Brand: HONDA Model: Accord
Year: 2003 Miles: 40001-60000
From: พยนต์ สินธุนาวา
สวัสดีครับท่านอาจารย์ธเนศร์ฯ
ในฐานะแฟนคาร์ออนไลน์รุ่นลูก ขอให้ท่านอาจารย์และครอบครัว
มีความสุข สดชื่น สมหวัง มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
ตลอดไป ครับ
ในฐานะรุ่นน้องสวนฯ ภูมิใจในรุ่นพี่คนนี้มาก
และขอให้หลวงพ่อสวนกุหลาบพระที่คู่โรงเรียนได้โปรดปกป้อง
คุ้มครองท่านอาจารย์และครอบครัวประสบแต่สิ่ง
สมหวังทุกประการครับ
ในฐานะรุ่นพี่ สวนกุหลาบวิทยาลัย ผมก็เลยถือโอกาสประชาสัมพันธ์ตรงนี้ว่า
คุณครูนิภา กิติศรีวรพันธ์ จะมีอายุครบ 7 รอบ 84 ปีเต็ม ในวันอังคารที่ 10 มกราคม 2549 นี้ บรรดาศิษย์เก่าหลายรุ่น ยกให้รุ่น 73 ของผมเป็นผู้นำกลุ่มในการจัดงานวันคล้ายวันเกิดให้กับคุณครูนิภา ก็ขอเชิญเพื่อนศิษย์เก่าสวนกุหลาบทุกรุ่น ร่วมแสดงความกตัญญูกตเวที ที่ท่านได้อบรมสั่งสอนพวกเรามาจนกระทั่งเราได้มีวันนี้ ที่สโมสรนายทหารอากาศ สะพานแดง บางซื่อ เวลา 18.00 นาฬิกาเป็นต้นไป ของวันอังคารที่ 10 มกราคมศกนี้ นะครับ
ผมยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสนับรุ่นกับเพื่อนเพื่อน 2504 หรือ 73 ของสวนกุหลาบฯ ทั้งที่ผมไม่ได้อยู่ที่สวนกุหลาบฯ จนจบการศึกษาชั้นมัธยมบริบูรณ์ เพื่อนเพื่อนก็ยังให้ความสนิทสนม ให้ความรัก ให้ความเมตตากับผมและงานของผมเรื่อยมา รวมทั้งการนับว่า ผมเป็นศิษย์ร่วมรุ่น อันเป็นความยินดี และเป็นเกียรติแก่ผมอย่างยิ่งเสมอมา
คุณก็เช่นเดียวกัน ผมดีใจครับ ที่คุณภูมิใจในความเป็นชมพู-ฟ้า ของผม ที่แม้จะไม่กี่ปี ก็ยังมีความเป็นชมพู-ฟ้าอยู่เหมือนเดิม และบางที อาจจะไม่น้อยกว่าเพื่อนเพื่อนหลายท่านด้วย
สมัยที่ผมอยู่สวนกุหลาบฯ ผมเรียนไม่สู้ดีนัก พอเอาตัวรอดมาได้ และเป็นเช่นนั้นเรื่อยมา จนได้ไปศึกษาต่อในต่างประเทศ ผมก็ยังคงเกะกะเกเร ไม่สนใจวิชาการเล่าเรียน จนวันหนึ่ง ได้คิดว่า กว่าคุณแม่จะหาเงินยี่สิบบาท มาแลกเป็นเงินหนึ่งดอลล่าร์ให้ผมใช้ง่ายง่ายได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนในประเทศไทย
ผมหันเข้าจับตำรา ศึกษาใหม่ ทบทวน อ่านและพยายามทำความเข้าใจ ประกอบกับภาษาที่ผมใช้ในระหว่างตุรัดตุเหร่ในรัฐต่างต่างแบบค่ำไหน นอนนั่น ส่งผลให้ผมอ่านตำราได้อย่างไม่ต้องเปิดหาคำศัพท์ เพราะไม่มีดิกชันนารี และขี้เกียจหาอีกด้วย ใช้เดาเอาก็ได้(วะ)
อีกอย่างหนึ่ง เวลานั่งรถ ร.ส.พ. ไปโรงเรียน ผมมักจะอ่านหนังสืออ่านเล่นไปด้วย แล้วผมก็เลยรักการอ่านมาแต่นั้น เมื่อมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง อ่านในตอนแรกไม่เข้าใจ พูดก็ไม่ได้ดี ผมเลือกอ่านการ์ตูน อย่างพวก Casper หรือ Richie and Veronica แล้วเอาคำศัพท์ในการ์ตูนนั้นไปใช้กับเพื่อนต่างชาติ จนพอใช้ได้ ก็อ่านหนังสือประเภท Carpet bagger จนต่อมาอ่านเรื่องของ Jame A. Michener ได้อย่างเป็นวรรคเป็นเวร
เป็นผลให้ผมอ่านหนังสือแบบ American History ได้อย่างไม่เบื่อหน่าย และอ่านตำราเครื่องยนต์ได้แบบรวดเดียวจบ เข้าใจเสียด้วย
ทั้งเล่นฟุตบอล ให้ทีมมหาวิทยาลัย กับเรียนหนังสือ และอ่านตำราล่วงหน้าก่อนครูสอน ก็ทำให้ผมสำเร็จการศึกษาออกมาได้แบบประหลาดดีเหมือนกัน ด้วยว่า คนทางบ้านผม ยกเว้นพ่อกับแม่ บอกกันว่าให้ผมไปเที่ยว ให้เงินไปสองสามแสน สักปีสองปี น่าจะดีกว่าการส่งเสียให้ผมเรียนจนจบ
ที่ผมไม่ค่อยเข้าใจตัวผมเองอย่างหนึ่ง ก็คือผมยังคงอ่านตำราเรียน และหนังสือเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า ระบบอีเล็กทรอนิก ได้อย่างสนุกสนาน ไม่ง่วงเหงาหาวนอน คราวละนานนาน มาจนบัดนี้
ผมว่า ส่วนหนึ่ง มาจากคุณครูลิ้นจี่ อสุณี ณ อยุธยา ที่ท่านตบตีเขกกระบานผมมาตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยมปีที่ 2 เรื่อยมาหลายปี ทำให้เวลาผมอ่านอะไรที่อยากจะซบหลับ พอหัวโขกโต๊ะก็นึกถึงครูลิ้นจี่ทุกคราวไป บางครั้ง ต้องลืมตาขึ้นมา แล้วหันหน้าหันหลัง ดูว่า ครูลิ้นจี่อยู่ข้างหลังหรือเปล่าหว่าเอาบ่อยบ่อย แล้วก็หายง่วง อ่านต่อได้
ผมยังไม่ทราบเลยว่า ผมจะเรียนไปทำไม ศึกษาเพิ่มเติมไปทำไม ทั้งที่คนรุ่นน้องรุ่นลูกหลาน ในวงการสื่อด้านรถยนต์เมืองไทย เขาก็เลิกเรียนมาตั้งแต่จบการศึกษา เข้ามาทำงาน แล้วอ่านจากแค่แคตตาล็อกของรถยนต์แต่ละคัน เอามาถอดความเขียนกัน พอถึงตอนที่เจ้าหน้าที่บริษัทเขาพูดเรื่องไฮเทคระดับอีเล็กทรอนิก ก็อืออา ทำท่าว่ารู้เรื่อง ก็แค่นั้นกันเป็นส่วนมาก
ในขณะที่เจ้าหน้าที่บริษัทระดับอาจารย์ผู้ฝึกอบรมช่างทั้งหลาย แทบทุกคน ผมว่าทุกคนนั่นแหละ เรียกผมว่าอาจารย์กันทั้งนั้น
และผมเห็นจากสายตาด้วยซ้ำไป ว่าเขาเรียก”อาจารย์” เพราะเขารู้ว่า ผมรู้ในสิ่งที่เขาพูด และเข้าใจในสิ่งที่เขาพยายามอธิบาย
ผมเขียนอะไรมายืดยาว
เพียงแค่อยากจะบอกกับคุณพยนต์ว่า อย่าภูมิใจในตัวรุ่นพี่ที่ไม่ได้เรื่องเวลาเรียนอยู่ในประเทศคนนี้นักเลย แต่คิดว่า ไม่บอกดีกว่า
เพราะความภาคภูมิใจในสถานศึกษา ที่มีรุ่นพี่เป็นตัวอย่างที่ดีนั้น หาได้ไม่ง่ายนัก ในชีวิตเรา
ผมว่า ผมก็เป็นคนดีนะ เพราะผมทำงานเพื่อสังคมเป็นส่วนมาก ไม่เคยสนใจรายได้ และเวลาที่ต้องให้กับงานเพื่อสังคม
แม้บ่อยครั้ง จะนึกน้อยใจ ที่ได้ยินคนพูดว่า มันทำอะไรอย่างนี้ มันต้องได้เงินทางลับลับทางใดทางหนึ่งแน่นอน ซึ่ง ไม่ใช่ครับ ผมไม่เคยได้รับอะไร ที่เป็นการตอบแทนจากการทำงานให้สังคม นอกเหนือจากรายได้ปกติ อันพึงมีพึงได้ของผมเพียงอย่างเดียว
จนนึกเลยเถิดไปว่า คนที่ใช้นิ้วแทนสมอง เขียนออกมาอย่างนี้ คงจะเป็นพวกที่ทำอะไร แบบต้องมีรายได้เป็นตัวเงินเข้ากระเป๋าเขาทุกคราวไปหรืออย่างไร
คำตอบ ไม่มี และไม่ทราบว่า จะได้คำตอบเมื่อไร ในเมื่อผมไม่ถามใคร
คำถามที่รุ่นพี่สวนกุหลาบฯของคุณคนนี้ถามตัวเองอยู่เสมอ ก็คือว่า เราตามเทคโนโลยีทันหรือเปล่า?
แต่ไม่ยอมถามหรอกครับ ว่าตามไปทำไม
ก็ขอให้คุณพยนต์ และพี่น้องผองเพื่อน ใน Car on Line ทุกท่าน ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง มีความสุข สมความปรารถนา ในทุกทิวา ราตรี ของปีใหม่ พุทธศักราชสองพันห้าร้อยสี่สิบเก้านี้ ทั่วกันนะครับ
-ธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา สวนกุหลาบวิทยาลัย 73 (2497-2504)
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…