Brand: TOYOTA Model: Soluna
Year: 2000 Miles: 20001-40000
From: ชนินทร์ ยุทธนา
สวัสดีครับคุณอา ผมมีเรื่องรบกวนอีกแล้วครับ คือว่ายางที่ผมไปเปลี่ยนมา ตอนนี้ครบอายุที่ 10000 กิโลแล้วครับ ซึ่งได้เวลาสลับยาง และ ถ่วงล้อตามระยะที่ศูนย์บริการจะบริการให้ฟรี ปัญหามันอยู่ที่ว่ายางล้อหลังครั้งหนึ่งผมเคยไปทับตะปูเข้า และผมได้ถอนตะปูออกเอง จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ประมาณ 4เดือน(5,000 โล) แล้วยางไม่มีอาการรั่วหรือซึมแต่อย่างไร(ลักษณะตะปูเป็นตะปูเกลียวยาว ประมาณ 1 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 มิล แทงลงไปประมาณครึ่งนิ้ว) อ้อยางผมเป็นMichelin vivacyครับ ด้วยเหตุนี้แหละครับ ผมเลยกังวลเรื่องการสลับยางว่าถ้านำล้อหลังที่เคยโดนตะปูตำแต่ไม่รั่วมาไว้เป็นล้อหน้าที่จะต้องรับนำหนักมากกว่า ผมเกรงว่าจะมีปัญหาตอนขับรถเร็ว เช่นยางระเบิด หรือ อะไรอย่างอื่น (ไม่รู้ผมวิตกไปหรือป่าว)
รบกวนคุณอาวิเคราะ์ห์ และ แนะนำด้วย อีกอย่างคือถ้าคุณอาแนะนำว่าการสลับยางไม่มีปัญหาแล้วละก้อ หลังการสลับยางและถ่วงล้อแล้วผมควรตั้งศูนย์ล้อใหม่ด้วยหรือไม่
ขออีกเรื่องนะครับคึอตอนนี้ เวลารถวิ่งบางครั้งจะมีเสียงดัง “โว้งๆๆ” เป็นบางถนนเท่านั้น ทางตรงครับ ผมรู้สึกว่าเสียงจะมาจากยาง ผมไม่รู้ว่าปัญหาช่วงล่างอะไรบ้างที่มันจะให้เสียงแบบนี้ มันจะเกิดเฉพาะบางถนนด้วย ผมเคยใช้ Primo 65 ไม่เคยได้ยินเสียงแบบนี้ (ผมใช้Primio 65 มา 30000 โล ยางติดมากับรถ ใช้มา ประมาณปีครึ่งก็เริ่มแตกลายงา ใช้มาจนครบ 2 ปีแล้วก็มาคบเจ้า Michelin นี่แหละ ผิดหวังครับ นุ่มจนโคลง บางทีเหมือนกบกระโดดเลย ผมเติมลม 30 ขนาด 175/65 R 14 เบรคแรงก็มีเสียง เอี๊ยด พึ่งมาเป็นประมาณ 2 อาทิตย์ ยาง 8 เดือน ใชัมา 9500 โล เจอหินนิดเดียวบางครั้งก็เป๋เกินไป) รบกวนคุณอาวิเคราะห์หน่อยครับว่ามีบางอย่างผิดปกติไปหรือไม่
ขอบคุณครับ
อันที่จริง โดยส่วนตัวของผม ผมเลิกสลับยางมาหลายปีแล้ว เพราะกว่ายางสมัยนี้จะสึกจนถึงกับว่า ต้องเปลี่ยนยางเพราะสึกมากแล้วนี่ ผมว่า ยางหมดอายุใช้งานไปนานแล้ว
“ย้ำนะครับ ว่าเปลี่ยนเพราะสึกจนหมดดอก ไม่ใช่เพราะสึกมากน้อยกว่ากันตามปกติ เดี๋ยวจะเข้าใจไขว้เขวกันไปหมด และอีกอย่าง ก็เป็นความเห็นและการกระทำของผมเอง ไม่ได้แนะนำออกอากาศ หรือแนะนำใครให้ใช้ระบบของผมกันหมดด้วย ใครอยากทำ ก็ทำ ทำแล้ว เห็นว่า ทำได้ ก็ทำกันไป ผมใช้ยางแค่ประมาณสาม ถึงห้าปี แล้วแต่ความพอใจของผมเองอยู่แล้ว ไม่ได้กำหนดอะไรเป็นสำคัญ”
การสลับยางเมื่อ 10,000 กม.ยังคงทำได้ และตรงนี้ ผมขออภัย ที่จะไม่บอกว่า ควรหรือไม่ควร เพราะผมไม่ได้ทำ
แต่การตรวจเช็กศูนย์ล้อ ที่ 10,000 กม. ถ้าทำฟรี ผมทำครับ แต่ถ้าไม่ฟรี และไม่มีสาเหตใดสงสัยศูนย์ล้อ ผมก็ไม่ทำ ไม่ใช่ไม่เห็นความจำเป็น แต่ผมไม่สนใจความจำเป็นนั้น เนื่องจากหลายอย่าง ที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้งานรถยนต์รุ่นเก่า ไม่มีความจำเป็นที่รถยนต์รุ่นใหม่ใหม่ จะต้องมีระบุไว้ หรือจะต้องทำกันเสมอไป ดังนั้น ผมจะดูว่า รถที่ผมใช้ เป็นรถอะไร ทำดีหรือไม่ทำก็ได้
อย่างรถยนต์บางรุ่น ตั้ง Camber ไม่ได้ เพราะไม่มีชิ้นส่วนที่ตั้งได้เข้ามาด้วย ถ้าจะตั้งให้ได้ ก็ต้องสั่งซื้อชิ้นส่วนที่ตั้งได้เข้ามาติดตั้ง ลำบากเปล่าเปล่า เพราะถ้า Camber เสียไป ก็จะเสียที่จุดอื่น ไม่ใช่ที่ Camber คือไปเสียที่บูทปีกนก ถ้าเปลี่ยนบูทเสียเท่านั้น Camber ก็จะกลับเข้าที่เองเป็นต้น อย่างนี้ ผมจะไปตั้งศูนย์ทำไม ยกเว้นแต่ดูว่า Toe-in กับ Toe-out ถูกต้องหรือเปล่า ดูจากพวงมาลัย และการตอบสนอง ก็พอได้อยู่แล้ว ผมเลยไม่ได้สนใจนัก แต่ก็อย่างที่บอก เป็นความเห็นของผมคนเดียว ใครจะทำตาม หรือไม่ทำตาม ผมไม่สนใจ
เอาเป็นว่า ยางของคุณ แม้จะถูกตะปูตำ แต่ไปติดเส้นลวดหน้ายาง ไม่เจาะผ่านเข้าไปให้ลมรั่ว ก็ยังใช้ได้ดีอยู่ จะใช้ล้อหน้า ล้อหลัง หรืออะไหล่ ก็ได้ครับ
ดอกยางมิชลิน หลายรุ่น จะมีเสียงหอนบ้าง เมื่อใช้เกินหมื่นหรือสองหมื่นกิโลเมตรแล้ว ปกติครับ ทำใจ-ธเนศร์