Brand: BMW Model: 3-Series
Year: 1992 Miles: 100001 – More
From: วุฒิรัฐ พันธ์สวัสดิ์
ขับรถติดไฟแดงรอบเดินเบาสวิงจนเครื่องดับ พอติดเครื่องใหม่ก็สวิงจะดับอีกจึงเลี้ยงคันเร่งไว้พอไฟเขียวผ่อนคันเร่งเพื่อเข้าเกียร์(ออโต้)เครื่องดับอีก จึงติดเครื่องใหม่แล้วเบิ้ลๆคันเร่งแล้วรีบเข้าเกียร์เพราะกลัวเครื่องดับอีก ออกตัวแบบกระชากมากเพราะรอบที่เข้าเกียร์ค่อนข้างสูง ตั้งแต่นั้นมาช่วงความเร็วระหว่าง 40 – 60 กม./ชม. เวลาถอนคันเร่งจะมีเสียงดัง วื้อๆ มาจากด้านหลังครับ เป็นเฉพาะเวลาถอนคันเร่ง และเป็นที่ความเร็วนี้ช่วงเดียวครับ เอารถไปซ่อมที่อู่ (ซ่อมแอร์โฟว์จากอาการรอบเดินเบาสวิง)ช่างเอารถไปลอง กลับเข้ามาและบอกว่ารถมีเสียงดัง สงสัยเฟืองท้ายจะไปแล้ว ถ้าซ่อมก็ประมาณหมื่นกว่าบาท แต่ก็ยังใช้งานได้ถ้ายังไม่ซ่อม ผมเลยยังไม่ซ่อมครับ ใช้ไปประมาณเดือนกว่า เอารถไปซ่อมเกจ์วัดน้ำมันเชื้อเพลิง ที่อู่เดิม ช่างเอารถไปลองอีกเมื่อซ่อมเสร็จ กลับมาก็บอกอาการเราว่ารถมีเสียงดังสงสัยลูกปืนล้อหลังจะไปแล้ว(ช่างที่ลองรถเป็นคนๆเดียวกับครั้งแรก)ผมชักไม่แน่ใจแล้วครับว่าเสียงที่ดังมันน่าจะมาจากอะไร เลยยังไม่กล้าซ่อมครับ คุณอามีอู่ดีๆแถวบางนาบ้างไหมครับไม่อยากเสียเงินฟรีครับ เพราะอู่ที่ผมเข้าซ่อมเนี่ยเขารับซ่อมเฉพาะเบนซ์กับบีเอ็ม ยังวิเคราะห์ไม่ตรงกันเลยแม้จะเป็นช่างคนเดียวกัน
ลองวิเคราะห์เองดีไหมครับ
ผมชอบสอนคนให้จับปลากินเองครับ เรื่องนี้ ไม่ยาก คุณลองเองได้เลย
ขับรถเข้าไปแถวซอยที่มีกำแพงทึบทั้งสองข้างซอย ให้ซอยแคบหน่อยนะครับ ไม่ต้องกว้างนัก
เปิดกระจก ปิดเครื่องเสียง แล้วฟังเสียงหวือหวือของการหมุนของล้อหรือส่วนที่หมุน ความเร็วไม่ต้องมาก แค่ 40-60 ก็พอ หรือต่ำกว่านั้นก็ยิ่งดี จะได้ยินชัด
หากไม่ได้ยิน หรือได้ยิน แต่ไม่แน่ใจ เอาใหม่ คราวนี้ วิ่งตามถนนลาดยางเรียบเรียบ ความเร็วตั้งแต่ 20 ขึ้นไป หากมีเสียงดังหวือหวือหรือเสียงหอน เริ่มดังที่ความเร็วต่ำ จาก 20-40 ขึ้นไป จะเป็นเสียงมาจากยาง
หากเลยความเร็วนั้นไป แล้วเสียงเพิ่งดังขึ้น เช่นจาก 60-70-80 ก็จะเป็นเสียงลูกปืนล้อ เอาออกมาเปลี่ยน หรืออัดจารบีแล้วปรับตั้งใหม่ อาจจะไม่ต้องเปลี่ยน
ถ้าความเร็วที่ทำยังไม่มีเสียง ถึง 80-90 ลองยกคันเร่งดู ถ้ามีเสียงดังตามมา เป็นเสียงเฟืองท้าย
เฟืองท้าย BMW ปรับได้ แต่ปรับแล้วอาการจะกลับมาอีกเร็ว เพราะฉะนั้น ช่างจึงมักจะแนะนำให้เปลี่ยนครับ-ธเนศร์
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…