึกกำลังพันธมิตรเกิดประโยชน์สูงสุด
“นิสสันเป็นแบรนด์ยานยนต์ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 1.3 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่ 6.9 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสิ้นปีงบประมาณ และเรามีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปนับตั้งแต่วันนี้จนถึงปี พ.ศ. 2565” มร. อันตวน บาร์เตส ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว
มร. บาร์เตส กล่าวเพิ่มเติมว่า นิสสันพร้อมเดินหน้าสู่อนาคตด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้ลูกค้าเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจทุกด้านอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การทำตลาดรถยนต์ในประเทศไทยไปจนถึงการลงทุนพัฒนาผู้จำหน่าย ประเทศไทยยังมีความสำคัญมากขึ้นในฐานะที่เป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนสู่การเติบโตในระดับโลก พร้อมกับเป็นศูนย์กลางการผลิตระดับภูมิภาคและเป็นสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของนิสสัน ซึ่งทั้งหมดช่วยส่งเสริมวิสัยทัศน์ในอนาคตของบริษัทฯ
ประธานของนิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า นิสสันลงทุนไปมากกว่า 4.4 พันล้านบาทในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาและส่งออกรถยนต์มากกว่า 880,000 คันไปยังกว่า 114 ประเทศในช่วง 10 ปีหลัง ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพของการผลิตรถยนต์ของนิสสันและทำให้นิสสันมีตำแหน่งที่มั่นคงสำหรับอนาคต
“นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) มีแผนงานที่แข็งแกร่งและวิสัยทัศน์สำหรับอนาคต โดยวิสัยทัศน์ระยะ 5 ปีของเราสอดคล้องเป็นอย่างดีกับแผนงานของนิสสันในระดับโลกที่มีชื่อว่า M.O.V.E 2022 ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมยานยนต์ (Mobility), ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน (Operational Excellence), การให้ความสำคัญกับลูกค้า (Value to Customers) และระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (Electrification)” มร. บาร์เตสกล่าว
นิสสันได้เปิดตัวรถยนต์ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ นิสสัน นาวารา ปี 2018 ซึ่งเป็นรถกระบะรุ่นเดียวในประเทศไทยที่มาพร้อมกล้องมองรอบทิศทาง (Around View Monitor) รวมถึงจีที-อาร์ รถซูเปอร์สปอร์ตของนิสสัน พร้อมกับจะเดินหน้าผนึกกำลังกับมิตซูบิชิในด้านการจัดซื้อ การขนส่ง และการบริการด้านอื่นๆ
แผนงานดังกล่าวยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการมอบการบริการที่เหนือกว่าความคาดหมายของลูกค้าด้วยการลงทุนพัฒนาและปรับปรุงผู้จำหน่าย รวมถึงโชว์รูม Nissan Retail Environmental Design Initiative (NREDI) เพื่อมอบการบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และเดินหน้าตอกย้ำบทบาทความเป็นผู้นำระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยการแนะนำนิสสัน ลีฟ ใหม่ภายในปีงบประมาณนี้
“สำหรับการดำเนินงานในอนาคต นิสสันคาดการณ์ว่า ด้วยสภาพตลาดปัจจุบัน อุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวมจะมีความมั่นคงและมีอัตราเติบโตสูงขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ขณะที่ในปีงบประมาณ 2561 ของเรา (เดือนเมษายน พ.ศ. 2561 – มีนาคม พ.ศ. 2562) เราคาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 950,000 คัน ด้วยแนวโน้มด้านบวกเช่นนี้ ผมมั่นใจว่ายอดขาย ส่วนแบ่งตลาดและจำนวนการผลิตจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” มร. บาร์เตสกล่าว
Nissan Motor (Thailand) has a strong plan and vision for the future – a plan that is closely aligned with Nissan’s global midterm plan launched in 2017 and known as M.O.V.E 2022.
Under its growth plan, Nissan expects to further grow its market share; improve its customer satisfaction ranking; and further leverage the benefits of its alliance.
“Nissan was the fastest growing automotive brands in Thailand last year, gaining 1.3 percentage points of market share to end the year with 6.9% share, and we have a strong vision to achieve sustainable growth going forward from now until 2022,” Nissan Motor (Thailand) Co., Ltd. President Antoine Barthes said.
Going forward, Nissan’s focus is to continue putting its valued Thai customers at the heart of everything it does, from the vehicles introduced to Thailand to its dealer investments. Thailand is also becoming increasingly important as one of the global growth drivers, regional production hubs, and as the regional headquarter for Nissan – all of which support the company’s future vision, Barthes said.
Nissan has invested more than 4.4 billion baht over the last four years and exported more than 880,000 vehicles over the past 10 years to more than 114 countries – a strong recognition of its production quality and which positions it well for the future, he added.
“Nissan has a strong plan and vision for the future, with our five-year vision closely aligned with Nissan’s global M.O.V.E 2022 focusing on Mobility, Operational Excellence, Value to Customers and Electrification,” Barthes said.
The company has recently launched two new vehicles – the Nissan Navara 2018 edition with Around View Monitor, the only pickup to offer this – as well as the GT-R, its super sports car, and will continue to drive synergies with Mitsubishi in the areas of purchasing, logistics among others.
A strong focus under the plan is on exceeding customer service expectations through dealership investments and improvements, including Nissan Retail Environmental Design Initiative (NREDI) showrooms to provide an exceptional customer experience and consistent global standards, and to continue driving electrification leadership in Thailand by introducing the new Nissan LEAF this fiscal year.
“Looking forward, Nissan expects steady total industry volume growth at 5% a year over the next five years based on current market conditions and, for our 2018 fiscal year (April 2018- March 2019), we expect total industry volume to increase to more than 950,000 units. In line with this positive outlook, I am confident that sales, market share and production volume will continue to grow,” Barthes said.
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…
บริษัท มิตซูบิช…