การตัดถนนในอเมริกานั้นจะให้ความสำคัญในเรื่องวิว ทิวทัศน์ค่อนข้างสูง ถนนบางสายถูกตัดเลาะเลียดทะเลสาบเป็นร้อยกิโลเมตร บางสายสร้างเป็นสะพาน
เชื่อมเกาะน้อยใหญ่หลายร้อยกิโลเมตร
บางสายตัดเลียบชายฝั่งทะเลตลอดสายหลายพันกิโลเมตร
แน่นอนที่สุดการสูญเเสียชีวิตของผู้ใช้รถเนื่องจากตกลงไปในน้ำจึงเกิดขึ้นเป็นประจำและยากแก่การป้องกัน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สหรัฐอเมริกาได้ทำการจำลองสถานการณ์จริง
โดยให้เจ้าหน้าที่สองคนใส่ชุดประดาน้ำนั่งอยู่ในรถที่กำลังพุ่งลงน้ำเพื่อหาวิธีการที่ถูกต้องในการเอาตัวรอดจากการจมไปทั้งคนทั้งรถ
ขั้นตอนในการเอาตัวรอดเมื่อ รถพุ่งลงน้ำมีดังนี้
1. อย่าปลดเข็มขัดนิรภัยออกจนกว่าจะหมดแรงกระแทก หลายคนเมื่อเห็นว่ารถกำลังเคลื่อนที่ลงน้ำจะปลดเข็มขัดกันซึ่งบ่อยครั้งอาจทำให้ศีรษะกระแทกจากแรงปะทะผิวน้ำ
2. อย่าพยายามเปิดประตูแม้จะมีน้ำเข้าเต็มรถก็ตามเพราะแรงดันน้ำจะทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐอเมริกาพิสูจน์ความจริงข้อนี้ จากการนำรถยกห้อยรถในน้ำไว้ครึ่งคัน ให้ตำรวจที่อยู่ทั้งข้างในและนอกตัวรถพยายามเปิดประตูแต่ก็ไม่สามารถทำได้
3. ออกทางหน้าต่างเท่านั้น สูดลมหายใจให้เต็มที่และค่อย ๆ ลดกระจกลงและออกทางหน้าต่างสำหรับกระจกไฟฟ้า จากสถานการณ์จำลองพบว่า แม้ว่ารถจะจมอยู่ในน้ำ ระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ยังใช้การได้ดีประมาณสิบนาที
4. อย่าตามอากาศอย่างเด็ดขาด การเสียชีวิตเนื่องจากติดอยู่ในตัวรถก็เพราะผู้เสียชีวิตพยายามตามอากาศที่ไหลไปรวมกันอยู่หลังรถ เหตุเพราะหน้ารถพุ่งลงน้ำอากาศจึงไหลไปรวมกันที่ที่นั่งหลัง อากาศที่อยู่หลังรถดูเหมือนจะมีให้หายใจได้แต่เมื่อจมลงไปเรื่อย ๆ ตัวรถจะเริ่มตั้งฉาก อากาศจะถูกบีบออกทางกระโปรงหลังภายในไม่ถึงนาที
5. อย่าพยายามทุบกระจกเพราะวัสดุรุ่นใหม่ที่ใช้ทำกระจกรวมกับแรงน้ำจากภายนอกจะทำให้
กระจกรถ แข็งแกร่งกว่าปกติหลายเท่าตัว
6. ตัดสินใจและกระทำอย่างรวดเร็วที่สุดเพราะเราไม่สามารถทราบได้ว่าก้นน้ำลึกมากแค่ไหน
และ มีภูมิประเทศอย่างไรเพราะถ้าเป็นโคลน โอกาสรอดจะมีน้อยทีเดียว
สาระเล็ก ๆ ครับ เชื่อว่าคงเป็นประโยชน์กับทุกท่านในพันทิพย์ไม่มากก็น้อย
ขับรถอย่างไม่ประมาทเป็นทางแรกในป้องกันอุบัติภัยต่าง ๆ ครับ
กนวิชญ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ขอบคุณข้อมูลจาก **Police Department สหรัฐอเมริกา**