ข่าวรถยนต์ ฮุนไดเปิดตัว Grand Starex ไมเนอร์เชนจ์ และ Tucson ไมเนอร์
ข่าวรถยนต์ เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์ฮุนไดอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เดินหน้ายกระดับมาตรฐานความหรูหรา และความสะดวกสบายของ Luxury MPV รุ่นขายดี The New Hyundai Grand Starex ด้วยเวอร์ชั่นที่ปรับปรุงในแบบไมเนอร์เชนจ์ที่โดดเด่นทั้งภายนอก และภายใน นอกจากนี้ยังทำการเปิดตัว Hyundai Tucson รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เทอร์โบดีเซลในแบบไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งเป็นผลงานการพัฒนารถยนต์เพื่อให้โดดเด่นกว่าเดิมจากค่ายรถที่เติบโตเร็วที่สุดค่ายหนึ่งของโลกในเวลานี้
The New Hyundai Grand Starex ไมเนอร์เชนจ์ ปรับเปลี่ยนภายนอกให้สวยงาม โดดเด่น และมีรสนิยมกว่าเดิม ภายในยกระดับคุณภาพและความหรูหราจากวัสดุที่เลือกใช้ให้น่าประทับใจกว่าเดิมซึ่งเป็นการเอาใจผู้ใช้รถยนต์ระดับไฮเอนด์ของไทยที่มีรสนิยมที่โดดเด่นและมีระดับในแบบของตัวเอง นอกจากนี้ในรุ่น The New Hyundai Tucson 2.0D 4WD ไมเนอร์เชนจ์ ยังมาพร้อมความใหม่ต่างๆ อาทิ เช่น เครื่องยนต์เทอร์โบ ดีเซล ใหม่ให้แรงม้าสูงสุดที่ดีกว่าเดิมเป็น 184 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแท้ๆ ไฟหน้าแบบ HID projector ไฟท้ายแบบ LED เครื่องปรับอากาศแบบ อัตโนมัติ dual zone แยกซ้ายขวา พร้อมเครื่องฟอกอากาศ เบาะนั่งด้านหลังปรับเอนนอนได้ ทั้ง Hyundai Grand Starex ไมเนอร์เชนจ์ และ Tucson 2.0D 4WD ไมเนอร์เชนจ์ คาดว่าจะเป็นที่สนใจของผู้ใช้รถระดับไฮเอนด์ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 มีนาคม ถึง 6 เมษายนศกนี้
ประธานบริษัทฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด มร. ฮิเดกิ ยานากิซาวา เปิดเผยว่า “ทั้งรุ่น Grand Starex VIP และ Premium ได้รับการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในครั้งนี้เพื่อเป็นการเติมเต็มบุคลิกให้กับรถยนต์ MPV ระดับบนให้เป็นที่ถูกใจ และรองรับรสนิยมของผู้ใช้รถยนต์ระดับบนให้มากขึ้น ซึ่งความชัดเจนในการออกแบบ และวัสดุคุณภาพคือประเด็นสำคัญในการตอกย้ำความสบายที่ลูกค้าจะได้รับ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคระดับบน หรือแม้แต่ผู้บริหารระดับสูงซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของ Grand Starex ทั้ง 2 รุ่น ก็ให้การตอบรับรถธงจากฮุนไดมาด้วยดีตลอด นับตั้งแต่ทำการเปิดตัวสู่ตลาดครั้งแรกในช่วงปลายปี 2553 ซึ่งลูกค้าของฮุนไดมีความชัดเจนในเรื่องของความต้องการในการเดินทางที่เน้นความสบาย ความมีรสนิยม และความอุ่นใจในการใช้งาน และเป็นเจ้าของ โดยในส่วนนี้หลายๆท่านอาจจะไม่ทราบว่ารถยนต์ฮุนไดประสบความสำเร็จในการปลุกกระแสของแบรนด์ในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาด้วยการนำรถยนต์ที่เน้นคุณภาพ และบริการหลังการขายที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงการนำเสนอความคุ้มค่าคุ้มราคาที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน ผ่านรถยนต์รุ่นต่างๆ อาทิ เช่น Hyundai H-1 Series และ Hyundai Grand Starex ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดของบริษัทในปัจจุบัน”
“รถยนต์ Hyundai Grand Starex VIP เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยในปี 2553 เพื่อรองรับความต้องการในการใช้รถ Luxury MPV ที่เหนือกว่าเดิม ด้วยพื้นที่ส่วนตัวที่มากกว่าในแบบ 7 ที่นั่งแท้ๆจากโรงงาน เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอ็นด์ที่ต้องการความสบายที่มากกว่ารุ่น 11 ที่นั่ง และความหรูหราที่รองรับผู้ใช้รถซีดานหรูจากค่ายยุโรปได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งนอกจากที่กล่าวมาแล้วนี้ สิ่งที่ลูกค้าได้รับจากการเดินทางใน Hyundai Grand Starex VIP คือ ความสบายในทุกความเร็วการเดินทางด้วยตัวถังนิรภัย และความเป็นรถยนต์แบบ Full-Size MPV และราคาของรถที่สมเหตุสมผล และชัดเจนในเรื่องของความคุ้มค่า ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ Hyundai Grand Starex VIP ได้รับความนิยมโดยทันทีในหมู่ผู้บริหาร และบุคคลระดับผู้นำของสังคมที่ชัดเจนในเรื่องของความสะดวกสบาย และความหรูหรามีระดับ ในปี 2555 บริษัทฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ได้ทำการเปิดตัว Grand Starex Premium เพื่อรองรับความต้องการที่แตกแยกย่อยออกไปจากกลุ่มผู้ใช้รถที่เป็นครอบครัวระดับไฮเอนด์ที่เจ้าของขับขี่เอง ด้วยความโดดเด่นของพื้นที่ห้องโดยสารที่ต่อเนื่องยาวตลอดไร้สิ่งกีดขวาง และพื้นที่ ความสบายส่วนตัว ที่มากกว่าในรุ่น VIP โดย Hyundai Grand Starex ทั้ง 2 รุ่น ทำยอดขายรวมไปแล้วตั้งแต่เปิดตัวสูงถึง 2,400 คัน” มร. ยานากิซาวา กล่าว
The New Hyundai Grand Starex VIP และ Premium ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมกระจังหน้าใหม่ ลายโครเมี่ยมแบบเดียวกัน กันชนหน้าแบบลักชัวรี่ กึ่งสปอร์ต กันชนหลังดีไซน์ใหม่ และกาบข้างแบบสีโทนเดียวแบบสเกิร์ตในตัว พร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วลายใหม่หรูและทันสมัยกว่าเดิม ซึ่งนับว่าเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ Full-Size MPV แบบ 7 ที่นั่ง โดยเครื่องยนต์ยังเป็นแบบเดิมที่ให้ความไว้วางใจได้สูงสุดกับสมรรถนะจากระบบดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2,500 ซีซี และระบบเทอร์โบดีเซลแบบแปรผัน VGT ที่ให้แรงม้าสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 441 นิวตัน-เมตร ที่รอบความเร็ว 2,000 – 2,250 รอบต่อนาที ให้การขับขี่ที่คล่องตัว และประหยัดผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่มี Sequential Shift Mode ส่งกำลังไปยังล้อหลังที่ยึดเกาะถนนด้วยช่วงล่างแบบ แม็คเฟอสันสตรัทในด้านหน้า และมัลติลิงค์ยึด 5 จุด ในด้านหลังที่ทนทานให้รับแรงสะเทือนได้นุ่มนวล
ในรุ่น VIP โดดเด่นที่สุดคือเคาน์เตอร์สไตล์ใหม่ที่ออกแบบมาให้ดูมีรสนิยมแบบ European Styling มากขึ้นด้วยการออกแบบใหม่หมดในทุกสัดส่วน เพิ่มความหรูหราด้วยวัสดุลายไม้สีเทาเข้ม Dark Wood และการเลือกสรรวัสดุที่มีคุณภาพและความทนทานมากขึ้นจนรู้สึกได้ถึงเกรดของรถยนต์เมื่อได้สัมผัสภายในห้องโดยสาร นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มสเป็คของอุปกรณ์ความบันเทิงที่ใช้ คือ จอ LCD เพิ่มขึ้นจากขนาด 19 นิ้วเป็น 22 นิ้ว แบบ Full-HD และเครื่องเสียงจาก Kenwood ที่เพิ่มคุณภาพเสียงให้เหนือระดับขึ้นไปกว่าเดิม และสำหรับในรุ่น Premium ความลงตัวยังคงอยู่ที่พื้นที่ความสบายส่วนตัวที่กว้างขวางกว่าแบบไร้อุปสรรคตลอดห้องโดยสารตั้งแต่ตอนหน้า บริเวณคนขับยาวตลอดไปจนถึงที่นั่งแถวสุดท้ายที่มาพร้อมเบาะหนังแท้ลายใหม่หรูหรากว่าเดิม และเบาะ Super VIP (มีในทั้ง 2 รุ่น) ที่ติดตั้งบนรางเลื่อนนิรภัยปรับเลื่อนได้อย่างมันใจ และปรับเอนนอน พร้อมที่รองขาได้ด้วยเพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งในรุ่นใหม่นี้มีหมอนรองศีรษะดีไซน์ใหม่แบบ Butterfly ที่ให้ความสบาย และรองรับศีรษะได้ดีกว่าเดิม
“ในส่วนของข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัว และราคา Hyundai Grand Starex VIP และ Premium ในแบบไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวในราคา 1,978,000 บาท และ 1,928,000 บาท ตามลำดับ โดยมีประกันภัยชั้น 1 พร้อมข้อเสนอมอเตอร์โชว์ เพื่อเอาใจลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่ต้องการความสบายที่เหนือกว่าในราคาที่ไม่ถึง 2 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ และที่โชว์รูมฮุนไดทั้ง 24 แห่งทั่วประเทศ” ประธานบริษัทฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) กล่าว พร้อมเสริมว่า “บริษัทฯตระหนักถึงความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในการใช้รถยนต์ Luxury MPV ของผู้บริโภคในประเทศไทย และก็มั่นใจด้วยว่าการเปิดตัวของ Grand Starex ไมเนอร์เชนจ์ ที่มีการเติมเต็มในหลายๆจุด จะทำให้ลูกค้าระดับบนทบทวนการเลือกซื้อรถ และหันมาสัมผัสกับความสบายในราคาที่คุ้มค่ากว่าจาก Grand Starex ทั้ง 2 รุ่น ที่โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ที่ทนทาน และมีสมรรถนะ และห้องโดยสารที่ให้ความสบายอย่างเต็มที่”
ในส่วนของ The New Hyundai Tucson 2.0D 4WD ไมเนอร์เชนจ์ ที่เปิดตัวพร้อมๆกับ Grand Starex นั้น คือผลงานการพัฒนารถยนต์ที่เป็นการ “เติมเต็ม” ในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก อุปกรณ์ความสบายต่างๆ และสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ขยับขึ้นไปอีกระดับจาก 177 แรงม้า เป็น 184 แรงม้า ที่แรงบิดเท่าเดิมที่ 392 นิวตัน-เมตร จากเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี เทอร์โบดีเซล คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น และเมื่อประกบกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แท้ๆ พร้อม Sequential Shift Mode ก็ยิ่งให้อัตราเร่งที่ดีขึ้น ในขณะที่ประหยัดในแบบที่สัมผัสได้เมื่อเลือกขับขี่อย่างเหมาะสม ภายนอกโดดเด่นมากๆกับ ไฟหน้าใหม่ที่เป็นแบบ Bi-Function HID Projector ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และล้ำสมัย ในขณะที่ไฟท้ายดูดีมากด้วยการเลือกใช้ LED ในรูปแบบ Combination lamp ที่ออกแบบการส่องสว่างได้อย่างแตกต่าง และทันสมัย สมกับเจ้าของฉายา Sexy SUV ที่คนไทยรู้จักและให้การยอมรับในฐานะรถนำเข้าคุณภาพจากประเทศเกาหลี โดดเด่นเรื่องการขับขี่ที่เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกันทั้งบนทางเรียบ และทางที่เป็นอุปสรรค นอกจากนี้ยังมีการปรับขนาดล้ออัลลอยจาก 16 นิ้ว เป็น 17 นิ้ว ลายใหม่ พร้อมยาง 225/60/R17 เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกซ้ายขวาเทียบชั้นรถหรู เครื่องเล่น DVD พร้อมจอ LCD screen ที่เชื่อมต่อความบันเทิงผ่านช่องต่อ USB/AUX ระบบนำทาง GPS ที่แม่นยำ และให้ความสะดวกในทุกเส้นทาง ระบบกล้องช่วยจอด Parking Camera ที่ให้ภาพคมชัดปลอดภัย เบาะหลังแบบปรับเอนนอนได้เพื่อความสบายที่เพิ่มขึ้น และปลั๊กไฟขนาด 12V บริเวณที่เก็บสัมภาระตอนหลัง
อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆที่ทำให้ The New Hyundai Tucson 2.0D 4WD ไมเนอร์เชนจ์โดดเด่นกว่าใครยังมีอีกดังต่อไปนี้
– ระบบ Smart Entry และปุ่มสตาร์ททันสมัย
– ระบบไฟเลี้ยวแบบ On-Touch มีระดับ
– เบาะหลังแบบพับได้ 60:40
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
– ระบบรักษาเสถียรภาพรถยนต์ ESP (Electronic Stability Program)
– ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรค ABS (Anti-Lock Braking System)
– ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ ROP (Roll-Over Protection)
– ระบบช่วยชะลอความเร็วขณะลงทางลาดชัน DBC (Down-Hill Brake Control)
– ระบบป้องกันรถไหลขณะขึ้นทางลาดชัน HAC (Hill-Start Assist Control)
– พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางพร้อมพื้นที่ห้องโดยสารที่โปร่งสบาย
– ความสูงจากพื้นระดับ 170 มม. ที่ช่วยให้การขับขี่ผ่านอุปสรรคเป็นไปอย่างคล่องตัวทั้งบนทางเรียบ และเส้นทางที่นอกพื้นผิวถนน
เปิดตัวด้วยราคา 1,690,000 บาท พร้อมประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และข้อเสนอพิเศษมอเตอร์โชว์
ยอดจำหน่ายของ Hyundai Tucson ในประเทศไทยเกิน 900 คัน ในฐานะรถยนต์นำเข้าจากประเทศเกาหลีนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2553
ชมรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hyundai Grand Starex ไมเนอร์เชนจ์ และ Tucson 2.0D 4WD ไมเนอร์เชนจ์ จากวีดีโอที่จัดทำขึ้นพิเศษ ได้ที่