Brand: TOYOTA Model: Corolla
Year: 2004 Miles: 0-5000
From: Wichuda Chottikumporn
เรียน คุณธเนศร์
ดิฉันต้องการรายละเอียดหรือไอเดียในการนำสูตรไปคำนวณเกณฑ์การจ่ายค่าน้ำมันให้กับพนักงานที่นำรถส่วนตัวมาใช้ในงานของบริษัท ซึ่งทางบริษัทไม่อาจให้เป็นตัวเลขกลมๆได้เนื่องจากจะไปเข้าข่ายเงินเดือน และจะมีผลถึงการคิดค่าล่วงเวลา ตอนนี้จึงต้องการค่าเฉลี่ย(ราคากลาง)ของการบำรุงรักษารถตามรายละเอียดด้านล่างนี้ เพื่อนำไปคิดเป็นสูตร
1.ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยางรถยนตร์ต่อปี
2.ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องต่อปี
3.ค่าประกันอุบัติเหตุต่อปี
4.ค่าเสื่อมของรถต่อปี
5.ราคารถใหม่โดยเฉลี่ย(ที่บริษัทใช้ทั้งรถเก๋งและกะบะ)
6.น้ำมัน 1 ลิตร วิ่งได้กี่กิโลเมตร
จริงๆ แล้วดิฉันโทรไปถามตาม B-Guick ก็ได้แต่ไม่แน่ใจว่าราคาที่ได้มาแล้วเมื่อนำมาใช้คำนวณแล้วจะต่ำหรือสูงกว่าความเป็นจริงรึเปล่า เพราะต้องการตัวเลขที่นำไปใช้ได้ในระดับกลางๆ เพราะต้องใช้กับพนักงานทั้งบริษัท และเชื่อมั่นว่าผู้เชี่ยวชาญทางด้านรถยนตร์น่าจะให้ค่าประมาณที่แม่นยำกว่าค่ะ
ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
จากแฟนของแฟนรายการคุณค่ะ
นอกจากค่าเสื่อมราคาของรถยนต์ ที่พอจะต้องคิดให้เขาแล้ว ผมก็ลองเสนอตามคำขอของคุณอย่างนี้นะครับ
1-ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยางรถยนต์ต่อปี เอายางดี แต่ขนาดยางที่ไม่เท่ากัน ก็จะเกิดความเสียเปรียบได้เปรียบกันอีกนั่นแหละ เพราะยางชั้นดีในบ้านเรา เช่นมิชลิน ขนาด 13-14 หรือ 15 นิ้ว ก็ราคาต่างกันไปแล้ว ยังมีหลายคนใช้ยางต่างขนาดจากที่ผมบอกไว้อีกด้วย เราจะไปเอาแต่ใจเขาอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเอาใจเราครับ
คือคิดไปเลยว่า ยางสี่เส้น ลงทุนใช้กันเส้นละสองพันบาท ใช้ได้ไม่ต่ำกว่าเจ็ดหมื่น ถึงแสนกิโลเมตร ตามคำแนะนำของผู้ผลิตยาง ที่คนใช้รถไม่ค่อยยอมรับ มักจะบอกเราว่า ใช้แค่สามหมื่นก็พอแล้ว อะไรทำนองนี้ แต่เมื่ออยู่ในฐานะคุณ ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงิน ผมว่า เอาแค่สักเจ็ดหมื่นกิโลเมตรก็ใจกว้างพอแล้ว
เจ็ดหมื่นกิโลเมตร ไม่ต้องคำนึงถึงปี เพราะยางแต่ละเส้น อายุหกปีครับ ใครจะอยู่กับคุณถึงหกปี เพื่อเอาเงินแปดพันบาท
ดังนั้น ผมเลือกให้จ่ายให้เป็นกิโลเมตรดีกว่า สองพัน หารด้วยเจ็ดหมื่น เป็นผลลัพธ์เท่าไร ก็จ่ายกันตามนั้น โดยยึดไมล์เลจของรถเอามาจ่ายเป็นกิโลเมตรตามใบรายงาน
2-น้ำมันเครื่อง ปัจจุบัน อายุใช้งานหนึ่งปี น้ำมันเครื่องแบบธรรมดา มีตั้งแต่แกลลอนละ สามสี่ร้อย ก็ใช้ได้ถึงปี และไม่น้อยกว่าหมื่นกิโลเมตร
ดังนั้น จึงต้องเอามาหารดูครับ และต้องกำหนดเอง ว่าจะให้ลูกน้องใช้น้ำมันอะไร ใครจะไปใช้แบบซินเทค ต้องซื้อราคาแกลลอนละสองพัน ก็ต้องเมินเขาไป เอาราคาที่เราใช้มากำหนดมากกว่า คือสี่ร้อยบาท ใช้ได้หมื่นกิโลเมตร แล้วหารออกมา เอาไว้จ่ายเป็นกิโลเมตร เหมือนกับค่ายาง
3-ค่าประกันต่อปี คุณจะให้เขาใช้รถอะไรล่ะครับ เพราะรถยนต์แต่ละคัน ราคาไม่เท่ากัน อย่างปกติ รถรุ่นปีเก่าก็จะเสียค่าประกันต่างกับปีใหม่ และรถเบนซ์ ก็ประกันแพงกว่าโตโยต้า ตกลงคุณจะเอารถอะไรมาเป็นหลัก
เอาเป็นว่า รถยนต์ราคาหนึ่งล้านบาท ต้องประกันราว สามหมื่นบาทต่อปีก็แล้วกัน ไหวไหม
4-ค่าเสื่อมราคาของรถต่อปี หากคิดว่า เป็นรถบริษัท ก็เสื่อมราคาไปปีละยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ห้าปีหมด เหลือศูนย์
คุณจะเอาไหม ตายนะครับ ต้องจ่ายกันอ๊วกแตกอ๊วกแตน ไม่ไหวใช่ไหม
งั้น เอาเป็นรถราคาล้านบาท ค่าเสื่อมราคาตกปีละ ห้าเปอร์เซ็นต์ ใช้ยี่สิบปีก็แล้วกัน เหลือปีละห้าหมื่นบาท ก็ยังแพงมากสำหรับคนจ่ายอยู่ดี
คุณจะใช้รถยนต์ของเขาทั้งวัน ทุกวันเลยหรือ แล้วจะใช้กันทั้งปีเลยหรือ นี่ก็ต้องคิดนะครับ
เพราะเขาเองก็ต้องใช้รถยนต์ของเขา อย่างแรกก็คือใช้มาทำงานกับเราที่สำนักงานนั่นแหละ แล้วจะให้เราไปจ่ายค่าเสื่อมราคาให้เขาตรงนั้นด้วยหรือ ไม่ยุติธรรมสำหรับเรานะครับ คิดให้ดี
5-รถยนต์ใหม่โดยเฉลี่ย จะให้เฉลี่ยอย่างไรล่ะครับ รถยนต์ราคาคันละตั้งแต่ห้าแสนบาท ขึ้นไปถึงเลยยี่สิบสามลิบล้านบาท คุณจะเอาราคาเฉลี่ยอย่างไร เลือกให้ลูกน้องใช้รถอะไร ทำไมคุณไม่กำหนดลงไปล่ะครับ
ส่วนรถกระบะ ก็มีราคาตั้งแต่ห้าแสนบาทขึ้นไปอีกนั่นแหละ จนถึงแปดแสนละกระมัง ผมว่า คุณถามใคร เขาก็ต้องให้คุณกำหนดไว้ว่าจะให้ใครใช้รถระดับไหนนะครับ
กำหนดออกมาดีกว่า ว่าลูกน้องระดับไหน ให้รถอะไร แต่คุณไม่ได้ซื้อแจกเขานี่นา จะไปกำหนดได้อย่างไร
ผมว่า เรื่องแบบนี้ ช่างหัวมันบ้างน่าจะดีกว่าครับ อย่าไปนึกเลยว่า ใครใช้รถอะไร ค่าเสื่อมราคาเท่าไร ค่าตัวรถเท่าไร อย่าไปกังวล
เอาเป็นตัวเลขกลมกลมออกมาวางไว้ ว่าคุณจะให้เขาได้กิโลเมตรละเท่าไร ดีที่สุด
6-น้ำมันลิตรหนึ่งไปได้กี่กิโลเมตร แล้วกัน รถอะไรยังไม่รู้เลย แล้วจะมาถามว่าลิตรหนึ่งไปได้กี่กิโลเมตร ใครจะไปตรัสรู้ได้ล่ะครับ
เอาเป็นว่า กำหนดไว้ในใจว่า ฉันจะให้เธอใช้ลิตรละสิบกิโลเมตรก็แล้วกัน อย่างอื่นไม่ต้องพะวง
น้ำมันราคาเท่าไร ช่างมัน
น้ำมันอะไร ช่างมัน
ยางใช้อย่างไร ช่างมัน
รถใช้อะไร ช่างมัน
ประกันแบบไหน ราคาเท่าไร ช่างหัวมัน ทุกคนต้องรับผิดชอบเรื่องประกันชั้นหนึ่งก็แล้วกัน
จากนั้น ให้ไปเลยครับ กิโลเมตรละ 5 บาท หรืออย่างสูงก็ 7 บาท พอแล้ว
เขาไปไหน ก็จดไมล์มารายงาน แล้วคุณก็จ่ายไปตามนั้น แค่นั้นเอง
ก็คงมีโกงบ้าง แต่ไม่น่ามาก เพราะคุณเองก็พอรู้เส้นทาง ระยะทางอยู่แล้ว เวลาไปไหน ก็บันทึกไว้เป็นคู่มือ
เป็นหลักเอาไว้เทียบกัน ไม่นาน ก็จะรู้เอง
อย่าถามผมอย่างนี้อีก เพราะผมจะต้องมีตุ๊กตาอยู่ตัวหนึ่ง ว่าเป็นรถอะไร รุ่นไหน
นี่คุณไม่มีเลย แย่มากครับ ตอบน่ะ ที่แย่น่ะ แล้วไม่รู้ผมจะตอบคุณทำไมกันหว่า-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…