Brand: TOYOTA Model: Soluna
Year: 2003 Miles: 5001-20000
From: พรเทพ ตันติศุภกรสกุล
: Vios
รถผม Toyota Vios เกียร์ออโต้ ขับได้ 12200 กิโล ออกรถเมื่อปี ม.ค. 2003 พอดีรถผมโดนมอเตอร์ไซค์ชนตรงล้อหน้าขวา ซึ่งทางศูนย์ Toyota Body TBS ได้ทำการตรวจสอบและเปลี่ยน ลูกหมากหัวแห้ว ปีกนกล่างหน้าขวา โชคอัพหน้าขวา ลูกปีนล้อหน้า น๊อตตั้งศูนย์ล้อ 2 จุด
ยางหน้าขวา และทำการตั้งศูนย์ ส่วนเพลาขับกับครัทซ์ C ไม่มีปัญหาซึ่งผมไม่ทราบว่าเขาเช็คดีไหม แล้วควรจะตรวจสอบอย่างไร
สิ่งที่ผมจะรบกวนคุณอา คือสิ่งที่บอกมาข้างต้นเปลี่ยนเฉพาะล้อขวา หน้าอย่างเดียวนะครับ
คือ 1. ยางด้านซ้ายผมควรเปลี่ยนด้วยหรือไม่ครับ ทางศูนย์บอกว่าไม่จำเป็นเพราะยางยังมีสภาพดีและถ้าผมเปลี่ยนยางซ้ายแล้ว ผมจะต้องสลับยางหน้าหลังตอน 20,000 กิโล อีกไหมครับ
2. โชคอัพเปลี่ยนข้างเดียวได้ด้วยหรือครับ ทางศูนย์ก็บอกเหมือนกันว่าด้านซ้ายยังมีสภาพดีอยู่เพราะยังเป็นรถใหม่แค่ 1 ปี และขับได้แค่ 12,200 กิโล ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างที่ทางช่างบอกหรือไม่
3. ผมกังวลว่าเปลี่ยนอะไหล์ขนาดนี้จะทำให้รถมีอายุใช้งานสั้นลงจากเดิมหรือไม่ได้มาตราฐาน หรือจะมีปัญหาตามมาในอนาคตไหมครับ จากที่ทดลองขับมาได้ 2 – 3 วัน ก็ยังดูเหมือนเดิมครับ
4. ผมควรจะสังเกตความผิดปกติของรถผมได้อย่างไรบางครับในส่วนของช่วงล่างและยาง ช่วยสอนวิธีผมหน่อยครับคุณอา ผมเครียดมากเลยเพราะรถก็ซื้อมาเป็นเงินหลายแสน แทบเป็นเงินที่เก็บซึ่งมีไม่มากด้วยก็เลยต้องการรักษาดูแลให้ใช้ได้นาน ๆ ครับ
ยางหน้าขวาฉีกนิดหน่อยแต่ยังพอขับมาที่ศูนย์ได้
รบกวนคุณอา ด้วยครับ ขอบพระคุณมากครับ
พรเทพ
1-ศูนย์เห็นรถ เห็นยาง และผมดูจากแค่ระยะใช้งาน ก็ต้องฟังศูนย์ครับ ส่วนเรื่องสลับยาง ผมไม่สลับแล้ว ไม่ว่าเมื่อไร เพราะยางตอนนี้ สึกยากมากหรือไม่ค่อยสึก ใช้ไปจนหมดสภาพแล้วผมเปลี่ยนทิ้งเลย ไม่เสียเงินสลับยาง ไม่เสียเวลาดีด้วย
2-ก็เหมือนกับทางศูนย์บอกละครับ ทำไมจะไม่ได้ ก็จะเปลี่ยนมันข้างเดียวแหละน่า และนี่ก็เปลี่ยนไปแล้ว ใช้รถได้ไหมล่ะครับ
3-ปัญหาในอนาคตน่ะมีแน่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะมาจากสาเหตุไหน คุณจะมัวไปพะวงถึงอนาคตอยู่แล้วจะใช้รถได้หรือนั่น อย่ากังวลอะไรมากเลยครับ จะไม่สบายไปเปล่าเปล่า
4-คุณจะไปมัวจับสังเกตอาการอะไรของรถไปทำไม ใช้ได้ดี ก็พอแล้ว จำอาการใช้ได้ดีเอาไว้ เมื่อไรมีอาการผิดปกติไปก็เอาไปเข้าศูนย์เสียเท่านั้น อย่าวิตกวิจารณ์มากเลย เสียอารมณ์ เสียหัว เสียสมองไปเปล่าเปล่า เอาเวลาเอาหัวคิดเอาความกังวลไปใช้กับงานหาเงินมาจ่ายค่าใช้รถดีกว่ากระมัง
มัวแต่เครียด ผมว่า ไม่สนุกหรอก อย่าใช้รถเลย หากใช้แล้วจะเครียด ไม่ว่าด้วยสาเหตุใด รถยนต์เขามีไว้ให้ใช้สบายใจ เดินทางสะดวก เอามาใช้แล้วเครียดก็ขายไปเถิดครับ แล้วขึ้นรถโดยสารสาธารณะ หรือเดินเอา สบายใจกว่า จริงไหม