Categories: รถใหม่

ทดลองขับ PAJERO SPORT 2.5 VG TURBO : จี๊ดจ๊าดขึ้นรึเปล่า?


แล้วการเดินทางแรกในปีนี้ของผมก็เริ่มหลังจากการเปิดตัวของรถคันนี้ซึ่งจะเรียกว่าเป็นรุ่นก็ได้เหมือนกันแม้ว่าภายนอกแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยนอกจากเครื่องยนต์ ไม่ซิเครื่องก็ไม่ได้เปลี่ยนยังคงเป็นรุ่นเดิมอยู่เปลี่ยนเพียงเทอร์โบลูกใหม่หรืออาจจะเป็นของเดิมที่เคยมีแล้วนำมาใส่ใหม่นั่นก็คือเทอร์โบแบบแปรผันที่ทางมิตซูบิชิเรียกว่า VG TURBO


อ้าวสรุปแล้วมันมีอะไรแตกต่างบ้าง อันแรกเลยต้องบอกว่าความแรงเพราะมีแรงม้าเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 178แรงม้าที่ 4,000รอบ แล้วแรงบิดให้ถึง350นิวตันเมตรแล้วก็มาเร็วขึ้นโดยมาตั้งแต่ 1,800รอบไปจนถึง3,500 รอบ แถมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS-II ในรุ่นขับสี่พร้อมด้วย PADDLE SHIFT ในตัวท็อป ส่วนตัวขับสองนั้นเป็นเกียร์อัตโนมัติ4จังหวะเท่านั้น


ส่วนอื่นๆนั้นไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ HID ที่ฉีดล้างโคมไฟหน้า ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติและอะไรอีกบ้างผมก็จำไม่ได้แล้วก็มีเพิ่มเข้ามาให้โดยถือว่าเป็นของเล่นที่แถมมาให้


เอาละครับไปลองขับกันเลยดีกว่า สนามทดสอบเจ้าประจำจนจะเรียกได้ว่าเป็นสนามหลักในการทดสอบรถ ก็คือสนามบริดจสโตน โดยผมเดินทางไปพร้อมกับคุณโอนัดเจอกันที่ปั๊มแล้วขับรถไปด้วยกัน โดยทางมิตซูบิชินัดเจอกันตอนเก้าโมงครึ่งไปถึงก็ลงทะเบียนแล้วก็ฟังบรรยายเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ไปขับรถ


ห้าสถานีสี่การทดสอบ
รถทดสอบครั้งนี้มีทั้งหมดสิบคันสี่รุ่น ผลัดกันขับโดยต้องไปรับบัตรคิวเลือกรุ่นที่จะขับ พอขับเสร็จแล้วจะขับคันใหม่ก็ต้องไปเอาบัตรคิวใหม่เป็นแบบนี้ทุกคนไป โดยคันแรกที่ไปขับนั้นเป็นปาเจโรสปอร์ตขับสี่ตัวท็อปขึ้นรถปุ๊บคาดเข็มขัดปรับเบาะที่นั่งให้เข้าที่เข้าทางโดยปรับด้วยระบบไฟฟ้า ภายในนั้นแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนหลังจากที่เคยได้ลองเมื่อตอนเปิดตัวเมื่อสองปีที่ผ่านมาได้กระมัง นอกจากที่พวงมาลัยมีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงแล้วก็ตัวควบคุมความเร็วอัตโนมัติรวมถึงการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย เมื่อรถพร้อมคนพร้อมก็เริ่มกันเลย


ด่านแรกสลาลม
ออกจากพิทแล้วก็เจอกรวยขวางกั้นอยู่ทำไงดีหล่ะ อ๋อเราต้องขับหลบมันละซิไม่ใช่วิ่งชนเพื่อเก็บแต้ม ฮ่าฮ่าขับรถโดยใช้ความเร็วประมาณ 30กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลบหลีกกรวยที่วางแบบค่อนข้างชิดซึ่งทำให้ต้องมีการสาวพวงมาลัยกันเป็นระวิงเชียว การตอบสนองของพวงมาลัยนั้นผมว่ายังไม่ดีเท่าไรหรืออาจจะยังไม่คุ้นกับรถก็เป็นได้ เอ้าเดี๋ยวค่อยลองอีกรอบดูซิจะต่างกันรึเปล่า


เปลี่ยนเลน
หลังจากออกจากสลาลมนั้นมีช่วงว่างอยู่โดยขับรถไปชิดทางซ้ายของสนามแล้วกดคันเร่งเพิ่มความเร็วเข้าไปถึงประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เข้าทางบังคับหักพวกมาลัยไปทางซ้ายแล้วดึงกลับมาทางขวาด้วยแรงเท่ากันหรืออาจจะมากกว่าเล็กน้อย ดูอาการของรถซึ่งรู้สึกว่าให้ความรู้สึกมั่นใจไม่มีการโคลงหรือโยนของตัวถังให้น่าตกใจ


การเข้าโค้ง
หลังจากการเปลี่ยนเลนก็ยังมีสลาลมให้เล่นอีกครั้งเช่นเดิมครับยังต้องสาวพวงมาลัยแก้อยู่เหมือนเดิมออกมาก็มีกรวยบังคับให้เข้าโค้งโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพิ่งจะเจอครับที่ทีมงานเอากรวยมากั้นบังคับให้เข้าโค้งช่องซ้ายสุดแบบนี้แต่ไม่เป็นไรแล้วแต่จะจัดให้ครับเข้าไปแบบสบายๆนิ่งไม่มีปัญหา


ทางตรง
ออกจากโค้งก็มาก็หยุดรถให้สนิทรอสัญญาณจากเจ้าหน้าที่เมื่อได้ธงเขียวก็กดคันเร่งจนมิด การตอบสนองนั้นเหมือนจะอืดไปหน่อยในช่วงออกตัว แต่พอได้รอบปั๊บความเร็วก็ไหลมาทีเดียว การเปลี่ยนเกียร์นั้นถือว่าใช้ได้แม้จะมีการกระตุกแต่ไม่ได้น่าเกลียดอะไรพอให้รู้สึกว่าฉันเปลี่ยนเกียร์แล้วนะ โดยสามารถทำความเร็วได้ถึง140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากนั้นก็ต้องชะลอรถเพื่อเข้าพิทเพื่อจอดรถเป็นอันหมดรอบซึ่งทีแรกคิดว่าจะได้ขับสองรอบ รอบแรกเป็นการดูทางก่อนแต่ก็ไม่เอ้าไม่เป็นไร ไปต่อคิวใหม่ก็ได้ แต่พอจอดรถผมต้องงงเป็นไก่ตาแตกพร้อมกับพี่ๆที่เพิ่งจอดรถ ก็ทางทีมงานนั้นนำแบบสอบถามมาให้ตอบคำถามว่าการเปลี่ยนเกียร์ PADDLE SHIFT นั้นเป็นยังไงบ้าง ใครจะไปตอบได้ละครับแต่ละคนไม่มีใครใช้เลยสรุปว่าไม่มีใครตอบได้ต้องไปลองขับใหม่


คราวนี้มาถึงคิวของ PAJERO SPORT ตัวขับสองบ้างจะกล่าวโดยสรุปว่าการขับขี่แทบไม่มีอะไรแตกต่างหรือไม่มีอะไรต่างจากตัวขับสี่เลยนอกจากการคุมพวงมาลัยที่ไม่ต้องสาวมากเท่าตัวขับสี่ในการขับสลาลมอันนี้ล่ะครับเป็นเรื่องที่สงสัยว่าเป็นเพราะอะไรทำไมถึงคุมรถได้ง่ายกว่า พอขับเสร็จเวลายังเหลือเลยขอลองซ้ำอีกรอบสำหรับขับสี่เช่นเดิมครับต้องสาวพวงมาลัยมากกว่าแม้จะใช้ความเร็วเท่าเดิมแถมอาจจะช้ากว่าเล็กน้อยด้วยไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะคันรึเปล่า


สรุปเครื่องยนต์เทอร์โบใหม่นั้นแรงขึ้นกว่าเดิมแต่เท่าไรนั้นไม่ได้จับเวลาไว้แต่รู้ว่าดีกว่าเก่าแน่นอน ช่วงล่างยังคงบอกได้ว่าทำได้ดีให้ความมั่นใจได้ไม่แข็งกระด้างหรือนิ่มเกินไป ช่วงล่างรถกระบะแบบนี้สำหรับผมถือว่ากำลังดีระบบเบรถนั้นเอาของตัว 3.2มาใส่ไม่มีปัญหาเอาอยู่แน่ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคงมีไม่กี่คนที่ลองเบรก ในการไปขับในครั้งนี้ หรืออาจจะมีผมเพียงคนเดียวด้วยก็เป็นได้ เบรกจากความเร็ว140แล้วเหยียบเบรกจนมิดการทำงานตอบสนองได้ดี ยังไงถ้าใครสนใจคงต้องบอกว่าไปลองขับดูเอาแล้วกันว่าตอบสนองความต้องการของท่านได้รึเปล่า


######################################

premsak@caronline.net เรื่อง
สารฑูล สักการเวช ภาพ

Facebook Comments
CarOnline Team

Recent Posts