วันที่ 6 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการขับรถที่นอร์เวย์ วันนี้เราจะขับรถ Mazda CX-5 Skyactive Diesel จาก Bergen ไปสิ้นสุดที่ Oslo ระยะทาง 460 กิโลเมตร ระยะทางของกลุ่มสอง ถ้ารวมวันนี้ด้วยก็ประมาณ 3,700 กิโลเมตร
Bergenเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของนอร์เวย์ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ มี Fish Market ที่ขายปลากันแบบสดๆบนท่าเทียบเรือ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรมมที่สำคัญของภูมิภาค
สิ่งที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดที่จะไปเยือนเมืองนี้ก็คือ บรีเก็น (Brygen)ซึ่งเป็นท่าจอดเรือเก่าแก่ ความสวยงามคือบ้านไม้ที่เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบและลักษณะคล้ายกันทั้งเมือง มีอายุกว่า 900 ปี ซึ่งชาวชุมชนยังมีการอนุรักษ์ไว้ให้คงรูปแบบเดิม
เราก็มีการเก็บภาพไว้บ้างที่จะเห็นความสวยงามของเมืองนี้
แล้วเราก็อำลาเมือง Bergen เพื่อเดินทางกันไปออสโล
เช้าวันนี้เราออกเดินทางประมาณ 9 .00 น โรงแรมที่พักไม่มีที่จอดรถ ต้องเอารถไปจอดอีกอาคารหนึ่ง เราเลยต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นหน่อยในการไปขับรถจากอีกที่หนึ่งเพื่อกลับมารับสัมภาระและเพื่อนร่วมทางที่โรงแรม
ฝนก็ตกตั้งแต่เช้าแต่ไม่หนัก เป็นแค่ละอองให้พอชุ่มฉ่ำ เราออกจากBergen ในช่วงเวลาที่คนออกไปทำงานรถเยอะ แต่รถก็ไม่ติดเลย อุณหภูมิประมาณ 8 องศา ขับไปสักพักออกนอกเมืองฝนลงหนาเม็ดขึ้น ขับผ่านอุโมงค์อีกหลายลูกเพียงแต่ระยะสันสั้น
ก่อนเข้าอุโมงค์ที่เมืองGravin มีสะพานหนึ่งทอดยาวสวยทีเดียว หลังจากนั้นก็เจออีกหลายอุโมงค์ มีอยู่อุโมต์หนึ่งในอุโมงค์มีวงเวียนด้วยนะ สามารถไปทางด้านซ้ายหรือขวา แต่เราไปขวาของอุโมงค์เพื่อไปทางออสโล
วงเวียนในอุโมงค์
ออกจากอุโมงค์ก็เป็นทางบนเขาเช่นเดิม ถนนสองเลน ด้านซ้ายเป็นทะเลสาป ถนนคดเคี้ยวบนเขาสวยงาม ขับมาสักช่วงผ่านมาทาง Eidfjord มีทะเลสาปอยู่ด้านซ้ายทางที่เรามุ่งหน้าไป
ขับไปเรื่อยๆก็จะต้องขึ้นเขาไปเรื่อยเรื่อย เมื่อถึงบนเขา Voringfoss หิมะเริ่มลงนิดหน่อย สักพักหิมะตกหนักมาก ขาวโพลนไปหมด มองแทบไม่เห็นทางเลย อุณหภูมิในรถเหลือ 0 องศา
พอขึ้นไปบนเทือกเขา Haugastol ทุกอย่างขาวโพลนไปหมดเลย จะเห็นแอ่งน้ำเล็กๆ น้ำกำลังกลายเป็นน้ำแข็ง
ระบบปัดน้ำฝนเปิดตลอดเวลา เพราะมีระบบละลายน้ำแข็งบริเวณที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้า
รถ CX-5 ทั้ง 10 คัน ต้องชะลอความเร็วลง ระบบ Traction Control โชว์ขึ้นมา ให้เห็นเลยว่าทำงานแล้วนะ
และ CX-5 ที่เราขับเป็นระบบ AWD (All Wheel Drive) คือเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตโนมัติก็ปรับเปลี่ยนให้รถแหมาะกับสภาพถนนช่วยได้เยอะเลย ทำงานร่วมกับ Traction Control ควบคุมรถให้อยู่ในเลนไม่ให้ลื่นไถล ควบคู่ไปกับระบบ GVC ซึ่งเป็นเทคโนโลยี่ของ Skyactive Vehicle Dynamics
ยางที่ติดอยู่ที่รถยังเป็นยางติดล้อธรรมดา ไม่ใช่ยางสโนว์สำหรับใช้บนถนนที่หิมะตก แต่พวกเราก็ขับกันด้วยความระมัดระวัง ตามผู้นำขบวนข้างหน้า โดยวิ่งตามรอยล้อของคันหน้า เพราะหิมะที่ตกลงมาเริ่มเป็นน้ำแข็งเมื่อวิ่งผ่านก็จะแตกแล้วทำให้ลื่นก็เลยต้องวิ่งตามรอยล้อที่คันหน้าเปิดทางไว้ ความเร็วก็ลดลงเหลือประมาณ 20-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เนื่องจากหิมะลงหนักมาก
ในตอนที่ 1 เคยบอกไว้ว่า ขอบถนนมีไม้ปักไว้เป็นระยะและมีแถบแดงแดงพันที่ไม้ในเขตที่มีหิมะตก คราวนี้เราก็เห็นประโยชน์ของไม้ที่ปักไว้บนขอบถนนเลยว่าห้ามวิ่งเลยไม้กั้น เพราะนั่นคือขอบทาง
มีรถ CX-5 เพียงคันเดียวเท่านั้นที่เดินทางในครั้งนี้ที่เป็นรถ แบบขับเคลื่อน สองล้อ ซึ่งจะขับยากหน่อยเมื่อเจอถนนลื่นไม่เหมือนตัวขับเคลื่อนสี่ล้อ มีลื่นเล็กน้อย แต่เมื่อวิ่งตามขบวนกันไป ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี
และเราก็จะเห็นรถตักหิมะที่วิ่งสวนทางมา เพื่อตักหิมะที่ปกคลุมบนถนนออกไป เขาทำงานกันรวดเร็มาก
แล้วเราก็จอดรถที่พักริมทางบนเขา เพื่อพักสักครู่ แล้วลงไปสัมผัสหิมะกันอย่างสนุกสนาน
หลังจากนั้นก็ขับไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านบนเขาที่ Haugastol
เมื่อจอดรถก็ต้องเสียค่าจอด ที่หน้ากระจกรถด้านนอกรถฝั่งผู้โดยสาร ติดกับด้านเสาของกระจกหน้า ก็จะมีนาฬิกาติดอยู่ เราเข้าจอดกี่โมงก็จะตั้งเข็มนาฬิกาไว้ที่เวลาจอด เพื่อสะดวกในการชำระเงินค่าจอด
หลังรับประทานอาหารเสร็จก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ ยังมีหิมะตกอยู่ ขับไปสักพักก็เป็นทางลงเขา หิมะหยุดแล้ว ก็เจอฝนต่อไป
เมื่อใกล้ถึงออสโลฝนก็หยุดตก
และวันนั้นเราก็มาถึง Oslo เมืองหลวงของ Norway ประมาณ 18.00 น.กรุงออสโลนั้นเก่าแก่มาก ก่อตั้งตั้งแต่ปี คศ,1040
คืนนี้เราพักที่ Comfort Hotel Grand Central
และเป็นอันสิ้นสุดการเดินทางของทริปนี้ของกรุ๊ป 2 กับระยะทาง รวมทั้งสิ้นทั้งกรุ๊ป 1 & 2 ก็ประมาณ 5,900 กิโลเมตร
ปิดทริปการเดินทางเปิดประสบการณ์สุดขอบฟ้ากับมาสด้า ซึ่งเป็นการเปิดประสบการณ์จริงๆของการขับรถ เป็นทริปแห่งปี 2018 เลยทีเดียว เจอทุกสภาวะอากาศฝนตก แดดออก หิมะตก ได้เห็นแสงเหนือ ได้เห็นหนึ่งในถนนที่สวยที่สุดในโลก และเมืองมรดกโลกจากFjord และได้พิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะและเทคโนโลยี่ของ CX-5
และทุกอย่างก็จบลงอย่างสวยงาม เก็บประสบการณ์และความประทับใจนี้ไว้ในความทรงจำ
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ผู้หญิงขับรถ
ขอขอบคุณ
บริษัท มาสด้าเซลส์ ประเทศไทยจำกัด
บริษัท ทรานส์เอเซียรูท จำกัด
ภาพโดย นิรดา จุลโลบล ,เดชพันธุ์ นามบุญสิงห์พล