Brand: TOYOTA Model: Corolla
Year: 2004 Miles: 5001-20000
From: Wichuda Chottikumporn
: Vios
เรียน คุณธเนศร์
ได้อ่านคำตอบที่คุณอาธเนศร์ตอบให้แล้วค่ะ มีประโยชน์และเพิ่มความรู้ในภาพกว้างได้อย่างมากเลยค่ะ ตอนนี้คิดว่ามีข้อมูลพอที่จะไปเถียงกับเจ้านาย(ต่างชาติ)เกี่ยวกับการคิดสูตรค่าน้ำมันพนักงานแล้ว แต่ก็ต้องขอโทษที่ไม่สามารถยกตุ๊กตามาให้คุณอาอธิบายได้ เพราะไม่สามารถระบุรายละเอียดได้เลยค่ะ คิดอยู่แล้วเชียวว่าคงต้องโดนดุแน่ๆ แต่ดิฉันถือสุภาษิตไทยว่า ผู้ใหญ่ดุถือว่าผู้ใหญ่เอ็นดูค่ะ ถึงยังงัยก็ขอบพระคุณมากๆนะค่ะ
จาก แฟนของแฟนรายการคุณอาธเนศร์ค่ะ
คุณวิชุดาครับ
ขอบคุณที่ไม่ถือสาผม ในการตอบปัญหานั้น โดยปกติแล้ว ผมจะต้องใช้อารมณ์ในการทำงานทุกชนิด คือคนเรา หากไม่มีอารมณ์จะทำงานใด ก็คงไม่อยากทำ หรือทำไม่ออก
อารมณ์ในการตอบปัญหาของผม ปกติจะเป็นอารมณ์สนุก อยากทำ จึงเลือกทำเมื่อมีอารมณ์โดยเฉพาะเท่านั้น
การตอบปัญหาให้คุณ คุณจะสังเกตได้ว่า ผมตอบปัญหาก่อน ถึงได้บ่นไปบ้างเล็กน้อย ขณะตอบ ก็ใส่อารมณ์สนุกไปด้วย กับคำถาม และการถามของคุณ ผมตอบได้ในตอนนี้ว่า ที่จริงนั้น ผมมีอารมณ์เอ็นดูคุณอย่างมาก จึงตอบไปเช่นนั้น
อันที่จริง ขัน หรือขำด้วยซ้ำ เพราะการถามของคุณ เหมือนคำถามของลูกหลานหลายคนของผม ที่เข้ามาถามถึงในบ้าน แต่หาตุ๊กตามาแสดงไม่ได้
และคุณเอง ก็คงหาตุ๊กตามาตั้งให้ผมไม่ได้หรอก ผมทราบอยู่แล้วละครับ
ด้วยว่า คนใช้รถยนต์ทำงานด้วยนั้น เมื่อเขาซื้อหารถยนต์มาเอง เราจะเอาตุ๊กตาที่ไหนมาแสดง ก็ต้องมองภาพกว้างไว้ก่อน อย่างที่ผมตอบ
แต่คุณเอง ก็สามารถจะตั้งตุ๊กตาขึ้นมาได้เช่นกัน ด้วยการกำหนดว่า รถยนต์ที่ใช้นั้น จะเป็นรถใหม่หรือเก่าก็แล้วแต่ จะต้องมีค่าตัวประมาณเท่านั้นเท่านี้ เอาตัวเดียว และขนาดเครื่องยนต์ประมาณนั้นประมาณนี้ เอาตัวเดียวเหมือนกัน ไปจนถึงว่า ประมาณอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ซึ่ง ตรงนี้ลำบาก เพราะจะต้องมีอัตราในเมือง ที่วัดกันไม่ได้ทางเทคนิค เพราะมีตัวแปรมากมาย คงต้องใช้อัตราเฉลี่ย เช่นใช้ในเมืองราว 60% ใช้นอกเมือง 40% อะไรก็ว่าไป แล้วกำหนดมาให้ผม
แต่เท่าที่ตอบไป ผมว่า น่าจะใช้ได้นะครับ สองแบบ คือทั้งแบบเอาตัวอย่างขึ้นไปถกกับเจ้านาย
หรือเอาแบบที่ผมใช้คำว่า”ช่างมัน” ไปใช้เลยก็ยังได้ทั้งนั้น
สมัยปี พ.ศ.2512-15 ผมใช้รถยนต์ในการทำงาน เป็นรถซูบารุ รถ MG-B และวอลโว่ 144s สองคันนี้ กินน้ำมันต่างกัน แต่ผมจะต้องรับค่าใช้จ่ายในอัตราเดียวกัน คือ 1 บาท ต่อระยะทาง 1 กิโลเมตร สมัยนั้น น้ำมันลิตรละ บาทกว่า ไม่ถึงสองบาท ผมก็ต้องรับเท่านั้นทุกคันที่ใช้ครับ
และผมไม่คิดมาก ให้เท่าไรก็ได้ ให้ก็แล้วกัน ดีกว่านั่งรถเมล์ไปทำงาน ดีกว่านั่งแท็กซี่ไปทำงานให้บริษัทฯ เรื่องก็จบ และผมเอาตัวเลข 5 บาท ถึง 7 บาท มาให้คุณเลือก ผมว่า ดีที่สุดแล้วสำหรับ 5 บาท ที่จะเป็นรายได้ถึงประมาณ 30 กว่าบาทต่อน้ำมันหนึ่งลิตร ที่เกินราคาค่าน้ำมันมา ก็ถือว่า ช่วยค่าสึกหรอให้กับรถยนต์ เท่านั้นเอง
ขอให้สนุกกับการทำงาน และสนุกกับการอ่านคำตอบต่อไปนะครับ
ผมจะมีความสุขมาก เมื่อได้ทำงานให้กับคุณคุณ และคุณคุณเข้าใจผมอย่างที่คุณแสดงออก-ธเนศร์
อีซูซุส่งเครื่อ…