รัฐบาลเยอรมันประกาศให้การสนับสนุนการจำหน่ายรถไฟฟ้า โดยตั้งงบประมาณเอาไว้ 1.2 พันล้านยูโร อันจะทำให้รถไฟฟ้ามีราคาถูกลง ขณะเดียวกัน ค่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ดาวสามแฉก ก็ตอบรับประกาศฉบับนี้ โดยแถลงว่าภายในปี 2563 ค่ายเบนซ์ จะส่งรถไฟฟ้าลงสู่ตลาดทั้งสิ้น 4 รุ่น
นักข่าวประเมินว่า น่าจะเป็นรถซาลูน 2 รุ่น ใน ซี-คลาส และ เอส-คลาส และเอสยูวี อีก 2 รุ่น จีแอลเอ และ จีแอลซี ที่อุปกรณ์มาตรฐานภายในจะเป็นลักษณะเดียวกับรถยนต์เครื่องยนต์ปกติที่จำหน่ายในปัจจุบัน แต่การออกแบบลักษณะภายนอก ทั้งกระจกบังลมหน้า หรือโครงสร้างหลังคา จะออกแบบใหม่ เพื่อให้เป็นที่จดจำได้ว่า นี่คือรถที่ปลอดมลภาวะทั้ง 4 รุ่น
รถไฟฟ้าของเบนซ์รุ่นใหม่นี้ จะเป็นคู่ต่อสู้โดยตรงของรถไฟฟ้าสัญชาติอเมริกัน เทสล่า มอเตอร์ ที่กำลังโด่งดังเรื่องรถไฟฟ้าในอเมริกา รวมทั้งยอดขายก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับแต่ เทสล่า ออกรุ่นซาลูน โมเดล เอส Model S เมื่อปี 2555 ขณะที่คู่ต่อสู้อีกเจ้าหนึ่ง ออดี้ ก็ประกาศออกมาเช่นกัน ว่าจะผลิตรถต้นแบบ อี-ทรอน ควอตโตร e-tron quattro ออกจำหน่ายในปี 2561 เพื่อต่อสู้กับตลาดรถไฟฟ้าที่กำลังเริ่มจะรุ่งเรือง
แต่โฆษกของเบนซ์ก็บอกว่า ค่าใช้จ่ายในการพัฒนารถไฟฟ้า สูงมาก หากจะทำให้คุ้มค่าการผลิตจะต้องผลิตมากกว่า 50,000 คัน/ปี แต่เพื่อเป็นการเจาะตลาด ในช่วงปีแรกน่าจะผลิตได้ไม่เกิน 50,00 คัน/ปี ซึ่งแน่นอนว่าราคาจะสูงมาก แม้แต่ เทสล่า ก็เพิ่งจะผลิตรถไฟฟ้า โมเดล เอส ในราคาจำหน่าย 2,076,000 บาท ที่สามารถทำกำไรได้เป็นครั้งแรก หลังจากผลิตรุ่นเก่าๆ ที่ขาดทุนไปเป็นเงินมหาศาลก่อนหน้านี้
ค่ายเบนซ์ วางแผนจะใช้โครงสร้างพื้นฐาน เอ็มเอฟเอ MFA ที่พัฒนาครั้งแรกเพื่อรถไฟฟ้า บี-คลาส โดยเฉพาะ ส่วนในรุ่น ซี-คลาส, เอส-คลาส และ จีแอลซี ที่จะทำรถไฟฟ้า จะใช้โครงสร้างพื้นฐานพัฒนาใหม่ เอ็มอาร์เอ MRA (Modular Rear Architecture) ที่เตรียมไว้สำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ
รถรุ่นแรกที่จะออกในปีหน้า จะเป็นรุ่น จีแอลซี ฟูอัลเซลล์ ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ที่จะเริ่มด้วยการให้เช่าใช้ เพื่อเป็นแนวทางในการผลิตรถไฟฟ้า ซึ่งจะวางชุดแบตเตอรี่เอาไว้ในพื้นโครงรถ โดยจะสามารถผลิตเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือขับเคลื่อนสี่ล้อได้ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยศูนย์ผลิตรถไฟฟ้าของเบนซ์ จะใช้แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน ที่ผลิตโดย แอคคิวโมทีฟ Accumotive สามารถเดินทางได้ระยะทาง 400 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
และหลังจากเบนซ์ ออกรถไฟฟ้าสู่ตลาดแล้ว ก็จะส่งต่อให้บริษัทในเครือ ผลิตรถไฟฟ้าสำหรับ สมาร์ทฟอร์ทู Smart’s Fortwo ต่อไป
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…
บริษัท มิตซูบิช…