Brand: TOYOTA Model: Corolla
Year: 1992 Miles: 100001 – More
From: นายพชร จาตุกรณยกิจ
เรียน คุณธเนศร์
1. ได้สอบถามเรื่องไฟรูปเครื่องยนต์กระพริบ ตามรายละเอียดด้านล่าง ข้อ 1 ครับ ลักษณะคล้ายก๊อกน้ำสีเหลืองในรถ toyota corona หน้ายิ้ม เครื่อง 2000 หัวฉีด ปี 92 เกียร์ออโต้ ที่ทางคุณธเนศ์ ตอบมาว่าเป็นแค่ไฟเตือนจะติดก่อนสตาร์ทเครื่องแล้วดับ เป็นการตรวจสอบตัวเองของระบบเท่านั้น ซึ่งถูกต้องครับ แต่ที่มีปัญหาคือจะกระพริบหลังจากเครื่องติดและทำการวิ่งแล้ว ไฟรูปเครื่องยนต์จะกระพริบ พร้อมไฟรูปแบตเตอรี่สีแดง (ต้องขอโทษที่ไม่ได้แจ้งเรื่องไฟแบตเตอรี่กระพริบครับ) จะกระพริบพร้อมกันประมาณ 1 วินาที แล้วก็หายไป และบางครั้งจะกระพริบเฉพาะไฟรูปเครื่องอย่างเดียว วันหนึ่งจะกระพริบหลายครั้ง และบางวันก็ไม่มีอาการกระพริบเลยครับ อยากทราบว่ามีปัญหาจากตรงไหนครับ
2. ถ้าผมเข้าศูนย์ตรวจเช็คตามระยะเวลาทางศูนย์เขาจะตรวจเช็คอะไรให้บ้างครับและค่าตรวจเช็คอยู่ประมาณเท่าไหร่ครับ
3. ก่อนที่จะเปลี่ยนเกียรออโต้์รถก็จะมีอาการกินน้ำมันระดับน้ี้ครับ และ 2 เดือนที่แล้วเคยได้เข้าศูนย์เช็คเรื่องรถกินน้ำมันเชื้อเพลิง ทางศุนย์ได้เช็คกำลังอัดของเครื่องบอกว่าปกติ และได้ทำการเปลี่ยนกรองอากาศให้ใหม่ แต่ก็ยังกินน้ำมันอยู่ครับ
รบกวนอาจาร์ยธเนศร์อีกครั้งนะครับ
ขอบคุณมากครับ
————————————————————————————–
เรียน คุณธเนศ์
ผมขับรถ toyota corona หน้ายิ้ม ปี92 เครื่อง 2000 หัวฉีด
เกียร์ออโต้ วิ่งประมาณ 224000 มีอาการดังนี้ครับ
1. ไฟรูปเครื่องสีเหลืองจะโชวขึ้นประมาณ1-2วินาทีแล้วก็หายไปบางวันก็ไม่เป็นบางวันก็เป็นหลายรอบอาการเครื่องก็ไม่มีปัญหา ได้สอบถามทางอู่ทางอู่บอกว่าเป็นที่ตัวกล่อง ECU จะมีอาการเหล่านี้ถ้าเสียก็คือเครื่องดับ สต๊าดไม่ติด ทางอู่บอกว่าซ่อมได้แต่ราคาพอๆกับซื้อของเก่ามือ2 คือราคาประมาณ 6-7000 บาท อยากทราบว่าเป็นท่ี่ตัว ECU หรือเปล่าครับ หรือเป็นที่ตัวฟิวตัวอื่นครับเพราะราคาสูงมาก
2. อาการรถสะอึก จะป็นตอนออกรถช่วงแรกๆรถจะมีอาการสะอึกเกิดขึ้น 2-3 ครั้ง พอขับไปได้สักพักอาการสะอึกก็หายไป
3. ในขณะที่อยู่เกียร์ N หมุนพวงลัยไม่ว่าจะไปทางซ้ายหรือทางขวารอบเครื่องจะขึ้นจากเดิม 100-200 รอบไม่ทราบว่าปกติหรือเปล่าครับ
4. อาการสั่นของรถคือเมื่อทำการบรรทุกผู้โดยสารจำนวน 4-5 คน จะมีอาการสั่นมากๆให้ห้องโดยสารดังครื้นๆ ในช่วงความเร็ว 60 กิโล/ชม ที่ 1800 รอบ แต่พอความเร็วถึงช่วง 80 กิโลเมตรขึ้นไปอาการดังกล่าวก็หายไป แต่ถ้าทำการโดยสาร 2-3 คนรวมคนขับอาการดังกล่าวมีแต่น้อยมาก ได้ถามทางอู่บอกว่า ต้อง โอเวอร์ฮอนด์เครื่องใหม่ เพราะเครื่องกำลังไม่พอจึงทำให้เกิดอาการสั่นขึ้นได้ พอขับไปถึง 80 อาการหายเพราะความเร็วลอยตัวแล้วจึงไม่เกิดอาการสั่น และได้เช็คอีก 2-3 อู่ก็ตอบไม่เหมือนกันคือเปลี่ยนยางแท่นเครื่องแท่นเกียร์บ้าง ไปร้านยางตั้งศูนย์ล้อบ้างตั้งแบบจี้เป็นจุดๆ เป็นที่เพลาขับตัวในบ้าง เลยไม่แน่ใจว่าจะแก้จุดไหนเพราะแต่ละอู่ตอบไม่เหมือนกันสักอู่ ในกรณีที่ต้อง โอเวอร์ฮอนเครื่อง ถ้าเครื่องกำลังไม่พอทุกคันจะมีอาการดังกล่าวนี้หมดทุกคันหรือเปล่าครับ ถ้าต้องโอเวอร์ฮอน การโอเวอร์ฮอน กับการยกเครื่องใหม่ในตระกูล toyota แบบไหนดีกว่าและราคา โอเวอร์ฮอนอยู่ที่ราคาประมาณเท่าไหร
5. ขับในเมืองรถกินน้ำมันอยู่ที่ 6 กิโลลิตร นอกเมืองอยู่ที่ 8 กิโลลิตรไม่ทราบว่ากินน้ามันมากไปหรือเปล่าถ้าเทียบกับรถรุ่นเดียวกัน ถ้ากินน้ำมันมากสาเหตุเกิดจากเครื่องหลวมหรือเปล่าครับ เพราะที่ขับอยู่รถก็ไม่กินนำ้มันเครื่องครับ
หมายเหตุ
– เปลี่ยนเกียร์ออโต้ เพราะเกียร์เก่าพังเป็นที่ตัวโซลินอยด์เสีย และทางอู่ได้ถอดเพลาขับไปทำเกลียวคานรับเครื่องเพราะเกลียวหวานครับและได้ทำการตั้งศูนย์ให้ใหม่
ขอรบกวนอาจาร์ยธเนศร์แค่นี้ครับ
ขอบคุณมากครับ
นายพชร จาตุกรณยกิจ
1-ไฟสีเหลือง มักจะเป็นเพียงแค่ไฟเตือน ติดก่อนสตาร์ทเครื่องแล้วดับไป ยิ่งไม่ต้องกังวลใหญ่ เป็นการตรวจสอบตัวเองของระบบเท่านั้น
ไม่ต้องซ่อมครับ
2-ต้องตรวจสอบระบบเชื้อเพลิงทั้งหมด โดยการวัดแรงดันของระบบ ตามจุดต่างต่างที่เขามีไว้ให้วัด เพื่อดูว่า อะไรเสียหาย เช่นปั๊ม กรองน้ำมัน หรือวาล์วกักแรงดันน้ำมัน และ/หรือ วาล์วควบคุมการไหลกลับของน้ำมัน ซึ่งเมื่ออุปกรณ์เหล่านี้เสียหาย อาการสะอึกก็เกิดขึ้นได้
3-แสดงว่า ตัวชดเชยรอบทำงาน แต่ตัวมอเตอร์เดินเบาน่าจะสกปรก ทำให้ค้างเป็นครั้งคราว เพราะปกติ จะไม่มีอาการรอบสูงขึ้น และรอบไม่ตกต่ำลงด้วย คือรอบคงเดิมตลอดเวลา
4-เมื่อบรรทุกหนัก ตัวถังรถจะยุบตัวลง แล้วเกิดการสั่นสะท้านขึ้นที่ตัวถัง ก็น่าจะมาจากระบบช่วงล่าง หรืออาจจะเป็นได้ที่เพลาขับ โดยหัวเพลาตัวในทำมุมหักมากขึ้น ก็เกิดการสั่นสะท้านจากความไม่ได้ดุลของเพลาขับได้เช่นกัน
ต้องเช็กทั้งช่วงล่าง และเพลาขับที่หัวเพลาตัวใน กับเฟืองวัดความเร็ว ซึ่งตัวหลังนี่ส่งผลกับการทำงานของเครื่องยนต์ ที่หัวฉีดนะครับ
เรื่องยกเครื่อง ไม่ต้องพูดถึง
5-เครื่องยนต์ของคุณ ควรได้รับการตรวจเช็กตามระยะเวลาบ้างแล้ว ในขณะนี้ เพราะกินน้ำมันมากเกินไป อาจจะเป็นเพราะเกียร์อัตโนมัติไม่เข้ากับเครื่องยนต์ หรือตัวเฟืองวัดความเร็วผิดพลาด ไม่เหมาะกับรุ่นรถและเครื่องยนต์ของคุณ เรื่องพวกนี้ ตรวจสอบยาก
หากแค่เช็กตามระยะแล้วอาการดีขึ้น กินน้ำมันน้อยลง ก็โชคดีไป
แต่เช็กแล้วไม่ดีเลย ก็ค่อนข้างแน่ใจได้ว่า เป็นจากเกียร์ ทำใจ หรือทำใจไม่ได้ ก็ขายรถทิ้งไป-ธเนศร์
————————————————————————————–
1-ขอเรียนยืนยันคำตอบเดิม คือไม่ทราบ ต้องเอาเข้าไปเช็กกับศูนย์บริการ หรืออู่ที่มีเครื่องมือเช็ก แบบ Scanner ครับ จึงจะได้คำตอบว่า อะไรที่ต้องการการดูแลรักษา หรือซ่อมแซม ไปที่อู่ X-ay Auto ถนนศรีวราก็ได้ครับ เขามีอุปกรณ์ตรวจเช็ก ที่จะอ่านรหัส และบอกได้ว่า อะไรเป็นอะไร อะไรเกิดขึ้น
2-เข้าที่ไหนก็ได้ครับ ขอให้มีเครื่องอ่านรหัสเท่านั้นเป็นพอ เข้าศูนย์บางที ช่างก็ไม่ได้ใช้เครื่องเช็กรหัส เพราะช่างไม่กล้าใช้ หรือใช้ไม่เป็นก็มีถมไป
ราคาค่าเช็กด้วยอุปกรณ์อย่างเดียว 3-500 บาท ค่าแรงเช็กผมไม่ทราบ น่าจะอยู่ระดับเจ็ดร้อยขึ้นไปถึงพันห้าแล้วแต่ว่า ระดับไหน และอู่หรือศูนย์นั้น ใช้ราคาอย่างไร อย่าถามผมเลยครับ เรื่องแบบนี้ เพราะเป็นเรื่องของแต่ละอู่ แต่ละศูนย์ ที่ไม่เหมือนกัน และไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผมทราบ
ข้อ 3- ก็คำตอบเดิมละครับ อ่านซ้ำอีกสิบทีก็ได้นี่นา แล้วจะบอกมาทำไมล่ะ อ้อ หมายถึงว่า ก่อนหน้านั้น ก็กินแบบนี้น่ะหรือครับ
เอาอย่างนี้ คุณใช้ความเร็วเท่าไรในการขับขี่ และการขับขี่ของคุณ เป็นอย่างไร เติมลมยางเท่าไร บอกมาให้ละเอียดก่อน บอกทุกอย่างด้วยว่า บรรทุกหนักไหม ศูนย์ล้อเที่ยงตรงไหม อะไรต่ออะไรแบบนี้แหละ ไม่อย่างนั้น วินิจฉัยไม่ได้หรอก เรื่องกินน้ำมันหรือไม่กินน้ำมันนี่ บอกได้แบบทั่วไปเท่านั้นแหละ-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…