ต่อจากกระทู้ความร้อนขึ้น

Brand: TOYOTA Model: Corolla
Year: 1996 Miles: 100001 – More
From: กิตติศักดิ์ เผ่าวนิช

เมื่อ 2 เดือนที่แล้วผมเพิ่งเอารถเข้าศูนย์เช็คระยะ แล้วให้เขาเปลี่ยนน้ำในหม้อน้ำด้วย ทางศูนย์บอกว่าเขาใช้น้ำยาคูลแลนท์ของToyota โดยเฉพาะไม่ต้องผสมน้ำ แต่เวลาผมเติมน้ำในหม้อพักน้ำสำรอง ผมใช้น้ำปล่าวธรรมดา ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวกับความร้อนขึ้นมั๊ยครับ ผมไม่กล้าล้างหม้อน้ำเพราะกลัวน้ำยาล้างหม้อน้ำไปกัดกร่อนหม้อน้ำครับ แต่ในกรณีนี้ควรล้างมั๊ยครับ


เท่าที่ทราบ ตอนนี้โตโยต้าออกน้ำสำหรับใช้กับระบบระบายความร้อนมาแล้ว โดยเป็นน้ำที่ผสมน้ำยาในสัดส่วนถูกต้องมาเสร็จ จึงใช้ได้เลยครับ
คุณไม่ได้ยกข้อมูลที่อ้างถึงมาด้วย และถามต่อเนื่องกลับไปถึงปัญหาเดิม ทำให้ผมต้องเสียเวลากลับไปหาข้อมูลเดิมอีก…ที่คุณอ้างถึง เป็นอย่างนี้
“ผมใช้ Toyata Corona รุ่นst191 วันก่อนจอครถติดไฟแดงอยู่ตอนประมาณบ่ายสาม ผมสังเกตุเห็นเข็มวัดความร้อนค่อยๆขึ้นจากกึ่งกลาง ผมเลยรีบปิดแอร์ เข็มวัดความร้อนจึงลดลงมาระหว่างกลางเหมือนเดิม ปิดแอร์ไปได้ประมาณ 45 นาทีแล้วเปิดใหม่เข็มวัดความร้อนก็ปรกติเหมือนเดิม หลังจากนั้นฝนตกลงมา ผมสังเกตุเห็นควันลอยจากช่องลมของห้องเครื่องปะทะกระจกหน้าในระหว่างจอดติดไฟแดง แต่ไม่มากเท่าไร มองเข็มวัดความร้อนก็เป็นปรกติ แล้วคนอื่นที่ขับรถคันนี้บอกว่าเวลาขับคันนี้ไปชานเมือง น้ำในหม้อพักน้ำสำรองมักจะพร่อง ต้องคอยเติมและเห็นน้ำไหลนองลงมาที่พื้นเมื่อเวลาจอดรถเสร็จ อยากทราบว่าต้องปัญหาเกิดจากอะไรครับ แล้วหลังจากนั้นผมจอดรถทิ้งไว้ประมาณ3ชั่วโมง พอstartเครื่องเสร็จ ค่อยๆกดคันเร่ง เครื่องเร่งไม่ขึ้นเลยครับ ต้องกดคันเร่งแรงๆ เครื่องถึงเร่งออก อยากทราบว่าเอารถเข้าอู่แอร์กับอู่เครื่องยนต์จะดีกว่าเข้าศูนย์มั๊ยครับ”
และผมตอบไปว่า
“ระบบระบายความร้อนมีปัญหาแล้วครับ คุณคงใช้รถที่ไม่ได้เติมน้ำยาหม้อน้ำ ทำให้ในหม้อน้ำสกปรก มีสนิม และเกิดอุดตัน กับรักษาระดับความเย็นไม่ได้ดี
ต้องล้างหม้อน้ำ ตรวจสอบหาจุดรั่ว คงต้องมี และซ่อมแซมแก้ไขเสียให้เรียบร้อย ดูพัดลมระบายความร้อนด้วย ว่าหมุนได้รอบ และหมุนดีทุกครั้งหรือไม่ พัดลมแอร์ต้องดูด้วยหากมีต่างหาก อาจจะไม่หมุนก็ได้ครับ เป็นบางครั้งนะ
แล้วเปลี่ยนน้ำใหม่ ใส่น้ำยาระบายความร้อนเสียด้วย อย่าประหยัดกับเรื่องสำคัญนี้”

คุณคงหงุดหงิดในอารมณ์ เพราะผมเตือนว่า ใส่น้ำยาระบายความร้อนเสียด้วย แต่คุณว่าใส่แล้วนี่นา แต่อย่าลืมนะครับ ใส่เมื่อสองเดือนก่อน แต่ก่อนหน้านั้น จะใส่หรือเปล่า ใส่เป็นประจำหรือไม่ ไม่มีข้อมูลบอกไป ผมจึงได้เตือน
และยังให้ความเห็นเหมือนเดิม
คือต้องล้างระบบระบายความร้อน จะล้างด้วยอะไรก็ได้ แต่ใช้น้ำเป็นหลักใหญ่ และต้องล้างให้สะอาดจริงจริง ส่วนมากจะต้องเอาหม้อน้ำออกไปส่งให้ร้านหม้อน้ำล้างให้ โดยการรื้อแล้วเอาลวดแยงทางช่องเดินน้ำ
การล้าง เป็นการเอาตะกรันออกจากที่อุดอยู่ อาจจะทำให้ส่วนที่ใกล้จะรั่วหรือรั่วแล้ว แต่อุดอยู่ด้วยตะกรันหลุดออก ทำให้มีรอยรั่วที่เห็นชัดได้ นี่เป็นสิ่งที่ดี คือจะได้ซ่อมเสียก่อนที่จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาในที่สุด ผมคิดอย่างนี้ และย้ำมาอย่างนี้ตลอดครับ
ดังนั้น ผมจึงไม่สนใจคำที่คุณพูดว่า “ไม่กล้าล้างหม้อน้ำเพราะกลัวน้ำยาล้างหม้อน้ำไปกัดกร่อนหม้อน้ำ” เพราะใช้กับผมไม่ได้ ผมสนใจความสะอาดของหม้อน้ำ และระบบมากกว่าจะสนใจว่า รั่วหรือไม่รั่วขณะล้างครับ
ที่คนอื่นบอกคุณว่า น้ำล้นออกมาที่พื้นหลังจอดรถแล้วนั่น อาจจะเกิดได้จากการเห็นน้ำแอร์ไหลออกมา หรือหากเป็นน้ำระบายความร้อนจริง ทำไมเขาไม่เปิดฝาครอบเครื่องขึ้นมาดู ว่าน้ำไหลจากไหน ชุ่ยมากครับ สำหรับคนขับรถแบบนั้น
ผมตำหนิเลย เพราะเห็นชัดว่า ขาดความรอบคอบ ขาดความรับผิดชอบด้วย ไม่น่าจะเป็นคนขับรถได้เลยด้วยซ้ำไป เห็นอะไรผิดปกติ ต้องดูครับ จะมาอ้างว่า ไม่รู้เรื่องรถยนต์เลยไม่ได้หรอก คนเราทุกคนที่ขับรถเป็น ก็ต้องรู้ว่า รถยนต์ทำงานด้วยเครื่องยนต์ และต้องไม่มีอะไรรั่วออกมา หากมี ก็ต้องดูให้รู้แน่ชัดว่า เป็นอะไร ที่ไหน เป็นอย่างน้อย อย่าแก้ตัวว่า ไม่รู้เรื่องรถยนต์
ที่จริง คนของคุณไม่ได้แก้ตัว เพราะคุณไม่ได้เล่า ผมจึงต้องถือว่า เป็นคนไม่ควรขับรถยนต์เลยครับ
ทำให้ทั้งผม ทั้งคุณ ไม่รู้เรื่องไปด้วย และเมื่อผมไม่มีโอกาสทดลองขับรถของคุณ ผมจะรู้ไหมนี่ ว่าน้ำไหลออกมาทางไหน และเป็นน้ำอะไร ระหว่างน้ำแอร์ กับน้ำระบายความร้อน
ดูให้แน่ซีครับ ดูเสียก่อน ว่าอะไรเป็นอะไร ผมจะได้ตอบได้
หากตอบแบบกำปั้นทุบดิน เมื่อเหตุการณ์มันปกติแล้วตอนนี้ ก็ไม่มีอะไร
แต่หากเกิดเข็มวัดขยับขึ้นอีกผิดปกติอีก ก็ค่อยดูว่า พัดลมทำงานหรือไม่ แค่นั้นเอง แต่ต้องดูตอนนั้นด้วยครับ
แล้วสำหรับคำตอบที่จะให้คุณในตอนนี้ ก็คือเติมด้วยน้ำเปล่า ไม่เป็นไรครับ และไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณสงสัย-ธเนศร์

Facebook Comments