โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ร่วมกับโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ส คาร์ส แบงคอก โดยบริษัท มิลเลียนแนร์ ออโต้ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ “MGC” ภูมิใจเสนออัครยานยนต์ โกสท์ อัลไพน์ ไทรอัล เซ็นเท็นเนรี่ เป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันเป็นหนึ่งในยนตรกรรมรุ่นพิเศษสุดผลิตขึ้นเพียง 35 คันทั่วโลกซึ่งเป็นการออกแบบสุดปราณีตเฉพาะรุ่นภายใต้โปรแกรม บีสโป็กจาก โรลส์-รอยซ์
มร. เฮอร์ฟรีด ฮัสนัล ผู้จัดการทั่วไปตลาดใหม่ประจำภาคพื้นเอเชีย บริษัท โรลส์-รอยซ์มอเตอร์ คาร์ส จำกัดและคุณฉัตวิทัย ตันตราภรณ์ ผู้จัดการทั่วไปโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ได้ให้เกียรติร่วมงานในงานเปิดตัว ซึ่งจัดขึ้น ณ สยามพารากอน มอลล์ อันเป็นที่ตั้งของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ แบงคอก บูติค โชว์รูม
อัลไพน์ เซ็นเท็นเนรี่ คอลเลคชั่น ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แรงบันดาลใจอันน่าทึ่ง เมื่อ 100 ปีที่ผ่านมา จาก โรลส์-รอยซ์ ซิลเวอร์ โกสท์ (Silver Ghost) 4 คันที่เข้าร่วมการแข่งขันแรลลี่ในรายการ ออสเตรียน อัลไพน์ ไทรอัล (Austrian Alpine Trials) ซึ่งเป็นที่สุดแห่งบททดสอบในด้านความแกร่งของยานยนต์ได้เป็นอย่างดี
ปฏิบัติการบนเส้นทางที่ทุรกันดารและยาวไกลกว่า1,820ไมล์ (ประมาณ2,912กิโลเมตร) ของทีมแข่งขันจากโรลส์-รอยซ์ และ เจมส์ แรดเลย์ ได้สร้างชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ และความเป็นเลิศอันหาที่เปรียบไม่ได้ในด้านวิศวกรรมยานยนต์ให้กับ โรลส์-รอยซ์ สู่ความภาคภูมิใจในวันนี้ ซิลเวอร์ โกสท์ จึงเป็นตำนานที่สร้างให้ Rolls-Royce คือ “ยนตรกรรมที่ดีที่สุดในโลก”
ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บีสโป๊กของโรลส์-รอยซ์ ณ โรงงานกู๊ดวู้ด ประเทศอังกฤษ จึงได้ฉลองตำนานแห่งความสำเร็จด้วยการเปิดตัว อัลไพน์ เซ็นเท็นเนรี่ คอลเล็คชั่น
“อัลไพน์ ไทรอัล ในยุคปี 1913 เป็นช่วงเวลาที่พิเศษในประวัติศาสตร์อันยาวนานของ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เรามีความยินดีที่จะใช้ประเทศไทยเป็นเวทีการเปิดนำเสนอ คอลเลคชั่นแห่งแรงบันดาลใจเป็นครั้งแรกในเซาท์อีสท์เอเชีย โดยประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและเป็นตลาดสำคัญของยานยนต์ระดับซูปเปอร์ลัคชัวรี่คาร์สที่เปี่ยมด้วยงานฝีมือปราณีตหรูตามแบบฉบับของ โรลส์-รอยซ์” มร. เฮอร์ฟรีด ฮัสนัล กล่าว
ด้านคุณฉัตวิทัยกล่าวว่า“อัลไพน์เซ็นเท็นเนรี”คอลเล็คชั่นพิเศษนี้เป็นโมเดลที่ทรงคุณค่าของ โรลส์-รอยซ์ ซึ่งโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอกมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้โชว์โฉม อัลไพน์ ที่กรุงเทพฯในวันนี้ และเชื่อว่าจะตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่ต้องการสะสมรถรุ่นลิมิเต็ดนี้ได้เป็นอย่างดี”
ยนตรกรรม โรลส์-รอยซ์ อัลไพน์ คอลเลคชั่น
ครั้งแรกของการเปิดตัวยนตรกรรมที่พิเศษสุดคันนี้ได้รับแรงบันดาลใจ ตำนานแห่งความภาคภูมิใจของโรลส์-รอยซ์โดยยนตรกรรมรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นจาก โรลส์-รอยซ์ โกสท์ มีการออกแบบที่สร้างขึ้นอย่างปราณีตในแบบฉบับเดียวกันกับอัลไพน์ ไทรอัลในยุคปี 1913 โดยเฉดสีของตัวรถภายนอก คือตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่น ซิลเวอร์ โกสท์ ซึ่งเข้าร่วมการแข่งขันในรายการอัลไพน์ ไทรอัล ในปี 1913 และขับขี่โดย “เจมส์ แรดเลย์ (Radley)” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมแข่งจากโรลส์-รอยซ์
กระจังหน้าและล้อเป็นสีดำ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่กระจังทาสีได้ถูกนำมาตกแต่งในแบบร่วมสมัยกับยนตรกรรมของโรลส์-รอยซ์
ภายในตกแต่งอย่างปราณีตบอกเล่าเรื่องราวของอัลไพน์ ไทรอัล อาทิ นาฬิกาจับเวลาการแข่งขันแรลลี่ในแต่ละสเตจ ขณะที่โต๊ะปิคนิคด้านหลังและแผงหน้าปัดด้านหน้าแสดงภูมิประเทศและระยะทางของเส้นทางบนเทือกเขาอัลไพน์ แต่ละองค์ประกอบล้วนถูกรังสรรค์ด้วยงานช่างฝีมือ อย่างพิถีพิถันพร้อมการวิจัยข้อมูลในทุกด้านเพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้องตามมาตรฐานของแบรนด์โรลส์-รอยซ์
การรังสรรค์งานฝีมือของเส้นโค้ชไลน์อ้างอิงจากโรลส์-รอยซ์ทั้ง 4 คัน ที่เข้าร่วมในการแข่งขันแรลลี่ครั้งนั้น พร้อมสีที่เข้าคู่กับวัสดุบุหลังคารถของแรดลี่ย์( Radley) อันเป็นการแสดงถึงการให้เกียรติอย่างงดงามสมบูรณ์
เมื่อเดือนมิถุนายน 2013 ที่ผ่านมา อัลไพน์ ไทรอัล เซ็นเท็นเนรี่ คอลเล็คชั่น ได้เข้าร่วมรำลึกตำนานการแข่งขันของ เจมส์ แรดเลย์พร้อมกับ ซิลเวอร์ โกสท์ ทั้ง 46 คัน ในโอกาสฉลองครบรอบ 100 ปี ของการแข่งขันแรลลี่อัลไพน์ ไทรอัล, ซิลเวอร์โกสท์ 47 คัน พร้อมด้วยรถยนต์จากทีมโรลส์-รอยซ์ โลดแล่นผ่านเทือกเขาแอลป์ โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 17 วัน ด้วยระยะทางที่มากกว่า 1,800 ไมล์ (กว่า 2,880 กิโลเมตร ) และนั่นเป็นเหตุการณ์ที่จะถูกจารึกในความทรงจำของผู้พบเห็นไปอีกตราบเท่านาน
ประวัติศาสตร์ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยผู้กล้าหาญทั้งหลายได้ขับเคลื่อนซิลเวอร์โกสท์ มุ่งหน้าสู่เทือกเขาอัลไพน์อันท้าทาย และข้ามพรมแดน 5 ประเทศก่อนที่จะไปบรรจบที่เวียนนาเฉกเช่นเดียวกับผู้เข้าแข่งเมื่อ 100 ปีก่อน โดย เซ็นเท็นเนรี่ อัลไพน์ ไทรอัล ในปี 2013 ได้มีทั้งราชวงศ์ และเหล่าขุนนางจากอังกฤษ อีกทั้งสุภาพสตรี เอกอัครราชทูตจาก 12 ประเทศ เข้าร่วมอาทิ ออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา
#########################################
premsak@caronline.net