Brand: MITSUBISHI Model: Galant
Year: 1996 Miles: 100001 – ขึ้นไป
From: นฤชิต วิมิตตะนันทกุล
หวัดดีครับ
ขอรบกวนสัก 2-3 คำถามนะครับ คือว่า เอารถไปเข้าศูนย์บริการแห่งหนึ่งเพื่อเช็คสภาพระยะ 10000 กิโล (ใช้มาแล้ว 180,000 กิโลครับ) แล้วพอดีรถมีปัญหาระบบไฟ และปัญหาน้ำมันเครื่องซึมจากตัวเครื่อง เลยให้ช่างวิเคราะห์และประเมินราคา
ช่างตรวจสอบแล้วแจ้งว่า
1. เรื่องไฟ เกิดจากไดชาจน์เสื่อม โดยเช็คจากการสตาร์ทเครื่อง แล้วลองถอดสายที่ต่อกับ Batt ออกหนึ่งเส้น รถก็ดับเลย ซึ่งต้องส่งไปซ่อม
อยากจะถามว่าวิธีนี้ เป็นวิธีการมาตรฐานในการตรวจสอบไดชาจน์หรือไม่ เพราะผมเพิ่งเปลี่ยน Batt ก่อนเอารถเข้าศูนย์มาสัก 1 อาทิตย์ เนื่องจากรถสตาร์ทไม่ติด แล้วช่างแถวบ้านบอกว่า Batt เสื่อม (เพิ่งเปลี่ยนได้ปีเดียวครับ บำรุงรักษาตามปกติ) โดยเช็คจากมิเตอร์วัดทั่วๆ ไป (ตกลงเขางอกเลยทีเดียว เปลี่ยน Batt ไปฟรีๆ )
ถ้าวิธีของช่างที่ศูนย์เป็นวิธีการมาตรฐาน ผมจะได้จำไว้ทดสอบเองบ้าง จะได้ไม่ต้องเสียรู้แบบนี้อีก เพราะรถรุ่นนี้ระบบไฟมีปัญหาบ่อยๆ
2. เนื่องจากน้ำมันเครื่องซึม ช่างที่ศูนย์เลยขอเปลี่ยนประเก็นชุดยกเครื่องทั้งหมด ราคาประมาณ 8,500 บาท โดยแจ้งว่ามันมาเป็นชุดเดียวกัน เมื่อแกะประเก็นเครื่องก็ควรต้องเปลี่ยนประเก็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเสียใหม่ทั้งหมด มันเป็นวิธีการมาตรฐาน แม้ว่าประเก็นเสื้อสูบ หรือประเก็นบางตัว จะยังใช้งานได้ก็ตาม
เนื่องจากราคามันค่อนข้างสูง สำหรับการเปลี่ยน ประเก็นอย่างเดียว และไม่มีรายละเอียดเลยว่ามันมีประเก็นอะไรในชุดนี้บ้าง เลยอยากจะรบกวนสอบถามความเห็นว่า ต้องเปลี่ยนตามที่ช่างแนะนำหรือไม่ครับ โดยขณะนี้ ผมให้เค้ารออยู่ โดยแจ้งว่าจะขอเข้าไปดูตอนเปลี่ยนด้วย เพื่อจะได้มีความรู้
3. ช่างแจ้งว่า เสื้อวาวน์น้ำผุตรงส่วนข้อต่อ และต้องเปลี่ยนทั้งชุด ไม่สามารถซ่อมได้ ผมเลยต่อรองว่าขอให้ใช้ของเดิมไปก่อน เพราะจะไปลองหาอะไหล่มือสองแถวเชียงกงมาเปลี่ยนแทน เพราะสู้ราคาอะไหล่ศูนย์ฯ ไม่ไหว
แต่ช่างแจ้งว่า ถ้าไม่เปลี่ยนก็จะประกอบเครื่องคืนไม่ได้ เพราะมันผุอยู่แล้ว และชำรุดตอนถอดออกมา และไม่แนะนะอะไหล่มือสองเนื่องจากเป็นชิ้นส่วนสำคัญของเครื่องยนต์ ถ้าเสียจะสังเกตได้ยาก และมีอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมมากกว่าค่าอะไหล่ที่ประหยัดได้
อยากรู้ว่าผมจะต้องเปลี่ยนของศูนย์ฯ เท่านั้น จริงหรือไม่ครับ
4. นอกจากรายการเหล่านี้ ก็ยังมีท่อสายอ่อนน้ำมัน ท่อระบายน้ำ ท่อยางน้ำ ท่อน้ำมันพาวเวอร์ และอีกสารพัดท่อ ที่ช่างแจ้งว่าเริ่มเสื่อมสภาพและต้องเปลี่ยน โดยแต่ละเส้นมีราคาขั้นต่ำเส้นละ 500 ขึ้นไปทั้งนั้น ผมเลยสอบถามไปทางร้านที่จำหน่ายอะไหล่รถแถววรจักร เค้าบอกว่า มันไม่ใช่ท่อที่ต้องดัดหรือโค้ง หรือต้องทนความร้อนเป็นพิเศษ ไม่ต้องเปลี่ยนของแท้ก็ได้ เอาออกมาให้ช่างตามอู่ทำจะถูกกว่า เพราะสามารถหาท่อสายยางทั่วๆ ไป มาประยุกต์ใช้ทดแทนกันได้ ควรเปลี่ยนเฉพาะท่อที่เห็นว่าเมื่อประกอบเข้าไปแล้วต้องอยู่ในสภาพดัด โค้งหรือต้องมีความแข็งแรงเป็นพิเศษสำหรับส่วนนั้นจริงๆ
คำถามคือ ผมต้องตัดสินใจตามคำแนะนำไหนถึงจะถูกครับ ภายใต้เงื่อนไขงบประมาณแบบพร้อมจะเปลี่ยนตามความจำเป็น (โดยส่วนตัวไม่รู้จักสักท่อเลยครับ ว่ามันเป็นอะไร ต่อจากไหนไปไหน เห็นรายการแล้วตาลาย)
5. ของเหลวทั้งหลายในรถ ผมใช้ของมิตซูฯ (แม้จะอยากเปลี่ยนมาใช้ของ Shell ก็ตาม) แต่น้ำมันเครื่องผมซื้อไปให้เขาเปลี่ยนให้ โดยใช้น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ของ Shell (ขวดสีเขียวๆ น่ะครับ) ไม่ทราบว่าจะเหมาะสมไหม จะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ (แต่ช่างไม่ได้ค้านหรือแนะนำอะไรนะครับ)
รบกวนคุณอาช่วยกรุณาให้คำแนะนำหน่อยนะครับ ผมไม่มีความรู้เรื่องรถมากนัก และเท่าที่ช่างประมาณราคามาให้ในตอนนี้ ค่าใช้จ่ายปาเข้าไป 96,000 บาทแล้วครับ เฉพาะค่าแรงก็ 5,500 แล้วครับ (ต้องกินแกลบไปอีกหลายเดือนเลย)
ป.ล. ขอบ่นนิดเดียว เดี๋ยวนี้ เอารถเข้าศูนย์ฯ ไหน ก็ไม่มีใบสั่งซ่อมเลยสักแห่ง มีแต่ใบแจ้งประเมินราคา สอบถามแล้วก็บอกว่าใช้วิธีนี้กันมานานแล้ว ไม่ได้จำเป็นต้องมีใบสั่งซ่อม ไม่ทราบว่า เรามีหน่วยงานรัฐหน่วยงานไหน ดูแลเรื่องนี้กันบ้างไหมครับ หรือต้องรอให้เสียหาย เสียความรู้สึกกันก่อน แล้วค่อยไปฟ้อง สคบ. กันเอาเอง
1-ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเวลาเช็กแอลเทอร์เนเตอร์นี่ ผมจะใช้มัลติมิเตอร์เช็กอ่านค่า หรือตอนนี้ ผมเช็กด้วยสแกนเนอร์ เพื่อดูอัตราชาร์ทของแอลเทอร์เนเตอร์เลย ขนาดผมไม่ใช่ช่างศูนย์ ผมยังเช็กด้วยเครื่องมือ และอุปกรณ์ทันสมัยกว่าศูนย์เลยหรือนี่
อายศูนย์บริการไหมครับ ผมน่ะ ฮ่า ฮ่า
2-เป็นผม ผมเอารถออกมาจากศูนย์บริการงี่เง่านั่น แล้วไปซ่อมตามอู่ข้างถนนดีกว่า ตรงไหนรั่ว ก็เปลี่ยนตรงนั้น ไม่ต้องเปลี่ยนหมด เดี๋ยวเถิด เดี๋ยวได้บานปลายออกไปอีกจนได้
3-ไม่จำเป็นครับ ใช้ของใช้แล้วได้ เวลาเสียก็แค่น้ำไหลออกมาให้เห็น เราก็เปลี่ยนใหม่เท่านั้นเอง
4-ร้านอะไหล่แนะนำถูกต้องแล้วครับ อะไหล่ท่อน้ำมีอยู่ชิ้นเดียวที่จำเป็น ก็คือท่อน้ำตัวล่าง ที่มีความโค้ง และมีสปริงอยู่ภายในท่อ ต้องมีความแข็งแรง ไม่บีบตัวเมื่อน้ำถูกดูดเข้าเครื่องยนต์ ตัวเดียวเท่านั้นแหละที่สำคัญ
ส่วนท่ออ่อนนี่ ท่ออะไรครับ ท่อน้ำมันเบรกหรือ ยังไม่ต้องเปลี่ยน เอาไปให้ร้านเบรก กิจเจริญชัย ของผมทำให้ดีกว่า ง่ายดีครับ
5-เอารถออกมาจากศูนย์เถิดครับ แล้วเอาไปซ่อมตามอู่ เพราะค่าซ่อมเก้าหมื่นกว่าน่ะ ซ่อมได้ทั้งเปลี่ยนเครื่องยนต์ กับเปลี่ยนสีรถทั้งคันเลยนะครับ
ของเหลวที่ควรจะใช้ของมิตซูบิชิ ก็มีแค่น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ถ้ารถของคุณเป็นเกียร์อัตโนมัติ ใช้น้ำมันไดอะควีนเท่านั้นแหละครับ นอกนั้นใช้ของอะไรที่ราคาเหมาะสมประหยัดกว่าก็ได้ถมเถไป อย่าให้มิตซูบิชิขูดรีดคุณนักเลย แย่ชะมัด-ธเนศร์