กลุ่มโฟล์ค ประเมิน ยอดขายในจีนน่าจะกระเตื้อง

รายงานข่าวจากกรุงแฟรงค์เฟิร์ต ระบุว่า กลุ่มโฟล์คสวาเก้น ประเมินสถานการณ์ในประเทศจีน แล้วพบว่ายอดขายรถยนต์น่าจะเริ่มกลับมากระเตื้องขึ้นในเดือนมีนาคม หลังจากวิกฤติการณ์จากโรคระบาดไวรัส โควิด-19 เริ่มผ่านพ้นไป

“เราประเมินจากสภาพโดยรวมของประเทศจีน โดยคาดหวังว่าเหตุการณ์โรคระบาดร้ายแรงนี้ น่าจะผ่านพ้นจากประเทศจีนไปจนหมดสิ้นภายใน 2-3 เดือน” สเตฟาน วูลเลนสไตน์ Stephan Woellenstein ผู้บริหารกลุ่มโฟล์ค ประเทศจีน ระบุ ทั้งนี้ กลุ่มโฟล์ค เป็นผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศจีน

แม้ว่าความต้องการจะมีอยู่เพียงจำกัด หลังวิกฤติการณ์เพิ่งผ่านพ้น แต่บรรดาโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศจีน 22 แห่งก็เริ่มกลับมาขึ้นสายการผลิตอีกครั้ง โดยยังมีเพียงโรงงานประกบอ 22 แห่ง ใน ฉางซา Changsha และ อูรัมคิ Urumqi ที่ยังคงปิดอยู่

ในเดือนกุมภาพันธ์ ยอดขายรถยนต์ในประเทศจขีน ตกลงเหลือเพียง 250,000 คัน แต่ กลุ่มโฟล์ค ก็ประเมินว่าจะสามารถกลับมาขายได้ราว 1 ล้านคัน ในเดือนมีนาคม

“มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ธุรกิจในประเทศจีน กำลังกลับมาสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว เราเชื่อว่า ภายในกลางปีนี้ เราน่าจะกลับไปสู่แผนงานประจำปี ที่เตรียมงานไว้เมื่อปีที่แล้ว ได้ตามปกติ หลังจากต้องระงับไปเพราะโรคระบาดร้ายแรงครั้งนี้” วูลเลนสไตน์ ระบุ “คาดหวังว่า ตลาดของประเทศจีน น่าจะกลับมาสู่การดำเนินธุรกิจตามปกติ”

ก่อนหน้านี้ กลุ่มโฟล์ค คาดว่ายอดขายรวมของปี 2020 ในประเทศจีน น่าจะลดลงราว 3-15% จากปีก่อน แต่ยังยืนยันการลงทุนมากกว่า 4 พันล้านยูโร ราว 160 พันล้านบาท ในประเศจีน ปีนี้ โดยงบประมาณราว 40% จะใช้ไปกับโครงการรถยนต์ไฟฟ้า

“เราคาดหวังว่า การกระเตื้องขึ้นของเศรษฐกิจ น่าจะดำเนินต่อไปได้ด้วยดี และเราจะกลับมาทำงานตามปกติได้อีกครั้ง ภายในปี 2564” วูลเลจสไตน์ กล่าว

กลุ่มโฟล์คสวาเก้น มีแผนงานที่จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนราว 1.5 ล้านคัน นับจากปี 2568 เป็นต้นไป

Facebook Comments
ลุงอ๊อด

Recent Posts