เร่งไม่ขึ้น และ กระตุกแรงมาก

Brand: HONDA Model: Accord
Year: 2000 Miles: 80001-100000
From: ศศิ นันทบริบูรณ์

: 2.3 VTi

ใช้ Honda Accord ปี 2000 ค่ะ อาการเริ่มแรกคือ เครื่องกระตุกช่วงออกตัว (ช่วงติดไฟแดง)ก็ไม่ไดสนใจ ระยะหลังกระตุกแรงมาก และ รู้สึกว่าเร่งไม่ขึ้น และอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ สังเกตว่ามักเป็นช่วงที่ไต่ระดับความเร็ว (20-40 กม/ชม.) หลังจากที่รถกระตุกอย่างแรงจะสามารถวิ่งไปได้ เมื่อวิ่งไปถึงความเร็ว > 70 กม/ชม. แล้วไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ไม่กล้าใช้ เพราะล่าสุดขับไปต่างจังหวัด มีช่วงที่ขึ้นเขา ขับแซงรถบรรทุก แต่เร่งไม่ขึ้นเลย รบกวนช่วยแนะนำด้วยค่ะ


ผมอ่านแล้ว ทราบว่า ข้อมูลของคุณ ไม่เพียงพอสำหรับการวินิจฉัยแบบตรงเป้านักนะครับ แต่จะพยายาม
พยายามเดาน่ะครับ เดาให้ใกล้เป้าหมายที่สุด เนื่องจากไม่ทราบอะไรมากไปกว่า รถกระตุก และเร่งไม่ขึ้น ไม่ทราบว่า เครื่องยนต์ไม่ยอมเร่ง ไม่ยอมหมุนเร่งรอบขึ้น หรือเครื่องยนต์เร่งรอบขึ้น แต่รถไม่วิ่ง อะไรทำนองนี้ อันเป็นเรื่องสำคัญที่คนวิเคราะห์ปัญหาต้องทราบก่อน โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้อยู่ที่รถ กับเจ้าของรถ หรือเจ้าของปัญหาด้วย
เอาเป็นว่า หากเป็นการกระตุกจากเครื่องยนต์จริงอย่างที่คุณบอกไป ก็ต้องเอาไปให้ช่างเขาเช็กระบบไฟจุดระเบิด ว่าคลาดเคลื่อน ไม่ทำงานตอนเร่ง หรือมีอะไรแตกหักเสียหายทางด้านตัวจับสัญญาณ หรือไม่ แก้ไขเสีย ก็น่าจะหาย
แต่ผมไม่ยักเชื่อ ว่าจะเป็นจากจังหวะไฟ แถมยังไม่เชื่อสักนิด ว่าอาการกระตุกนั้น เกิดจากเครื่องยนต์
เพราะปกติ หากอาการกระตุกเกิดจากเครื่องยนต์ ก็จะไม่ส่งผลให้เร่งไม่ขึ้น หากจะเป็นการเร่งไม่ออก ถ้าจะเร่งรอบไม่ได้หลังจากกระตุกแล้ว คือเครื่องยนต์ทำท่าจะไปไม่ไหวเอาทีเดียว แต่นี่ คุณไปได้ไม่ใช่หรือ ไปได้สูงถึงเจ็ดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียงแต่เร่งแซงไม่ไหวเท่านั้น
ดังนั้น ผมเดาเอาอย่างเดียวเลยว่า ระบบแบนด์เบรกในเกียร์ของคุณ เสียหาย สึกหรอ จนใช้ไม่ไหวแล้ว
กับอีกอย่าง คือคลัทช์ในเกียร์ ลื่นเสียแล้ว จับตัวไม่ได้ ทำให้รอบเครื่องเร่งขึ้นได้ แต่ความเร็วไม่ขึ้น ที่หากคุณบอกมาเพียงเท่านี้ ก็จะใช่เลย ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม อยากบอกว่า หากบอกมาได้เท่านี้ ก็เอารถไปให้ช่างดูเถิดครับ อย่าเสียเวลารอฟังคำตอบจากผม หรือจากใคร ด้วยว่า หากเกิดต้องตอบในเวลาไม่อยากตอบเท่าไรแล้ว ก็จะตอบกันแค่ว่า ไม่รู้ซีครับ สงสัยเครื่องยนต์ของรถคุณน่าจะพังแล้ว ระบบจุดระเบิด หรือน้ำมันนี่แหละ เสียหายเอามากมาก หรือไม่มากหรอกครับ แค่กรองน้ำมันตันเท่านั้น
เออ อันหลัง กรองน้ำมันตันหรือไม่ ก็เป็นตัวหนึ่งที่น่าจะสงสัยนะครับ ลองดูก่อนก็ดีเหมือนกัน ให้ช่างเขาวัดแรงดันน้ำมันหลังกรอง แต่คุณต้องหาช่างขยันหน่อย ที่จะทำให้ เพราะช่างยนต์เดี๋ยวนี้ มักจะฟังหรือดูอาการ แล้วตัดสินโครมไปเลย เพราะคุณเป็นคนจ่ายเงินค่าซ่อม ที่เขาจะซ่อมอย่างไร คุณก็ต้องจ่ายอยู่ดี
ช่างไม่ได้เสียเงินค่าซ่อมด้วยนี่ครับ-ธเนศร์

Facebook Comments