หลังจากการเกิดอุบัติเหตุในสนามแข่งขัน เนอร์เบิร์กริง ทำให้ผู้เข้าชมถึงแก่ชีวิต เมื่อต้นปีก่อน และสนามได้ประกาศจำกัดความเร็วในเส้นทางบางช่วง เพื่อทำการปรับปรุงความปลอดภัย ทั้งในสนามแข่ง และส่วนกั้นผู้ชม
สนามแห่งนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะรถซูเปอร์คาร์ ส่วนใหญ่ มักใช้ในการทำความเร็วต่อรอบ เพื่อนำเอาผลการวิ่งทำความเร็ว มาเป็นเครื่องล่อตาล่อใจผู้บริโภค ว่ารถรุ่นนั้นๆ แรงทีเดียว ทำความเร็วต่อรอบที่เนอร์เบิร์กริง ได้ภายในเวลาเท่านั้นเท่านี้ แต่เมื่อมีการจำกัดความเร็ว บรรดาซูเปอร์คาร์ ก็ได้แต่เฝ้าคอย ว่าเมื่อไรการปรับปรุงจะแล้วเสร็จ
แคปริคอน Capricorn ผู้บริหารสนามอย่างเป็นทางการ ได้แถลงประกาศยกเลิกจำกัดความเร็วในบางเซ็คชั่นแล้ว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะประเดิมด้วยการแข่งขันที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เนอร์เบิร์กริง 24 ชั่วโมง
การปรับปรุงครั้งนี้ กระทำทั้งสิ้น 7 จุด ทั้งในสนามที่ลาดยางใหม่ ราว 500 เมตร ปรับปรุงพื้นที่หวงห้าม รั้วกั้น และเขตห้ามผู้เข้าชม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยยิ่งขึ้น แม้ว่าภายในสนามจะเกิดอุบัติเหตุ แต่จะไม่กระเด็นออกมาปะทะผู้ชมด้านนอกอย่างใด
บันทึกความเร็วสูงสุดที่สามารถทำได้ในสนามเนอร์เบิร์กริง แห่งนี้ เมื่อปี 2556 โดย ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ 918 Spyder ด้วยเวลาเพียง 6.57 นาที โดยซูเปอร์คาร์ยี่ห้อคู่แข่งขัน โคนิกเซกก์ Koenigsegg ตั้งเป้าที่จะทำลายสถิตินี้ให้ได้
“ไพรม์มัส กรุ๊ป…