ในอังกฤษ ผู้บริโภค ให้ความนิยมรถคอมแพค ครอสโอเวอร์ หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็เป็นรถประเภท ซูเปอร์มินิ ที่ทำเป็นเอสยูวี โดยมีรถจำหน่ายในอังกฤษราว 20 รุ่น
โดยมิติ จู๊ค กว้างขึ้น 35 มม. ยาวขึ้น 75 มม. แต่ระยะช่วงล้อเพิ่มขึ้น 105 มม. แต่น้ำหนักตัวกลับลดลงไป 23 กก. เพราะใช้วัสดุชนิดเบาในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งใช้ร่วมกับสหกรณ์ ในชื่อ ซีเอ็มเอฟ-บี CMF-B ร่วมกับ เรโนลต์ แคปเจอร์ รวมทั้งได้พื้นที่ในห้องโดยสารเพิ่มมากขึ้น
หนนี้ จู๊ค ทำไฟส่องสว่างหน้า เป็น แอลอีดี ในแบบกลม แต่ลดระดับลงมาอยู่เหนือกันชนหน้า พร้อมกระจังหน้ารูปตัววาย ส่วนไฟเดินทางกลางวันยกไว้ด้านบน แนวเรียว พร้อมทั้งเปลี่ยนไฟเบรกหลัง
การตลาดสำหรับเจเนอเรชั่นที่ 2 นี้ มีสีให้เลือก 11 สี กะทะล้อมีตั้งแต่กะทะเหล็ก 16 นิ้ว ไปจนถึงอัลลอย 19 นิ้ว โดยรุ่นท้อป ใช้สีหลังคาที่แตกต่างกับสีตัวรถ ส่วนสีภายใน มีให้เลือก สีส้ม, ขาว หรือ ดำ พร้อมเบาะหนัง
รุ่นท้อป ติดตั้งจอทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้ว สำหรับระบบให้ความบันเทิง แต่หนนี้ไม่มีการแสดงผลที่กระจกบังลมหน้า แต่เพิ่ม ไว-ไฟ พร้อมแผนที่ ทอมทอม TomTom ที่แสดงสภาพการจราจรทันทีทันควัน และรับฟังคำสั่งเสียง ด้วยการใช้กูเกิ้ล เป็นตัวช่วย รวมทั้งสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่น สั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนด้วย
ด้านความปลอดภัย มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ด้วยระบบ โปรไพล็อต ProPILOT ของนิสสัน เอง ที่สามารถควบคุมคันเร่ง เบรก ตรวจสอบคนเดินถนนและจักรยาน ขณะเดินทางอยู่ในเลนเดียว พร้อมทั้ง ออโตเมติค อีเมอร์เจนซี่ เบรก ระบบจดจำป้ายจราจร ควบคุมการเปลี่ยนเลน ระบบเตือนการจราจร ตัดผ่าน ตรวจสอบจุดบอด
จู๊ค จะออกจำหน่ายในอังกฤษ เดือนพฤศจิกายน นี้ ด้วยราคาเริ่มต้น คันละ 17,395 ปอนด์ ราว 695,000 บาท แต่ยังไม่ทราบว่าจะเดินทางมาถึงประเทศไทยได้เมื่อไร เพราะตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างผลัดใบ เขย่าผู้บริหารและผู้จำหน่ายให้เข้าที่
อีซูซุส่งเครื่อ…