ส่วนด้านหลัง ก็จะปรับโฉมคล้ายๆ กัน ด้วยแถบไฟแนวนอน แสดงสถานะของรถยนต์ไฟฟ้า ในโครงการ อีคิว EQ พร้อมโลโก้ ดาวสามแฉก
รถไฟฟ้ารุ่นแรกนี้ ผลิตขึ้นในโรงงาน บรีเม็น Bremen ในเยอรมัน พร้อมอุปกรณ์ภายในที่ใช้ร่วมกับรุ่น จีแอลซี หลายส่วน แต่แผงหน้าปัด จะมีระบบ เอ็มบียูเอ็กซ์ MBUX ระบบที่พัฒนาล่าสุด ด้วยหน้าจอ 10.3 นิ้ว 2 จอ เพื่อให้ข้อมูลระบบความบันเทิง และระบบการทำงานของเครื่องยนต์ พร้อมตกแต่งด้วยแถบสีกุหลาบแดง
ระบบขับเคลื่อน อีคิวซี400 EQC400 พร้อมชุดแบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน 80 กิโลวัตต์/ชม. พร้อมมอเตอร์ 2 ตัว บนเพลาหน้าและเพลาหลัง ให้กำลังรวม 402 แรงม้า พร้อมแรงบิด 564 ฟุตปอนด์ สามารถทำความเร็วได้เร็วกว่าเครื่องยนต์ วี-12 ทำ 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.9 วินาที ความเร็วจำกัดเอาไว้ที่ 180 กม./ชม.
มาพร้อมโหมดขับเคลื่อน 5 แบบ คอมฟอร์ท Comfort, อีโค่ Eco, แม็กซ์ เรนจ์ Max Range, สปอร์ต Sport และ อินดิวิดวล Individual ปรับโหมดด้วยแพดเดิ้ลที่คอพวงมาลัย
เบนซ์ คุยว่ารถคันนี้เดินทางได้ 320 กม. สามารถใช้ระบบชาร์จเร็ว ดีซี DC fast charging ให้ได้ประจุราว 80% ภายใน 40 นาที แต่ด้วยนำ้หนักของชุดแบตเตอรี่ ซึ่งมีถึง 650 กก. ทำให้นำ้หนักรวมของตัวรถเป็น 2,450 กก.
ส่วนรถ จีแอลซี ปัจจุบัน มีเครื่องยนต์หลากชนิด ตั้งแต่ เครื่องยนต์เบนซิน, เครื่องยนต์ดีเซล, ไฮบริด-ไฟฟ้า และ ฟูอัล เซลส์ พลังงานไฮดรอเจน และเพิ่มรุ่นรถไฟฟ้าขึ้นมาอีกหนึ่งรุ่น
จะเริ่มการผลิตในปี 2562 โดยจะส่งจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ในปี 2563