ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) บริษัทแม่จากเกาหลีที่เข้ามาทำตลาดเอง ได้จัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์สำหรับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกภายใต้แนวคิด “สตาร์เกเซอร์ ความสบายไม่มีที่สิ้นสุด” (STARGAZER the Ultimate Comfort) โดยกิจกรรมดังกล่าวมีสื่อมวลชนจากทั้งสายยานยนต์และไลฟ์สไตล์กว่า 60 สื่อ เข้าร่วมกิจกรรมสัมผัส ฮุนได สตาร์เกเซอร์ รถยนต์ มินิเอ็มพีวีรุ่นล่าสุดจากบริษัท สำหรับเส้นทางทดสอบครอบคลุมระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร บนเส้นทางระหว่างภูเก็ตและพังงา ที่สามารถทดสอบทั้งทางราบและทางโค้ง ท้าพิสูจน์สมรรถนะการขับขี่ ที่มอบความสบายตลอดเส้นทาง
ฮุนไดสตาร์เกเซอร์ มีรุ่น 6 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง แต่คันที่ขับจะเป็นแบบ 6 ที่นั่ง
การเดินทางเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่เช้าตรู่ของวันแรกที่ผู้ร่วมกิจกรรมทดสอบนัดพบกันที่โรงแรม โนโวเทล สุวรรณภูมิ เพื่อรับฟังรายละเอียด ผลิตภัณฑ์ จากนั้นเดินทางไปสนามบินเพื่อออกเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ต โดยเริ่มต้นทดสอบทันทีจากสนามบินภูเก็ต เพื่อจะได้สัมผัสความสบายไม่มีที่สิ้นสุด บนเส้นทางกว่า200กิโลเมตร
สตาร์เกเซอร์เป็นรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นมาด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์กับการออกแบบด้วยเส้นโค้ง (One Curve Design) พร้อมแถบไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED เพียงเปิดประตู ผู้โดยสารจะพบกับห้องโดยสารกว้างขวาง ซึ่งออกแบบและพัฒนาภายใต้แนวคิด ความสบายไม่มีที่สิ้นสุด
สำหรับพื้นที่บรรทุกสัมภาระนั้นมีช่องเก็บของที่มีมากกว่า 30ช่อง
จุดหมายแรกของการเดินทางไปกับ ฮุนได สตาร์เกเซอร์ คือร้านอาหารบ้านอาจ้อ ซึ่งเป็นร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ของอาคารสถาปัตยกรรมชิโน-โคโลเนียล อายุกว่า 87 ปี ที่นอกจากจะเป็นร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำโดยมิชลินไกด์แล้ว ตัวอาคารยังเป็นที่จัดแสดงพิพิธภัณฑ์บ้านอาจ้อ ที่จัดแสดงถ่ายทอดเรื่องราวของภูเก็ตในยุคที่แร่ดีบุกยังรุ่งเรือง และถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัวเจ้าของบ้านหลังนี้ไว้อีกด้วย
หลังอิ่มเอมไปกับอาหารกลางวัน คณะเดินทางมุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไปกับ ฮุนได สตาร์เกเซอร์ สู่เสม็ดนางชี แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ จุดชมทัศนียภาพอ่าวพังงาแบบ 180 องศา ทำให้การทดสอบในครั้งนี้ได้เก็บภาพประทับใจ
หลังจากนั้นมุ่งหน้าสู่โรงแรม เลอ เมอริเดียน เขาหลัก รีสอร์ทแอนด์สปา ระยะทาง 90 กิโลเมตร
ในการเดินทางช่วงนี้ ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสสมรรถนะระดับชั้นนำจากเครื่องยนต์เบนซิน เทคโนโลยีสมาร์ทสตรีม เอ็มพีไอ ขนาด 1.5 ลิตร (Smartstream 1.5 MPI) ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า มาพร้อมกับระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติแบบไอวีที (IVT) ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ประกอบด้วย อีโค (Eco), นอร์มอล (Normal), สปอร์ต (Sport) และ สมาร์ท (Smart) โดยรูปแบบสมาร์ทจะปรับเปลี่ยนการตอบสนองอัตโนมัติ ตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่
การเดินทางในวันแรกจบลงด้วยงานเลี้ยงอาหารค่ำซึ่งจัดขึ้น ณ ที่พัก
เช้าวันถัดมา พวกเราก็มุ่งหน้าตรงสู่สนามบิน ที่ห่างออกไป 84 กิโลเมตร โดยฮุนได สตาร์เกเซอร์ มอบความอุ่นใจให้กับผู้โดยสารทุกที่นั่งตลอดการเดินทาง เพราะมีฮุนได สมาร์ทเซนส์ (เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นย่อย สมาร์ท 6 และ สมาร์ท 7 เท่านั้น)
ระบบความปลอดภัยที่มอบความมั่นใจทุกการเดินทาง อาทิ ระบบช่วยเหลือและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และ ระบบช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัย เมื่อมีรถในจุดอับสายตา
ช่วงขับจริง
รถมี 2 รุ่นคือ 6 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง คันที่ขับเป็นรถแบบ 6 ที่นั่ง ที่นั่งแถว 2 แยกอิสระ เว้นว่างตรงกลาง เดินไปนั่งแถว 3 ได้ง่าย
ความรู้สึกแรกเมื่อขึ้นรถ จะรู้สึกว่าภายใน โปร่งไม่อึดอัด เพราะเพดานภายในสูง และใช้สีขาว ก็เลยช่วยให้สบายตา และรู้สึกไม่อีดอัด การตกแต่งภายในดูดี ทั้งในเรื่องวัดุที่ใช้ และการดีไซน์
ที่นั่งผู้ขับปรับมือ สูงต่ำได้ ที่นั่งนั่งสบาย พวงมาลัยกระชับมือ ควบคุมง่าย
ช่วงล่างหนึบหนับเกาะถนนดี เกียร์มีโหมดให้เลือกได้ 4 โหมด การปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล
ภายในห้องโดยสารเย็นสบายทั้งด้านหน้าและผู้โดยสารด้านหลัง เพราะแถวที่สองก็มีช่องแอร์
อัตราเร่งแซงถือว่าดี ภายในห้องโดยสารค่อนข้างเงียบ
การขับขี่และการนั่งโดยสาร อยากจะให้ไปดูคลิปที่ รีวิวบน Youtube:caronlineradio
ฮุนได สตาร์เกเซอร์ มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นเทรนด์ (Trend), สไตล์ (Style), สมาร์ท 6 (Smart 6) และ สมาร์ท 7 (Smart 7) พร้อมทางเลือกสีตัวถังหลายรูปแบบ ประกอบด้วย สีดำ มิดไนท์ แบล็ก เพิร์ล (Midnight Black Pearl), สีขาว ครีมมี่ ไวท์ เพิร์ล (Creamy White Pearl), สีเงิน แม็กเนติก ซิลเวอร์ เมทัลลิก (Magnetic Silver Metallic) และ สีเทา ไททัน เกรย์ เมทัลลิก (Titan Grey Metallic)
ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 769,000 บาท ถีง 889,000 บาท
เป็นรถ MINI MPV ที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น และตอนนี้บริษัมแม่จากเกาหลีเข้ามาทำตลาดเองก็เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้รถได้มากขึ้น
ธัญญลักษณ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา (Alongcaronlinecaronline)
ผู้หญิงขับรถ