Brand: TOYOTA Model: Soluna
Year: 2003 Miles: 0-5000
From: กรรณิการ์ พูนทวี
Toyota : vios
แอนจองรถ Vios เอาไว้เป็นตัว top สีทอง
ตั้งแต่ 28 ธค ปีที่แล้ว เซลล์ บอกว่าจะเร่ง
ให้ เหตุมีอยู่ว่าวันนี้โทรไปถามว่าได้รถแล้วหรือยัง(ตกลงกันว่าได้รถสิ้นเดือน มค.) เขาบอกว่ามีรถ อยู่คันหนึ่งเหมือนกับที่จองไว้ แต่เป็นเบาะหนังสีดำ เป็นรถของลูกชายเจ้าของศูนย์แต่เข้าไม่ชอบเลยไม่เอา เขาถามว่าเราจะเอาคันนี้ไหม เพิ่มเงินค่าเบาะหนัง 18,000 บาท แต่แอนยังกังวลอยู่ค่ะช่วยตอบปัญหาแอนด้วยค่ะ
1. เป็นไปได้ไหมว่ารถคันนี้จะถูกใช้งานแล้วเกิดมีปัญหาไม่ว่ากรณีใด ๆ จึงคืนให้บริษัท ถ้าเป็นจริงเรามีวิธีตรวจสอบอย่างไรได้บ้างค่ะ (ถ้าให้สังเกตดูเลขไมล์กิโลเมตร ? มันสามารถแก้ไขให้เป็น 00 ได้หรือเปล่าเป็นดิจิตอลค่ะ) หรือมีวิธีอื่นค่ะ เช่น ดูที่สมุดทะเบียนรถ หรือ ต้องเช็คทางกรมขนส่งค่ะ
2. เบาะหนังสีดำราคานี้ แพงไปหรือเปล่าค่ะ
3. ถ้ารถมีการชนมาเราสามารถสังเกตุดูรถได้อย่างไรค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับความช่วยเหลือ ตอนนี้คิดหนักเลยค่ะ หรือจะรอรถตามสเปกค์เดิมของเราก็คงอีกนานค่ะ เพราะรีบใช้งาน(กลัวรถมีปัญหาคืนศูนย์)
เอ จะไปเอาทำไม รถไม่ได้ตามความต้องการ อยากได้รถไว้ใช้ หรือเอาไว้ทำความรำคาญใจให้ตลอดเวลาที่ได้รถไปใหม่ล่ะครับ เลือกเอาก็แล้วกัน ว่าต้องการอย่างไหน แล้วตัดสินใจเอาเอง
1-ต้องใช้งานมาแล้วแน่นอน อย่างน้อย เจ้าของคนแรกก็จะต้องขับเล่น เมื่อไม่ชอบใจ ก็คืนรถไป เพราะเขาเป็นลูกเจ้าของศูนย์หรือโชว์รูม ทำได้ง่ายอยู่แล้ว ใช้ไปแล้วกี่มากน้อยก็ไม่ทราบ เพราะไมล์เขี่ยได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นไมล์ดิจิตอล หรือไมล์อนาล็อก ไม่ต้องแก้ให้เป็นศูนย์หรอกครับ แค่ห้าหกสิบกิโลเมตรก็ได้ทั้งนั้น รถใหม่อาจจะมีเลขไมล์อยู่ห้าหกสิบกิโลเมตรได้ด้วยเช่นกัน
คุณจะไปเช็กอะไรได้ เพราะเขาก็บอกแล้วว่า รถของลูกเจ้าของศูนย์ แสดงว่า เคยให้ลูกเจ้าของศูนย์ไป หรือไม่ได้ให้ แต่เอาไปทำเบาะให้ และยังไม่ได้จดทะเบียน จะไปเช็กอะไรที่ไหนอีกล่ะครับ เรื่องมันก็ง่ายแสนง่าย ว่ารถเคยมีเจ้าของ แม้จะยังไม่จดทะเบียนก็ตาม เคยมีครับ เคยมี เข้าใจคำนี้แล้ว ก็ง่ายขึ้นครับ
ส่วนเจ้าของที่เคยครอบครอง หรือไม่ครอบครอง แต่เป็นเจ้าของโดยพฤตินัย จะใช้รถแค่ไหน หรือไม่ อย่างไร ใครจะบอกคุณ คุณจะเช็กที่ไหนได้ล่ะครับ ผมก็เช็กไม่ได้ นอกจากเลือกเอา ว่าจะเอาอะไร เอาความสบายใจ หรือเอาความทุกข์ใจ มาใส่ตัวเอง
2-ถ้าเป็นเบาะหนังแท้ จากผู้ผลิตเบาะจริง ก็ไม่แพง แต่ก็ขึ้นอยู่กับเกรดของหนัง ผมไม่เห็น คุณก็ไม่รู้ เพราะทั้งสองคน คือเรา ไม่ได้ดู ไม่ได้เห็น ไม่ได้สัมผัส แล้วเราจะถามกันทำไมล่ะครับ
ถามตัวเองไม่ดีกว่าหรือ ลองเช็กที่อื่นดูหรือยัง เห็นของหรือยัง รถก็อยู่ที่ศูนย์ไม่ใช่หรือ มีเวลาให้ดู ให้เห็น ไปดูหรือยัง หรือแค่เซลล์โทรฯบอก ก็ตกลงทันที อย่างนี้ ก็ถือว่าใช้ไม่ได้ครับ ต้องไปดูรถให้เห็นกับตา
ผมเอง ไม่แนะนำให้จองรถเลยสักคัน ไม่ว่ายี่ห้อไหน
ไม่จอง ถ้าจอง ก็กำเงินออกจากโชว์รูม ไปดูรถยี่ห้ออื่นเลย ไม่เห็นจะต้องใช้รถยี่ห้อที่ต้องจองเลยสักนิด ไม่แคร์ด้วย ว่าราคาจะตก เมื่อขายต่อหรือไม่
ถ้าเราพร้อมใจกันไม่ยอมจองรถ ผมอยากรู้นัก ว่าผู้ขายจะทำอย่างไร เมื่อขายรถไม่ออกสักคัน
นี่เราพร้อมใจกันเฮกันไปจองรถ เขาก็สบายตัว สบายใจ
แล้วใครทุกข์ใจ ทุกข์ใจที่ต้องรอแล้วรอเล่า กลายเป็นเบี้ยล่างของเขา
พูดตามตรงนะครับ สมน้ำหน้าคนจองรถ ทุกคัน ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อนั่นแหละ
ผมจะซื้อคอมพิวเตอร์ ขนาดให้โอนเงินเข้าไปก่อนวันเดียวได้ของ ของดีกว่าที่เห็นด้วย ยี่ห้อเดียวกัน คือ Compaq800 ผมยังไม่เอา แต่กำเงินไปซื้อของเองเลย ยอมได้สเปคที่ต่ำกว่า ราคาไม่สนใจ แต่ถ้าซื้อของ ผมต้องได้ของเลย ไม่ใช่ส่งเงินไป แล้วนั่งรอจากคำสัญญาของผู้ขาย ที่เมื่อได้เงินไปแล้ว ก็เหนือกว่าผม อันเป็นผู้ใช้และผู้ซื้อ
คนเรา ต้องคำนึงไว้เสมอครับ
ว่า
ผู้ซื้อมีสิทธิเลือก ผู้ขาย ไม่มีสิทธิเลือก
โลกและวงการรถยนต์ จึงจะอยู่ได้อย่างมีปกติสุข
3-ก็สังเกตรอยชน รอยทำสี แต่ต้องดูเป็น เมื่อดูไม่เป็นแล้ว อย่ามาถามดีกว่า ว่าจะดูจะสังเกตอย่างไร ผมบอกเท่าไร ก็ไม่รู้เรื่องหรอก
เช่นให้เอารถออกไปดูกลางแดด ที่สว่าง แล้วยืนห่างจากรถประมาณสามก้าว เฉียงออกไปทางด้านข้าง(จากหน้าหรือหลังก็ได้)หนึ่งก้าว มองดูความเรียบของเงาสะท้อน มองดูสี ความละเอียดของเม็ดสี อะไรต่ออะไรพวกนี้ คุณทำได้ไหมล่ะ ทำได้ ก็ดูแบบนี้แหละครับ
ที่คุณบอกว่า กลัวมาก นี่น่ะ ความกลัวไม่ได้สอนให้คุณหักห้ามใจ ไม่ให้ใจง่ายหรอกหรือครับ-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…