ขับนิสสันเอ็กซ์เทรล ตะลุยดอยม่อนเงาะ ตามรอยโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง”
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ชวนสื่อมวลชนร่วมขับ SUV พันธุ์แกร่ง นิสสัน เอ็กซ์เทรล รถอเนกประสงค์ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีก้าวล้ำหน้าและเปี่ยมด้วยความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง ตะลุยโครงการหลวงดอยม่อนเงาะ เชียงใหม่ทำกิจกรรมมากมาย พร้อมชื่นชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์บนเส้นทางขึ้นดอยสูงอันท้าทาย
การทดลองขับขี่แบบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภายใต้โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” ของนิสสันซึ่งมุ่งตามรอยบุคคลต้นแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา-ภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9
โดยการเดินทางในครั้งนี้ เริ่มต้นจาก บริษัท สยาม นิสสัน เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการที่มีความทันสมัย กว้างขวาง สะดวกสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากมาย พร้อมกับการให้บริการของเจ้าหน้าที่อย่างเป็นกันเอง บ่งบอกได้ถึงความใส่ใจต่อลูกค้าที่ถือเป็นหัวใจหลักของการปฏิบัติงานของนิสสันได้เป็นอย่างดี
สิ่งแรกที่สัมผัสได้ในระหว่างการทดสอบขับ คือความกว้างขวางสะดวกสบายของห้องโดยสาร ทั้งนี้ เอ็กซ์เทรลยังเป็นรถรุ่นแรกที่มาพร้อมที่นั่งในรูปแบบเธียเตอร์สไตล์ โดยในรุ่น 2.5V และ 2.0V จะเป็นที่นั่งแบบ 3 แถว หรือ 5+2 ที่นั่ง ขณะที่รุ่น ไฮบริด 2.0V จะเป็นแบบ 2 แถว
โดยทุกรุ่นมีเบาะที่นั่งด้านหลังกว้างขวาง นั่งสบาย และทัศนวิสัยดีด้วยนะคะสำหรับคนนั่งแถวหลังเพราะที่นั่งแถวหลังจะยกสูงไม่ได้เสมอกับที่นั่งด้านหน้า ก็เลยทำให้มองผ่านกระจกด้านหน้าได้ค่อนข้างชัดเจน นั่งแล้วก็จะไม่อึดอัด
พร้อมสรรพด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยเช่นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ปรับแยกอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา นอกจากนี้ยังมีระบบเครื่องเสียงพร้อมอุปกรณ์เชื่อมต่อสามารถเล่น CD, MP3, AUX, USB และระบบนิสสัน คอนเน็กต์ (Nissan Connect) สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน โดยผ่านแอปพลิเคชั่น (Application) ที่ล้ำสมัย รวมทั้ง พาโนรามิค ซันรูฟ (Panoramic
Sunroof) ขนาดใหญ่ ที่ทำให้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม และประตูท้ายเปิด-ปิด อัตโนมัติ (Auto Lift Gate) พร้อมระบบป้องกันการหนีบ ทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย
สำหรับทริปนี้ การเดินทางเริ่มต้นจากการขับบนทางหลวงแผ่นดิน ต่อด้วยการขับขึ้นและลงดอยสูง รวมถึงทางลาดชันที่สมบุกสมบันเหมาะสมกับ สมรรถนะเครื่องยนต์ของเอ็กซ์เทรลทุกรุ่น ที่สามารถตอบสนองการเดินทางได้เป็นอย่างดี โดย นิสสัน เอ็กซ์เทรล มีเครื่องยนต์ให้เลือกถึง 2 แบบหลักๆ คือ เครื่องยนต์เบนซินที่มีรุ่นย่อยให้เลือกทั้งขนาดความจุ 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร และเครื่องยนต์แบบไฮบริดขนาด 2.0 ลิตรที่มาพร้อมระบบเพียวไดร์ฟไฮบริด (Pure Drive Hybrid) และคลัทช์คู่อัจฉริยะ (Intelligent Dual Clutch Control) ที่ทำให้มีพละกำลังและอัตราเร่งเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรแต่ให้อัตราการประหยัดน้ำมันน้อยกว่าเครื่องยนต์แบบเดียวกันกว่า 20% ทั้งนี้ เอ็กซ์เทรลยังมาพร้อมกับเกียร์ X-TRONIC CVT พร้อม ระบบ manual mode 7 สปีด ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพอัตราเร่งและประหยัดน้ำมันมากขึ้น
โดยตลอดการเดินทางแม้จะเป็นการขับขี่ขึ้นลงทางลาดชันและคดเคี้ยว แต่ด้วยสมรรถนะของเอ็กซ์เทรล พร้อมระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะที่ผู้ขับขี่ถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (Active Engine Brake) และระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Active Ride Control) ที่ถือเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ที่มีเพียงเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น นอกจากนี้ ยังติดตั้งกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor – AVM) ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่บริเวณพื้นที่คับแคบเพิ่มความมั่นใจในทุกสภาพเส้นทาง เวลาถอยหลังเนี่ยเห็นรอบทิศทางชัดเจนเลย
สำหรับภารกิจแรกคือ การเดินทางพบกับ คุณแสงเดือน ชัยเลิศ ผู้ก่อตั้ง ศูนย์อภิบาลช้างในอำเภอแม่ริม บุคคลต้นแบบที่ใช้แนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติควบคู่การส่งเสริมการท่องเที่ยวตามพระราชดำรัสของในหลวง รัชกาลที่ 9 พร้อมการร่วมกิจกรรม การอาบน้ำและทำอาหารให้ช้างที่ได้รับการดูแลอยู่ภายในศูนย์ฯ ทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมมีความสุขใจแม้จะเลอะเทอะไปบ้างแต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่ได้หามาได้ง่ายๆ
นอกจากนี้ นิสสันได้พาคณะของสื่อมวลชนเที่ยวชมยอดดอยม่อนเงาะ พร้อมทำกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยการมอบอุปกรณ์การศึกษาให้เด็กที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กม่อนเงาะซึ่งสร้างเสริมความสุขและรอยยิ้มให้ทั้งกับผู้รับและผู้ให้
ตามด้วยการเยี่ยมชมไร่ชาลุงเดชบนพื้นที่เกือบ 6 ไร่ นอกจากจะปลูกชาแล้ว ยังมีการปลูกผลไม้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นเงาะ ส้ม มะขาม รวมถึงกาแฟพันธุ์ดีต่างๆ มากมาย จึงทำให้สถานที่แห่งนี้มักมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแวะเวียนเพื่อมาสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และปิดท้ายด้วยการเดินชมไร่นา ชิมชา ซึ่งเป็นกิจกรรมสโลว์ไลฟ์ที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
หลังจากเยี่ยมชมไร่ลุงเดชแล้ว อีกไฮไลท์สำหรับช่วงฤดูหนาวนี้คงไม่มีใครคิดว่าเชียงใหม่จะมีทุ่งดอกคอสมอส สุดงดงามบานสะพรั่งเต็มทุ่ง ณ พื้นที่ ในเขตเทศบาลเมืองแกน ที่ได้เนรมิตพื้นที่มากกว่า 10 ไร่ เพื่อปลูกดอกคอสมอสฝรั่งเศส หรือที่ชาวเหนือเรียกกันว่าทุ่งคำแผ้แหล้ นี้ให้เป็นสวนดอกไม้สีชมพูขนาดใหญ่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพเป็นที่ระลึกและสร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมกิจกรรม
และต้องขอขอบคุณนิสสันเอ็กซ์เทรลรถอเนกประสงค์พาหนะตลอดการเดินทางที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ชีวิตที่มีระดับของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง