จีเอ็ม ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเปิดศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลมูลค่า 6,000 ล้านบาท (200 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในจังหวัดระยองอย่างเป็นทางการ เสริมศักยภาพการผลิตร่วมกับศูนย์การผลิตรถยนต์ของจีเอ็มที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการลงทุนที่มีมูลค่าสูงสุดของ จีเอ็ม ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแห่งนี้มีพื้นที่ 54,275 ตารางเมตรหรือราว 34 ไร่ นับเป็นศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัดแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นแห่งแรกในโลกที่จะผลิตเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ใหม่ล่าสุดในตระกูลดูราแมกซ์ (Duramax)
ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 120,000 เครื่องยนต์ต่อปี ศูนย์การผลิตฯ ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่สามารถรองรับการปรับเปลี่ยนแผนการผลิตสำหรับใช้ในยานยนต์ที่ผลิตในประเทศไทย และส่งออกไปในอีกหลายประเทศทั่วโลก จีเอ็ม คาดการณ์ว่า ภายในปี 2555 จะสามารถสร้างเม็ดเงินได้ราว 2,800 ล้านบาท (94 ล้านเหรียญสหรัฐ) จากการใช้ชิ้นส่วนและการบริการที่เกี่ยวข้องภายในประเทศเพื่อการผลิตเครื่องยนต์รุ่นนี้
เครื่องยนต์ดีเซลเครื่องแรกที่ออกจากสายการผลิตจะถูกติดตั้งอยู่ในรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาด้านวิศวกรรม และผลิตโดยศูนย์การผลิตรถยนต์ของจีเอ็ม ในจังหวัดระยองแห่งนี้เช่นกัน
ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลของจีเอ็มแห่งนี้ เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์สำคัญเพื่อการเติบโตและก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ระดับโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยก่อนหน้านี้ จีเอ็ม ได้ประกาศการลงทุนมูลค่า 4,500 ล้านบาท (150 ล้านเหรียญฯ) เพื่อเปิดดำเนินการศูนย์การผลิตรถยนต์เบกาซี ในอินโดนีเซียอีกครั้ง รองรับการผลิตรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในงานแถลงข่าวเปิดศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม มร.ไมเคิล แอล.แมคกี ที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์จากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานมากมาย ทั้งพนักงานจีเอ็ม ประเทศไทย ผู้แทนจำหน่ายรถเชฟโรเลต คู่ค้า ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งได้รับการต้อนรับจากมร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
จีเอ็ม มีความมุ่งมั่นที่จะเติบโตและขยายการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” มร.แอพเฟล กล่าว “ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลของเราแห่งนี้ เป็นไปตามปณิธานที่ให้ไว้ นั่นคือ การพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทรงประสิทธิภาพ และเปี่ยมด้วยสมรรถนะเพื่อลูกค้าของเรา”
มร.แอพเฟล กล่าวเพิ่มเติมว่า “การผลิตเครื่องยนต์ในประเทศไทย ตอกย้ำคำมั่นของเราที่ต้องการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมการเติบโตของจีเอ็มในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป ขณะเดียวกัน ยังเป็นสัญญาณที่ดีที่ชี้ว่าอุตสาหกรรมภายในประเทศมีประสิทธิภาพ และเรามีความเชื่อมั่นอย่างมาก”
การผลิตด้วยเทคโนโลยีก้าวล้ำ
ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งนี้จะดำเนินงานด้วยพนักงานจำนวน 500 คนภายในสิ้นปีนี้ ทำการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ผสมผสานระบบคอมพิวเตอร์และเลเซอร์ที่มีความแม่นยำสูง เพื่อคุณภาพที่ดีเยี่ยม ขณะเดียวกัน ยังมีความสามารถผลิตเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตรสลับกันได้ตามความต้องการของตลาดในขณะนั้น
ศูนย์การผลิตฯ แห่งนี้ ยังใช้เทคโนโลยีควบคุมให้ปราศจากฝุ่นละออง และควบคุมอุณหภูมิและความชื้นเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมอย่างสูงสุดต่อการทำงาน
นอกจากนี้ จีเอ็ม ประเทศไทย ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งการดำเนินงานของศูนย์การผลิตฯ ซึ่งรวมถึงการใช้ระบบแสงไฟที่ประหยัดพลังงานกว่าเดิม 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับระบบทั่วไป
ก่อนหน้าการเปิดศูนย์การผลิตฯอย่างเป็นทางการ จีเอ็ม ได้ทดสอบการผลิตอย่างเข้มข้นเป็นระยะเวลากว่า 9 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถผลิตเครื่องยนต์ตามมาตรฐานสูงสุดที่วางไว้ ตั้งแต่วันแรกที่เปิดดำเนินการ
ดูราแมกซ์” ที่สุดแห่งเทคโนโลยีดีเซล
เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูลดูราแมกซ์ ใช้ฝาสูบอลูมิเนียม เพลาราวลิ้นเหนือฝาสูบ พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ เพียบพร้อมด้วยคุณภาพและความทนทานสูงสุด
ไม่เพียงจะได้รับการพัฒนาให้มีแรงบิดสูงสุดในเครื่องยนต์ระดับเดียวกัน รวมทั้งทนทาน และประหยัดน้ำมันเท่านั้น แต่เครื่องยนต์ดูราแมกซ์ 4 สูบรุ่นนี้ ยังผ่านการทดสอบอย่างถึงขีดสุดในทุกสภาวะการขับขี่ ทั้งในแอฟริกา เอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสียยูโร 4 และรองรับทั้งระบบเคลื่อนสองล้อหน้า และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
นอกจากนี้ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร ยังผ่านกระบวนการพัฒนาและทดสอบแบบเดียวกันกับเครื่องยนต์ดูราแมกซ์ เทอร์โบดีเซลขนาด 6.6 ลิตรที่จำหน่ายอยู่ในอเมริกาเหนือเวลานี้ มีความโดดเด่นที่สมรรถนะอันยอดเยี่ยม พร้อมกับมีชื่อเสียงในด้านความทนทาน และรองรับการใช้งานในทุกสภาวะ โดยมียอดจำหน่ายนับตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบันรวมทั้งหมดถึง 1.3 ล้านเครื่อง
ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแห่งนี้ ทำให้เม็ดเงินลงทุนในประเทศไทยของจีเอ็ม นับตั้งแต่ปี 2541 มีจำนวนทั้งหมดอยู่ที่ 39,000 ล้านบาท (1,300 ล้านเหรียญฯ)
เกี่ยวกับ เจนเนอรัล มอเตอร์ส
เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2451 มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ จีเอ็ม มีพนักงาน 202,000 คนในมากกว่า 120 ประเทศทุกในภูมิภาคทั่วโลก จีเอ็ม มีฐานการผลิตรถยนต์ และรถปิกอัพอยู่ใน 30 ประเทศ และจำหน่ายรถแบรนด์ที่มีชื่อเสียง อย่าง บูอิค คาดิลแลค เชฟโรเลต เอฟเอดับเบิลยู จีเอ็มซี จีเอ็มแดวู โฮลเด้น โอเปิล วอกซ์ฮอลล์ และวูหลิง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม อยู่ในสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยจีน บราซิล เยอรมนี สหราชอาณาจักร แคนาดา และอิตาลี แผนกออนสตาร์ของจีเอ็ม นั่นถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมความปลอดภัย และการให้บริการข้อมูลในรถยนต์ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ดำเนินงานแทนเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจีเอ็ม ใหม่ คลิกเข้าชมได้ที่ www.gm.com
thunyaluk@caronline.net
New US$200 Million Diesel Engine Facility Deepens
GM’s Manufacturing Footprint in Thailand and Southeast Asia
Rayong, Thailand – General Motors today opened a new state-of-the-art diesel engine plant in Rayong, Thailand. The USD 200 million (THB 6 billion) facility, which is adjacent to the automaker’s vehicle manufacturing plant, represents GM’s most significant powertrain investment in Southeast Asia.
The new 34-rai (54,275-square-meter) facility, GM’s first diesel engine plant in the region, is the first-in-the-world to produce the all-new family of Duramax four-cylinder diesel engines.
The highly flexible plant has the capability to manufacture approximately 120,000 engines per year for use in vehicles built in Thailand and other global markets. GM expects to source USD 94 million (THB 2.8 billion) worth of Thai-built components for the production of engines at its Rayong facility, by 2012.
The first engines to be manufactured by the facility will be installed in the all-new Chevrolet Colorado pickup that will be produced in Rayong following engineering development work and retooling of the vehicle assembly line.
GM Thailand’s new powertrain facility is a key component of the automaker’s Southeast Asia growth strategy. GM’s goal is to become a leading manufacturer of world-class vehicles and engines throughout the region.
The opening of the facility comes a month after GM announced that it will invest USD 150 million (THB 4.5 billion) in the reactivation of its Bekasi manufacturing facility in Indonesia for production of a new line of people movers for Southeast Asian markets. The new powertrain facility takes GM’s investment in Thailand to USD 1.3 billion (THB 39 billion) since 1998.
GM Southeast Asia President Martin Apfel was joined by Dr. Witoon Simachokdee, Permanent Secretary, Ministry of Industry, Government of Thailand, and Michael L. McGee, Commercial Counselor, U.S. Embassy Bangkok, for the inauguration of the new plant. GM Thailand employees, local GM dealers, suppliers and the media were also present.
“GM is committed to growing our footprint and business throughout Thailand and Southeast Asia,” said Apfel. “Our engine plant will enable us to deliver on our promise of bringing cleaner, more efficient and higher-performance diesel engine technology to our customers.”
He added, “Producing engines locally strengthens our commitment to the development of a strong Thai automotive industry, which can help guide the growth of the entire Southeast Asian region. It is also a sign of the excellent talent in the local industry and our faith in their capability.”
High-Tech Manufacturing Facility
The new powertrain facility, which will have 500 employees by the end of the year, has a compact manufacturing footprint. It has adopted cutting-edge computer and laser-guided equipment to enhance precision and ensure high build quality. It is extremely flexible, with the ability to switch between production of 2.5-liter and 2.8-liter engine variants in line with changing market demand.
The plant has adopted technologies to keep the facility dust free and is fully climate controlled to manage humidity and create the most suitable environment for quality engine production.
GM Thailand has also employed advanced environmental-protection processes throughout the facility, including using lighting that consumes 40 percent less energy compared with regular systems.
Prior to opening, the facility was subjected to nine months of intense validation to help guarantee the optimum level of production and the best quality from day one.
Duramax Diesel Technology
The newly developed 2.5-liter and 2.8-liter diesel engines are the newest members of the Duramax truck-engine family. They feature overhead cams, turbocharging and durable aluminum cylinder heads for high levels of refinement and durability.
Designed to offer class-leading torque, reliability and excellent fuel economy, the four-cylinder Duramax engines were tested in extreme conditions in Africa, Asia, Europe, North America and South America. They meet the advanced Euro IV emission standard and can be used in front-, rear- or all-wheel-drive applications.
Additionally, they were subjected to the same rigorous validation process as the Duramax 6.6-liter turbo diesel, which is sold primarily in North America. The larger Duramax engine is renowned for its high performance and enjoys a solid reputation for reliability and durability. More than 1.3 million Duramax 6.6-liter engines have been sold since 2001.
# # # # #
About General Motors – General Motors (NYSE:GM, TSX: GMM), one of the world’s largest automakers, traces its roots back to 1908. With its global headquarters in Detroit, GM employs 202,000 people in every major region of the world and does business in more than 120 countries. GM and its strategic partners produce cars and trucks in 30 countries, and sell and service these vehicles through the following brands: Baojun, Buick, Cadillac, Chevrolet, GMC, Daewoo, Holden, Isuzu, Jiefang, Opel, Vauxhall, and Wuling. GM’s largest national market is China, followed by the United States, Brazil, the United Kingdom, Germany, Canada, and Italy. GM’s OnStar subsidiary is the industry leader in vehicle safety, security and information services. More information on the new General Motors can be found at www.gm.com.
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…