บริษัทเมอร์เซเดสเบนซ์ประเทศไทยจำกัด ร่วมกับบริษัทกรังด์ปรีซ์อินเตอร์แนชั่นแนลจำกัด(มหาชน)ได้เชิญสื่อมวลชนลงใต้ไปที่จังหวัดพังงา เพื่อไปมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่โรงเรียนเยาววิทย์ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา
ครั้งนี้ก็เลยได้มีโอกาสเดินทางไปด้วย Mercedes-Benz AMG E53 4matic+ Sedan และ C43 AMG 4 matic+Sedan
โดยผู้เขียนได้เดินทางด้วย AMG E53 แบบ 4 Matic+ Sedan เครื่องยนต์ เบนซิน 6 สูบ พร้อม Turbo อินเตอร์คูลเลอร์ เครื่องยนต์ 2,999 ซีซี. แรงม้า 435 แรงม้าที่ 6,000 รอบ แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 520 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,800 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 อยู่ที่ 4.5 วินาที และมี EQ Boost ซึ่งเป็นพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยเสริมอีกแรง ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะพร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
เราเดินทางกันสามสาว ออกเดินทางจากกรุงเทพฯกันแต่เช้าเพื่อเลี่ยงรถติดในกรุงเทพฯ และจะได้เดินทางไปถึงพังงาด้วยระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตรกันแบบชิลล์ชิลล์ และถึงที่พักยังไม่มืดค่ำนัก
เติมน้ำมันกันก่อนเดินทาง คันนี้ถังน้ำมันจุ 80 ลิตร รถคันนี้เป็นรถที่วิ่งมาแค่ 66 กิโลเมตรใหม่แกะกล่องเลย
เมื่อออกเดินทาง ผู้เขียนนั่งโดยสารไปด้านหล้ง ก็เลยได้มีโอกาสสำรวจที่นั่งด้านหลังไปด้วยเลย สามารถดูที่ Clip Videoที่ Youtube:caronlineradio ได้
ที่นั่งด้านหลังกว้างสะดวกสบาย สายคาดBelt AMG สีแดงทุกที่นั่ง หน้า-หลัง
มีม่านบังแดดที่กระจกข้างด้านหล้งทั้ง 2 ด้าน
ที่ท้าวแขนด้านหลังมีที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้ ตรงที่ท้าวแขนหลังสามารถดึงพนักพิงตรงกลางลงมาเพื่อที่จะหยิบของจากที่เก็บของตรงสัมภาระหลังได้
ด้านหล้งมีช่องแอร์ หลังคอนโซลกลางด้านหน้า 2 ช่อง และมีที่ชาร์จไฟขนาด 12
Volt หรือจะชาร์จโทรศัพท์จากที่ชาร์จในกล่องเก็บของตรงคอนโซลกลางก็ได้ ด้านหน้าจะมี Wireless Charging
นั่งด้านหลังจะรู้สึกถึงระบบซับแรงของช่วงล่างได้มากขึ้น อยู่ที่ระบบที่ผู้ขับขี่เลือกใช้ ซึ่งสามารถเลือกการขับขี่ได้ 5 ระบบ และสามารถเลือกระบบกันสะเทือนได้ด้วยว่าจะ Comfort หรือ Sport
ขนาดล้อและยางหน้า 245/35 R20
ขนาดล้อและยางหลัง 275/30 R20
ราคาคันนี้อยู่ที่ 4,990,000 บาท เป็นรถประกอบในเมืองไทย
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
ระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติไม่ต้องใช้มือ
เมื่อเดินทางถึงพังงาแล้วเราก็เดินทางเข้าที่พักที่โรงแรมเมอร์ริเดียน เขาหลัก
เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเราก็เดินทางไปยังโรงเรียนเยาววิทย์ ซึ่งอยู่ที่ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา
โรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเริ่มแรกเพื่อให้ความช่วยเหลือกับเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547
และปัจจุบันรับเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษา ครอบครัวมีฐานะยากจน เด็กที่อยู่ในสภาพแวดล้อมกลุ่มเสี่ยงได้รับภัยจากสังคม อยู่ในชุมชนแออัด พ่อแม่ไม่สามารถส่งให้เข้ารับการศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐได้
เป็นเด็กเร่ร่อน ไม่มีพ่อแม่ ขาดผู้ปกครองดูแล ขาดผู้อุปการะ
เป็นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเสียชีวิต แยกทางกัน ผู้ปกครองหายสาบสูญ ผู้ปกครองไม่สามารถเลี้ยงดู หรือไร้สมรรถภาพ
โดยทางโรงเรียนให้การศึกษาและฝึกอาชีพให้ เพื่อให้เด็กเหล่านี้ได้เติบโตออกไปสู่สังคม และสามารถประกอบอาชีพได้
โรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนตั้งแต่ชั้น อนุลาล 1-6 เป็นนักเรียนประจำ เมื่อจบแล้วก็ให้ไปเรียนโรงเรียนในตัวเมืองที่ทางโรงเรียนจัดหาให้
และทางเมอร์เซเดสเบนซ์ประเทศไทย ก็ให้การสนับสนุนยาวนานมากว่า 15 ปี และเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ก็ได้มอบทุนให้กับทางโรงเรียนจำนวน 500,000 บาท
และในครั้งนี้ก็เป็นการมอบทุนโดยเป็นการร่วมมือระหว่างบริษัทกรังด์ปรีซ์อินเตอร์แนชั่นแนลจำกัด (มหาชน)กับบริษัทเมอร์เซเดสเบนซ์ประเทศไทย โดยทางกรังด์ปร๊ซ์กรุ๊ปก็ได้ให้การสนับสนุนโรงเรียนแห่งนี้มา กว่า 10ปีเช่นกัน
โดยในครั้งนี้คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการของบริษัทกรังด์ปรีซ์อินเตอร์แนชั่นแนลจำกัด(มหาชน)ได้มอบทุนจำนวน 200,000 บาท โดยมีคุณโรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหารของเมอร์เซเดสเบนซ์ประเทศไทย คุณบีเยิร์น รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด และคุณอัชฌ์ บุณยประสิทธ์ ผู้จัดการอาวุโส ร่วมสนับสนุนในกิจกรรมครั้งนี้
ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีดีที่ทางเมอร์เซเดสเบนซ์ประเทศไทยและกรังด์ปรีซ์กรุ๊ป ได้ทำเพื่อสังคม ซึ่งทั้งผู้ให้และผู้รับก็อิ่มอกอิ่มใจกันทั่วทุกคน
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา (ผู้หญิงขับรถ)
Female Driver Along Review
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…