ค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดเผยรายละเอียดของรถไฟฟ้า ที่จะแนะนำสู่ตลาดภายในศตวรรษนี้ คุยว่าจะวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 500 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง พร้อมเตรียมส่งรถต้นแบบออกแสดงในงาน ปารีส มอเตอร์ โชว์ ปลายเดือนกันยายน นี้
เบนซ์ ประกาศในงานเทคเดย์ โร้ด ทู เดอะ ฟิวเจอร์ TecDay Road to the Future ที่ สตุ๊ทการ์ท เมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมทั้งเปิดโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟฟ้า ที่พัฒนาใหม่เพื่อจะใช้ในรถทุกรุ่นที่ขึ้นสายการผลิต สำหรับการติดตั้งแบตเตอรี่ โดยไม่ใช้โครงสร้างร่วมกับรถที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงทุกชนิด
โครงสร้างพื้นฐานของเบนซ์ ก็มีลักษณะคล้ายกับค่ายรถไฟฟ้าในอเมริกา เทสล่า ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน บนพื้นตัวรถ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพลาหน้าและเพลาหลัง ใช้ได้กับทั้งรถซีดานและเอสยูวีทุกประเภท พร้อมเรียกชื่อยาวเหยียดว่า Mercedes Benz multi model electric vehicle platform
หัวหน้าฝ่ายค้นคว้าและพัฒนาของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โทมัส เวเบอร์ Thomas Weber ยืนยันว่า “นี่เป็นการยืนยันพันธสัญญาของเรา ในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า และเราได้ลงทุนไปเป็นเม็ดเงินมหาศาล ในการพัฒนารถไฟฟ้า รวมทั้งเชื่อมั่นว่า เราพร้อมแล้วสำหรับตลาดรถไฟฟ้า”
เบนซ์ คุยว่าลงทุนไปแล้ว 7 พันล้านยูโร หรือราว 280 พันล้านบาท ในการพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียวในอีก 2 ปีข้างหน้า นอกเหนือจากพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า เบนซ์ ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีของรถยนต์ฟูอัล เซลส์ และรถไฮบริด ไฟฟ้า อีกด้วย โฮโดรเจน จีแอลซี และ จีแอลซี เอฟ เซลส์ GLC & GLC F Cell พร้อมชุดรีชาร์จแบตเตอรี่ ภายในศตวรรษนี้
รถไฟฟ้าของ เบนซ์ จะใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ โดยเตรียมแนะนำรถในตระกูลใช้เชื้อเพลิงเบนซิน ปีหน้า พร้อมระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ ภายในรถ โดยจะเริ่มจากรถราคาแพงก่อน และจากนั้นจะนำมาใช้กับรถไฮบริด รวมทั้งระบบสร้างพลังงานจลน์ จากการเบรก ป้อนกระแสไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอรี่ ระบบสตาร์ท-สต็อพ ระบบบู๊ซไฟฟ้า และเริ่มการขับเคลื่อนโดยใช้ระบบไฟฟ้าอย่างเดียว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของระบบเหล่านี้
ค่ายออดี้ ก็เริ่มใช้ระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ ในสายการผลิตแล้ว โดยเครื่องยนต์ เอสคิว7 SQ7 3 รุ่น ก็ใช้ระบบซูเปอร์ชาร์จด้วยกระแสไฟ 48 โวลต์ และเตรียมใช้กับรุ่น เอสคิว5 ดีเซล SQ5 ในอนาคต