ออสเตรเลีย เตรียมออกระเบียบการทดสอบการชนด้านข้างใหม่ สำหรับรถยนต์นั่งและรถพาณิชย์ขนาดเบา นับเป็นชาติแรกที่จะใช้ข้อบังคับใหม่นี้ หลังจากที่ได้ยื่นข้อเสนอในที่ประชุมยูไนเต็ด เนชัน ในการประชุมครั้งที่ 150 หัวข้อ เวิลด์ ฟอรัม ด้านยานยนต์ World Forum for Harmonization of Vehicle Regulations ในปี 2553 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดจำนวนผู้บาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุการชนด้านข้างด้วยวัตถุขนาดเล็ก หรือเสาไฟฟ้าขนาดเล็ก
จากข้อมูลของ ศูนย์วิจัยการเกิดอุบัติเหตุมหาวิทยาลัยโมแนช Monash University Accident Research Centre ซึ่งทำงานร่วมกับภาครัฐ ในออสเตรเลีย เพื่อนำเสนอข้อมูลจากการเกิดอุบัติเหตุ พบว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนด้านข้างเกิดขึ้นราว 28% ของการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด และทำให้เกิดการบาดเจ็บถึง 25% โดยรถยนต์ที่ติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านข้าง ศีรษะ และทรวงอก มีส่วนช่วยให้เกิดความปลอดภัยถึง 51%
สถาบันเพื่อความปลอดภัยของรถใหม่ออสเตรเลีย ANCAP และสมาคมยานยนต์ออสเตรเลีย ก็ร่วมให้การสนับสนุนทั้งด้านข้อมูลและการสนับสนุนเงินทุน โดย ข้อบังคับทางเทคนิค ข้อ 14 พัฒนามามากกว่า 5 ปี ภายใต้การตรวจสอบข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุ การชน และนำมาตรวจสอบทางทฤษฎีและเทคนิคที่แต่ละประเทศใช้งานตามข้อบังคับของแต่ละประเทศ โดยภาครัฐจากหลากประเทศ อาทิ แคนาดา, จีน, สหภาพยุโรป, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ญี่ปุ่น, เนเธอร์แลนด์, เกาหลีใต้, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา มีเพียง ออสเตรเลีย ประเทศเดียวและประเทศแรกที่เตรียมประกาศใช้ข้อบังคับนี้
สถาบันเพื่อความปลอดภัยของรถใหม่ออสเตรเลีย ANCAP กำหนดประกาศใช้สำหรับรถใหม่ที่จำหน่ายในออสเตรเลีย ซึ่งจะช่วยในการปกป้องผู้อยู่ภายในรถยนต์ จากการเกิดอุบัติเหตุและกระแทกกับต้นไม้ หรือเสาไฟฟ้าริมถนน โดยได้มีข้อบังคับสำหรับการปกป้องการชนจากด้านข้าง หากค่ายรถยนต์ต้องการได้ระดับ 5 ดาว นับแต่ปี 2546 ซึ่งทำให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ ต้องทยอยติดตั้งเพิ่มถุงลมนิรภัยด้านข้างเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ประธาน ANCAP ระบุว่า การทดสอบการชนจากด้านข้างสำหรับประเทศออสเตรเลีย จะเริ่มตั้งแต่ปี 2561 สำหรับค่ายรถยนต์ที่ต้องการได้ระดับ 5 ดาว จากการทดสอบการชน โดยในเดือนพฤศจิกายน 2560 บังคับใช้สำหรับรถยนต์นั่ง แะบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2561 สำหรับรถพาณิชย์ขนาดเบา
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…