ทความเร็วที่ 110-120 พวงมาลัยสั่น

Brand: NISSAN Model: Sunny
Year: 2001 Miles: 20001-40000
From: Guest

: Super NEO

รถใช้งานในเมือง ไม่ได้ขับเร็วถึง 120 บ่อยๆ แต่เมื่อก่อนขับที่ความเร็วๆ พวงมาลัยก้ไม่สั่น เข้าศูนย์ตามระยะทุกครั้ง ไม่เคยประสบอุบัติเหตุรุนแรง ไปเข้าศูนย์ให้ช่างเช็ค เมือ 6 พ.ค. นี้ หลังจากไปพักผ่อนที่พัทยา รถมีพวงมาลัยสั่นที่ ความเร็ว110-120 ขึ้นไป ช่างแก้ปรับให้ แล้วแจ้งว่า ถ้าไม่หายต้องตั้งสูนย์รถใหม่ แต่ไปลองแล้วสั่นน้อยลง แต่ก็ยังสั่นอยู่ ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไรครับ ขอขอบคุณครับ


เรื่องพวงมาลัยสั่นขณะความเร็วอยู่แถว 100-120 นี่ อันที่จริง เป็นเรื่องเล็กมากสำหรับช่างทั่วไป พอได้ยิน ก็บอกได้ทันทีว่า ต้องถ่วงล้อ
และช่างหลายคน อาจจะแสดงความสงสัยว่า ทำไมถึงมีการถามกันเสมอ
ผมขอตอบช่างที่หรือคนที่แสดงความสงสัยว่า ทำไมถึงมีการถามกันเสมอไปเลยในการตอบปัญหาของคุณมาโนชนะครับ
ว่า ที่ถามกันบ่อย ก็เพราะปัจจุบัน หนังสือรถยนต์มีมาก หนังสือเกี่ยวกับเรื่องเครื่องยนต์และรถยนต์เองก็มีกันมาก หลายเล่ม ที่วางตลาดอยู่ แต่เสียอยู่นิดหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครสนใจจะซื้อหนังสือเกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์ หรือเครื่องยนต์ไปอ่านเพื่อศึกษา
และนิตยสารรถยนต์ส่วนใหญ่ หรือทั้งหมดนี่แหละครับ ไม่ยอมกลับมารับคนใหม่
คนใหม่ที่ผมพูดถึงนี่ ก็คือท่านผู้ใช้รถรุ่นเยาว์ หรือไม่เยาว์ละ แต่เพิ่งใช้รถเป็นระยะแรก ปีแรก วันแรก เดือนแรก มักถูกมองข้าม จากคนทำนิตยสาร ที่มักจะมองกันเองในกลุ่มคนทำนิตยสารว่า หากเขียนเรื่องเกี่ยวกับการดูแลรักษารถยนต์อย่างง่ายง่าย เพื่อคนใช้รถระยะแรกแล้ว จะกลายเป็นนิตยสารไม่เอาไหน มีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อบ้าง อะไรที่ไม่เข้าท่าทำนองนั้น แล้วก็เลยไม่ทำกัน
คนที่พูดอยู่บ่อยบ่อยว่า หนังสือเล่มนั้นเล่มนี้เล่มโน้น คอลัมน์นี้คอลัมน์โน้น มีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อเลยนั้น ส่วนมากเป็นประเภทปากตำแย ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วเอาแต่พูดครับ
ไม่เคยรู้เลยว่า เทคนิคเครื่องยนต์ที่เอามาเขียนให้อ่านง่ายนั้น คนเขียนต้องใช้เทคนิคทางภาษาอย่างไร ระดับไหน ลองให้ตัวเขาเขียน ก็รับรองได้ว่าเขียนออกมาให้อ่านง่ายเหมือนเป็นน้ำซูปอย่างมือระดับอาจารย์เขาเขียนไม่ได้หรอก
ผมเองพร่ำพูดมานานแล้ว ว่านิตยสารรถยนต์ควรจะย้อนกลับไปรับคนใหม่บ้าง
รับด้วยการเขียนบทความสำหรับผู้ใช้รถยนต์ใหม่เป็นประจำ อย่าให้บทความนั้นเติบโตไปกับหนังสือ ที่นับวันก็เป็นหนังสือเก่า เพราะหากไม่มีคนใหม่เข้ามาเสริมแล้ว แฟนประจำก็จะล้มหายตายจากไปหมดในไม่ช้า หรือเติมโตในแบบพิรามิตหัวคว่ำ
แต่เพราะมีคนปากตำแย คอยพูดอยู่เสมอว่า “แต่น้ำ” นี่แหละครับ ที่ทำให้ไม่มีใครกล้ากลับไปรับคนใหม่
ไปกลัวมันทำไมกัน กับคนปากชั่ว ปากสวะอย่างนั้น
ทำอะไรที่ดีดีได้ ก็ทำไปเองดีกว่าน่า

เอาละ สำหรับคุณมาโนช ผมเรียนว่า ควรนำรถไปรับการถ่วงล้อเสียครับ ถ่วงจากร้านดีดีนะครับ อย่ามั่วไปทำกับพวกร้านฟาสเซอร์วิสทั้งหลายอย่างคนสมัยใหม่เขาทำกัน
หาร้านอย่าง ส.รัตนยางยนต์ ถนนสุโขทัย ร้านอย่าง ก.แสงไทย หัวถนนศรีนครินทร์ ทำให้ น่าจะดีกว่า-ธเนศร์

Facebook Comments