Categories: ข่าว

ซูซูกิยอดขายเติบโต พร้อมต้อนรับผู้นำองค์กรคนใหม่ คว้าซิโก้ ร่วมเสริมภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงข่าวแนะนำผู้นำองค์กรคนใหม่ มร. โยจิ มุโรซากะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด คนล่าสุด พร้อมกันนี้ นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด   บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมแถลงผลประกอบการประจำปี 2558 และนโยบายการดำเนินงานในปี 2559 อีกทั้งการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ซูซูกิ ณ โรงแรมเรเนซอง ราชประสงค์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559
มร. โยจิ มุโรซะกะ เข้าร่วมงานที่ซูซูกิตั้งแต่ปี 2532 ในส่วนงานการตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มต้นดูแลตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา และตลาดยุโรปในเวลาต่อมา ซึ่งนอกจากจะดูแลด้านการขายรถยนต์แล้ว มร.โยจิ มุโรซะกะ ยังได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการโครงการในการควบคุมการก่อสร้างโรงงานซูซูกิในประเทศฮังการี ปี 2545-2550 และประเทศรัสเซีย ปี 2550-2552 จากประสบการณ์ด้านการวางแผนองค์กรมากว่า 2 ปี จึงได้รับมอบหมายเป็นผู้จัดการดูแลตลาดเอเซียจัดทำแผนการลงทุนในรถรุ่นใหม่และก่อสร้างโรงงานเพื่อขยายธุรกิจการส่งออกและนำเข้าเพื่อประกอบรถยนต์และชิ้นส่วนระหว่างโรงงานของซูซูกิในอาเซียนและอินเดีย
เดือนมิถุนายน 2557 มร. โยจิ มุโรซะกะ ได้เข้ามาร่วมงานในประเทศไทย ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการใหญ่ ของ ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ซึ่งขณะนั้นซูซูกิได้เปิดตัวรถยนต์รุ่น Celerio โดยได้ส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ทั้งประเทศอาเซียนและประเทศแถบยุโรปอีกหลายแห่ง มร. โยจิ มุโรซะกะ ได้รับหน้าที่ดูแลเพื่อที่จะขยายและเพิ่มมูลค่าด้านเครือข่ายการขายของผู้จำหน่ายรถยนต์ซูซูกิ ซึ่งภายใต้สถานการณ์ตลาดที่ยากลำบากของประเทศไทย ผู้จำหน่ายรถยนต์ของซูซูกิได้แสดงถึงความตั้งใจและสามารถฟันฝ่าจนทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้ในปีที่ผ่านมา
ขณะนี้ มร. โยจิ มุโรซะกะ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าจะพยายาม  ฟันฝ่าเพื่อบรรลุในพันธกิจเน้นไปที่ลูกค้าเป็นสำคัญคือ
1. พัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เกิดคุณค่าสูงยิ่งขึ้นโดยมุ่งเข้าไปที่ลูกค้าเป็นสำคัญ
2. การสร้างการเปลี่ยนแปลงและสร้างนวัตกรรมในองค์กรผ่านการทำงานเป็นทีมร่วมกัน
3. นำเอาความโดดเด่นเชี่ยวชาญของแต่ละบุคคลมาใช้ผ่านทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
มร. โยจิ มุโรซากะ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับตลาดรถยนต์ของประเทศไทยในปี 2558 ด้วยยอดขาย 21,285 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 5.5% ส่งผลถึงภาพรวมส่วนแบ่งการตลาด เป็น 2.66% ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่องที่ผ่านมาเราได้ทำการแนะนำยนตรกรรมจากซูซูกินับตั้งแต่ ซูซูกิ สวิฟท์ซูซูกิ เซเลริโอ้ โดยทั้งสองรุ่นนี้ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจกับวงการรถยนต์ประเภทประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรือ อีโคคาร์  ทำให้กระแสนิยมในแบรนด์ซูซูกิเพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ซูซูกิก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในผู้นำรถยนต์ชนิดคอมแพคคาร์อย่างรวดเร็ว และในไตรมาศที่ 3 ปี 2558 ซูซูกิได้เปิดตัวแนะนำ ซูซูกิ เซียส รถยนต์ซีดาน อีโคคาร์ รุ่นใหม่สู่ตลาดประเทศไทย ที่ให้ความคุ้มค่าทั้งด้านความปลอดภัยและการประหยัดพลังงาน มีจุดเด่นที่เหนือกว่ารถซีดานในระดับเดียวกัน ตั้งแต่ดีไซน์ที่มีความภูมิฐานหรูหราสง่างาม ห้องโดยสารกว้างขวาง และเหนือชั้นด้วยสมรรถนะการขับขี่ ผสานประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม อีกทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 ที่ผ่านมา ซูซูกิ ได้ทำการแนะนำ ซูซูกิ เซียสอาร์เอส ที่มาพร้อมชุดแต่งสไตล์โมเดิร์นสปอร์ตรอบคัน เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็น Sporty Eco car สำหรับคนรุ่นใหม่ และช่วยตอบรับกระแสนิยมของลูกค้าให้เข้าถึงรถยนต์ที่มีมาตรฐานสูงทั้งด้านความปลอดภัยและประหยัดพลังงาน รูปลักษณ์อันโฉบเฉี่ยว และในราคาที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่ซูซูกิค้นคว้าและพัฒนาจนสามารถตอบโจทย์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าคนสำคัญของซูซูกิมาโดยตลอด ซูซูกินำเสนอสินค้าของเราในประเทศไทยซึ่งไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์ แต่ยังคงรวมถึงการบริการต่างๆ โดยมุ่งเน้นไปที่จิตใจของลูกค้าเป็นสำคัญซึ่งซูซูกิเราต้องการเป็นเพื่อนที่ดีของชีวิตลูกค้าคนไทยตลอดไป
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่า “ในปี 2558 ที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายรถยนต์ซูซูกิอยู่ที่ 21,285 คัน คิดเป็นยอดที่สูงขึ้น 5.5% สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 2.66% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ผ่านมา ที่ครองส่วนแบ่งตลาด 2.29% นับว่าเป็นความสำเร็จอีกครั้งของซูซูกิส่วนในปี 2559 นี้  ความกังวลจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัวยังคงมีอยู่บ้าง คาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายอุตสาหกรรมรถยนต์จะมีความใกล้เคียงกับปี 2558 แต่เรายังคงมองเห็นความสดใส     ซึ่งคาดว่าตลาดรถยนต์ไทยจะค่อยๆ ฟื้นตัวอันเนื่อง  ปัจจัยบวกจากการใช้จ่ายของภาครัฐ เม็ดเงินจากโครงการต่างๆ ที่จะทยอยเข้าสู่ระบบทำให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียน และราคาน้ำมันที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ซูซูกิ ยังคงเร่งพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ ตลอดจนเตรียมความพร้อมเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคคลากรให้มีความรู้และทักษะเป็นระดับสากลทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น  อีกทั้งซูซูกิยังคงมุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพของสินค้าและบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ  เพื่อสร้างความต่อเนื่องให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงแบรนด์ซูซูกิมากยิ่งขึ้น
สำหรับทิศทางการสื่อสารทางการตลาดตลอดปี 2559 ซูซูกิมุ่งชูกลยุทธ์ Sport Marketing เน้นส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านกีฬาโดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาประเภทฟุตบอล ซูซูกิยังคงมอบความสุขให้กับคอลูกหนังโดยเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการใน AFF Suzuki Cup ปี 2016 อีกทั้งซูซูกิจะเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อที่จะถ่ายทอดความเป็นซูซูกิให้ลูกค้าได้เข้าถึงมากยิ่งขึ้น นั่นคือ “คุณซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง” โค้ชฟุตบอลทีมชาติไทยที่ฮอตที่สุดในขณะนี้ ซึ่งเป็นผู้ที่นำทีมทัพนักเตะชาวไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์ AFF Suzuki Cup เป็นสมัยที่ 4 ในปี 2014 ซึ่งคุณซิโก้ได้ให้เกียรติมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ ซูซูกิเป็นปีที่ 2
คุณซิโก้ มีบุคลิกภาพเหมาะสมกับการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของซูซูกิ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับชาวไทยทั้งประเทศ อีกทั้งมีความเข้าใจและความมุ่งมั่นที่จะนำพาทีมไปให้ถึงจุดมุ่งหมายชัยชนะ เปรียบเสมือนซูซูกิ ที่มุ่งเน้นนำเสนอคุณภาพของการผลิตภัณฑ์และการบริการหลังการขายเพื่อให้ลูกค้ามีความสุขทุกเส้นทางไปกับรถยนต์ซูซูกิดังสโลแกนที่ว่า “Way Of Life” นั่นเองในปีที่ผ่านมาพลังของคุณซิโก้มีส่วนช่วยสื่อสารรถยนต์ ซูซูกิ เซียส ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และในปีนี้คุณซิโก้จะมีส่วนร่วมในแบรนด์ของเรามากขึ้นเช่นกัน
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนเรื่องสายการผลิตรถยนต์เพื่อขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซูซูกิยังคงดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยในปีที่ผ่านมา ซูซูกิส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 39,072 คัน จำหน่ายภายในประเทศจำนวน 21,285 คัน ซึ่งรถยนต์ซูซูกิ รุ่นเซเลริโอ้ เป็นรุ่นที่ส่งออกไปยังประเทศแถบยุโรปได้จำนวน 37,914 คัน ในด้านการบริการหลังการขายซูซูกิยังคงยึดแผนยุทธศาสตร์เสริมสร้างความเชื่อมั่นและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าซูซูกิ ภายใต้แนวคิด 3S คือ Sales, Service, Spare Parts นั่นคือ การแนะนำสินค้าที่มีคุณภาพอย่างเป็นธรรมควบคู่ไปกับการบริการอย่างประทับใจ จำหน่ายอะไหล่แท้จากผู้ผลิต  อีกทั้งมุ่งเน้นพัฒนาการบริการหลังการขายพร้อมบริการจัดส่งอะไหล่ภายใต้การบริการภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อตอบรับทุกความต้องการ ซึ่งซูซูกิทุ่มเทมาโดยตลอดกับการฝึกอบรมบุคลากรด้านการช่างให้กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของซูซูกิ เพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านการดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุดและต่อเนื่อง ตลอดจนโปรแกรมส่งเสริมหลังการขาย (บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง) ซึ่งในปีที่ผ่านมาซูซูกิมีศูนย์บริการที่ครอบคลุมจำนวน 99 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนเพิ่มเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการเป็น 110 แห่งทั่วประเทศไทย ภายในปี 2559 ทั้งนี้เพื่อยกระดับรองรับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มตัวของประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าคนพิเศษของเราได้รับผลิตภัณฑ์และการบริการดีที่สุดจากซูซูกิ”
##########################################################
premsak@caronline.net
Facebook Comments
Premsak Pianpanich

Recent Posts