รายงานข่าวจากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า เอสอีเอ อีเล็คตริค SEA Electric ประกาศการขึ้นสายการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้า เอสอีเอ 300 SEA 300 และ SEA 500 อย่างเป็นทางการ
นับเป็นเวลากว่า 8 ปี ที่ เอสอีเอ อีเล็คตริค พัฒนารถบรรทุกไฟฟ้า สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ดีเซล ไปเป็นพลังงานไฟฟ้า ในประเทศออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศ โดยติดตั้งระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ภายใต้ลิขสิทธิ์ เอสอีเอ ทดแทน
และนับแต่นี้เป็นต้นไป เอสอีเอ จะขึ้นสายการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้า เอสอีเอ 300 และ เอสอีเอ 500 โดยใช้ชิ้นส่วนพื้นฐาน เอสเคดี SKD จากค่ายรถบรรทุก ฮีโน่ แต่เป็นระบบไฟฟ้าของ เอสอีเอ โดยจะจำหน่ายผ่านผู้จำหน่าย 15 ราย ทั่วออสเตรเลีย
“เอสอีเอ อีเล็คตริค มีความยินดีที่จะเป็นผู้ผลิตรถบรรทุกไฟฟ้า เป็นรายแรกของประเทศออสเตรเลีย” กรรมการสำหรับตลาดโอเชเนีย เกล็น วอล์คเกอร์ Glen Walker ระบุในแถลงการณ์
ชุดแบตเตอรี่ ของ รถบรรทุก เอสอีเอ มีให้เลือกหลายขนาด โดยขนาดที่ใหญ่สุด ความจุ 280 กิโลวัตต์-ชม.สำหรับรุ่น เอสอีเอ 500-225 ในแบบ 6×2 ความยาว 9.24 เมตร ด้วยน้ำหนักรวม 25.5 ตัน
เช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อนและระยะเดินทาง ตามแต่ขนาดของชุดแบตเตอรี่ ที่เริ่มต้นด้วยระยะทาง 200 กม. ไปจนถึง 300 กม.
ส่วนราคาจำหน่าย ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ส่วนเพิ่ม ที่ลูกค้าต้องการให้ติดตั้งเพิ่มเติม โดยประเมินว่า จะสามารถทำค่าใช้จ่ายได้คุ้มทุนในระยะเวลา 4-5 ปี
ปัจจุบัน เอสอีเอ ได้รับคำสั่งซื้อเรียบร้อยแล้ว ทั้งรุ่น เอสอีเอ 300 และ เอสอีเอ500 รวม 46 คัน ที่จะต้องติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมตามความต้องการของลูกค้า ทั้งแบบกระบะ, รถเก็บขยะ, รถเก็บผลไม้ และอื่นๆ
ประโยชน์ของการใช้งานรถบรรทุกไฟฟ้า ที่เห็ฯได้เด่นชัดที่สุด คือ ความเงียบ ไม่มีกลิ่นน้ำมันดีเซล ไม่มีมลภาวะ หรือฝุนผงที่เครื่องยนต์ดีเซล พ่นออกมาทางไอเสีย รวมทั้งปราศจาก ไนตรัส อ็อกไซด์ และ มีเทน ด้วย
ค่าใช้จ่ายราคาค่าไฟฟ้า สำหรับการชาร์จชุดแบตเตอรี่ ด้วยกระแสไฟฟ้า 3 เฟส 415 โวลต์ ตกราว 14 เหรียญ ต่อวัน หรือราว 400 บาท โดย วอล์คเกอร์ ระบุว่า ทุก 6 เดือน จะต้องทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้า ระบบเบรก ระบบแปลงแรงดันจากเบรกเป็นกระแสไฟฟ้า ซึ่งใช้เวลาราว 4 ชม.
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…