เบนซ์ เตรียมโชว์ โวโลคอปเตอร์ ที่อินเดีย
รายงานข่าวจากกรุงเดลฮี ระบุว่า ในงาน อินเดีย ออโต้ เอ็กซ์โป 2020 ปีนี้ ค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมจัดรถระดับแรงและหรู รุ่น เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เอ35, เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที 63 เอส และ เมอร์เซเดส จีแอลเอ รุ่นล่าสุด 2020 รวมทั้ง โวโลคอปเตอร์ อากาศยานที่พัฒนาขึ้นเพื่อทำเป็นแท็กซี่
รถซีดาน เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เอ 35 จะเป็นรถซีดานรุ่นแรกที่นำออกโชว์ ในอินเดีย ด้วยการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าจากรุ่นปกติ ช่องรับลม กันชนหน้าและหลัง ท่อไอเสียหุ้มโครเมียมทั้งสองด้าน ส่วนภายใน ตกแต่งมาในแบบของ เอเอ็มจี เต็มอัตรา พร้อมระบบเพื่อความบันเทิงรุ่นใหม่ เอ็มบียูเอ็กซ์ MBUX, เบาะนั่ง และพวงมาลัย เอเอ็มจี โดยคอนโซลกลาง มาพร้อมสวิทช์ ควบคุมระบบกันสะเทือน
เครื่องยนต์เล็กที่สุดในกลุ่ม เอเอ็มจี 4 เบนซิน สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ พร้อมเกียร์ ดีซีที 7 สปีด ให้กำลัง 310 แรงม้า ด้วยแรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำความเร็ว 0-100 ได้ภายใน 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
ส่วนรุ่นท้อป เอเอ็มจี จีที 63 เอส คูเป้ 4 ประตู นับเป็นรถ 4 ประตูที่ทรงพลัง ด้ยวยการดีไซน์ระดับหรู ประตูไม่มีกรอบ ไฟท้ายเป็น แอลอีดี พร้อมไฟเลี้ยว แบบไดนามิค ท่อไอเสียคู่ พร้อมสปอยเลอร์หลัง ส่วนภายใน มาพร้อมความสปอร์ต และความหรูหรา เบาะนั่งหนัง นัปป้า และพวงมาลัย เอเอ็มจี จอแสดงผลกลางคอนโซลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมโลโก้ เอเอ็มจี อันใหญ่
เครื่องยนต์ เป็นเบนซิน วี8 เทอร์โบคู่ พร้อมเกียร์ออโต้ 9 สปีด ให้กำลัง 645 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร ทำความเร็ว 0-100 ภายใน 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 314 กม./ชม. นอกจากนั้นยังมีระบบรองรับด้วยถุงลม อีกด้วย
ส่วนรุ่น จีแอลเอ ที่ขายดีที่สุดใน อินเดีย มาพร้อมการปรับปรุงใหม่ ออกแบบใหม่ทั้งภายนอก ภายใน ภายนอก ไฟส่องสว่าง เป็น แอลอีดี ทรงรียวใหม กระจังหน้าทรงกลม เข้ากันกับช้่องรับลม พร้อมไปเบรก แอลอีดี ทรงเรียว รับกับไฟหน้า
ภายใน จอแสดงผลทรงแปดเปลี่ยน พร้อมระบบเพื่อความบันเทิงรุ่นล่าสุด เอ็มบียูเอ็กซ์ MBUX ช่องแอร์ทรงเทอร์โบ รวมทั้งปรับแต่งบนแผงหน้าปัดใหม่
มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 165 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์ออโต้ 7 สปีด, เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ให้กำลัง 225 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร และ ดีเซล 2.0 ลิตร ให้กำลัง 152 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์ ดีซีที 8 สปีด
และอากาศยานรุ่นล่าสุด โวโลคอปเตอร์ Volocopter ที่ออกแสดงในงานโชว์มาแล้วนับแต่เดือนกันยายน 2560 แต่มีการพัฒนาจากวิศวกรเยอรมันเรื่อยมา รวมทั้งการสนับสนุนเงินลงทุนจากเดมเลอร์ พัฒนาเพื่อจะทำเป็น แท็กซี่ โดยห้องโดยสาร นั่งได้ 2 คน พร้อมคนขับ ใช้พลังงานไฟฟ้า
โครงสร้างผลิตจาก คาร์บอน ไฟเบอร์ พร้อมใบพัดติดตั้งตายตัว 18 ตัว แต่ละตัวมีมอเตอร์ขับของตัวเอง พร้อมชุดแบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน 9 ชุด ใช้เวลาชาร์จปกติ 120 นาที
ก็ต้องคอยชมกันว่า คนอินเดีย จะให้ความสนใจกับ โวโลคอปเตอร์ มากน้อยขนาดไหน